×

มงคลกิตติ์สารภาพกลางสภาฯ รู้สึกผิดที่โหวตเลือกประยุทธ์เป็นนายกฯ ด้อยความสามารถ กู้เงินสร้างหนี้มหาศาล

โดย THE STANDARD TEAM
09.06.2021
  • LOADING...
มงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์

วันนี้ (9 มิถุนายน) มงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) บัญชีรายชื่อ พรรคไทยศรีวิไลย์ อภิปรายพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) กู้เงิน 5 แสนล้านบาทว่า ปัจจุบันประเทศไทยมีเสถียรภาพทุนสำรองระหว่างประเทศอยู่ที่ 8.767 ล้านล้านบาท และมีหนี้สาธารณะปัจจุบันอยู่ที่ 8.593 ล้านล้านบาท คิดเป็น 54.91% ต่อ GDP และปัจจุบันมีกรอบวินัยการเงินการคลังอยู่ที่ 60% ต่อ GDP ซึ่งจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ผ่านมาทั้ง 3 รอบ ในรอบแรกรัฐบาลผิดไม่ค่อยมาก การแพร่ระบาดรอบที่ 2 รัฐบาลผิดเต็มๆ ทั้งการเปิดบ่อนและนำเข้าแรงงานต่างด้าวโดยไม่กักตัว รัฐบาลผิด 100% และการระบาดรอบที่ 3 รัฐบาลผิดหนักเข้าไปอีกจากคลัสเตอร์ทองหล่อ แรงงานต่างด้าวโดยไม่กักตัว ถือว่ารัฐบาลผิดเป็น 200%

 

มงคลกิตติ์ระบุอีกว่า เมื่อย้อนกลับมาที่หนี้ภาคครัวเรือน ประเทศไทยมีหนี้อยู่ที่ 14.02 ล้านล้านบาท เฉลี่ยต่อคนอยู่ที่ 211,824 บาท คือเกิดมาประชาชนต้องเป็นหนี้เลย และในช่วงที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นรัฐบาล ได้จัดทำงบประมาณขาดดุลเป็นเวลาติดต่อกัน 5 ปี ซึ่งเบ็ดเสร็จ คสช. มีงบประมาณขาดดุลอยู่ที่ 2.192 ล้านล้านบาท

 

ขณะที่ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ในการเลือกตั้งของรัฐบาล พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา น่าจะทำงบประมาณทั้งหมด 3 ปีด้วยกัน คือตั้งแต่ปี 2563-2565 มีงบประมาณขาดดุลอยู่ที่ 2.738 ล้านล้านบาท ซึ่งยังไม่รวม พ.ร.ก. กู้เงินอีก 2 ฉบับ ทั้ง 1 ล้านล้านบาท และฉบับปัจจุบัน 500,000 ล้านบาท

 

ในวันนี้ถ้าสภาผู้แทนราษฎรมีมติผ่านร่างพระราชกำหนดกู้เงินอีก 500,000 ล้านบาท ส่วนตัวคิดว่าอีกภายใน 3 เดือนข้างหน้า ประเทศไทยจะมีหนี้สาธารณะเพิ่มขึ้นเดือนละประมาณ 130,000 ล้านบาท ซึ่งแสดงให้เห็นว่าหากสภาผู้แทนราษฎรมีมติผ่าน พ.ร.ก. กู้เงินในครั้งนี้ อาจจะขัดต่อพระราชบัญญัติวินัยทางการเงินการคลัง พุทธศักราช 2561 ที่กำหนดให้ประเทศมีหนี้สาธารณะไม่เกิน GDP ที่ 60%

 

ซึ่งส่วนสำคัญที่ทำให้ประเทศไทยขาดเงินเข้าประเทศนั้นมาจากงบประมาณทางด้านการท่องเที่ยวและการจัดหาภาษีเข้ารัฐบาล ขณะเดียวกันรัฐบาลไม่สามารถที่จะจัดหาภาษีที่ผิดกฎหมายเข้ารัฐบาลได้ เช่น ภาษีเกี่ยวกับการเปิดคาสิโนออนไลน์ ภาษีจากสถานบริการและหวยใต้ดิน ที่รัฐบาลจะสามารถจัดเก็บภาษีได้กว่า 500,000 ล้านต่อปี ซึ่งจำนวนดังกล่าวไม่รวมถึงเงินทุจริตของข้าราชการประจำและนักการเมืองที่ทุจริตคอรัปชันไป

 

มงคลกิตติ์ระบุว่า หากนายกรัฐมนตรีต้องการที่จะแก้หนี้จริงควรแก้ปัญหาดังนี้ คือออกกฎหมายในการแลกเปลี่ยนหมายเลขธนบัตรหากเกิน 500,000 บาท ต้องชี้แจงถึงที่มาของเงิน หากชี้แจงไม่ได้รัฐบาลสามารถยึดได้เลย ประเทศไทยมีพื้นที่เกษตรกรรมเยอะแต่มีแหล่งน้ำน้อย เราควรที่จะแปลงน้ำเค็มเป็นน้ำจืด เพื่อเพิ่มผลผลิตเกษตรกรรมเพื่อการส่งออก เพื่อไม่ให้นักการเมืองและพรรคการเมืองนำสินค้าทางการเกษตรจากประเทศเพื่อนบ้านมาเพิ่มราคาภายในประเทศ

 

อย่างไรก็ตาม จากการที่เป็นผู้แทนราษฎรในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา มีความรู้สึกเสียใจที่สุดในการเป็นสภาผู้แทนราษฎร คือการที่ตนได้ตัดสินใจเลือก พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรีรอบ 2 เพราะถ้าไม่เลือกเขาวันนั้นเชื่อว่าเขายกเลิกการเลือกตั้งแน่นอน เพราะจัดตั้งรัฐบาลไม่ได้ เลือกไปแล้วอย่างน้อยมาตรา 44 ของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) จะหายไป แต่ไม่คิดว่าคนที่เป็นผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) มา 4 ปี นายกรัฐมนตรีมา 5 ปี ทั้งๆ ที่รู้ทุกเรื่อง น่าจะมีความสามารถและมีความสุจริตมากกว่ารัฐบาลที่มาจากพลเรือน แต่พอมาประเมินความสามารถทุกด้านของท่านนายกรัฐมนตรีแล้วสุดท้ายท่านแก้ไม่ได้ แก้แบบถ่วงเวลา แก้แบบเลี้ยงไข้ปล่อยให้ผู้ป่วยจำนวนมากตายอย่างไร้ญาติขาดมิตร ตายอย่างทรมาน

 

“ในขณะที่ประชาชนต้องการวัคซีนเป็นจำนวนมาก แต่รัฐบาลเองก็หาวัคซีนแบบเชื่องช้า ไม่รู้ตกลงค่าส่วนแบ่งคอมมิชชันอยู่หรือไม่ รวมถึงเหตุผลในการปฏิเสธการเข้าร่วมโครงการ COVAX และวัคซีนของ Pfizer ซึ่งเมื่อมาทบทวนแล้ว การตัดสินใจของตนในการเลือกประยุทธ์ในวันนั้นถือเป็นความผิดมหันต์ เพราะตนเองเป็น 1 เสียงที่เปิดประตูให้นายกรัฐมนตรีคนนี้ ที่ด้อยด้วยความรู้ความสามารถมาบริหารประเทศ เป็นนายกรัฐมนตรีที่อวดฉลาดที่สุด ดูถูกผู้อื่น ไม่มีความอ่อนน้อมถ่อมตน ชอบเอาชนะแม้กระทั่งประชาชนตาดำๆ โดยการกู้เงินไปเยอะขนาดนี้ยังไม่มีวี่แววว่าจะสามารถควบคุมสถานการณ์โควิด-19 ได้เลย” มงคลกิตติ์กล่าว

 

มงคลกิตติ์กล่าวต่อไปว่า จากเหตุผลที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ หากประเทศไทยยังมีนายกรัฐมนตรีที่ชื่อ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา ประเทศชาติ ประชาชนคงสิ้นหวัง เพราะพวกเราได้เห็นสิ่งที่ผ่านไปในอดีตและกำลังเผชิญอยู่ในปัจจุบัน ซึ่งเมื่อท่านอยู่มันไปต่อไม่ได้จริงๆ พ.ร.ก. กู้เงิน 500,000 ล้านบาท ฉบับดังกล่าว แม้จะผ่านไปก็จะผิดกฎหมาย ไม่ผ่านประชาชนก็จะเดือดร้อน ดูแล้วไร้ซึ่งอนาคต ถ้า พล.อ. ประยุทธ์ยังอยู่ต่อก็จะขอกู้ต่อไปอีกหลายฉบับ จึงขอถามท่านนายกฯ ว่า หนี้เยอะขนาดนี้ท่านมีปัญญาใช้หนี้ไหม

 

พิสูจน์อักษร: นัฐฐา สอนกลิ่น

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising