แบรนด์เสื้อผ้ากันหนาวสุดหรูจากอิตาลีอย่าง Moncler ประกาศยุติการใช้ขนสัตว์แท้ในการออกแบบเสื้อผ้าภายในปี 2024 และระบุว่าคอลเล็กชัน Fall/Winter 2023 จะเป็นคอลเล็กชันสุดท้ายที่จะมีขนสัตว์แท้รวมอยู่ พร้อมเดินหน้าทำงานร่วมกับองค์กรพิทักษ์สัตว์ป่าของอิตาลีที่มีชื่อว่า LAV ในฐานะตัวแทนของเครือข่าย Fur Free Alliance ในการปกป้องสิ่งแวดล้อมและสิทธิ์ของสัตว์ต่อไป
การปรับตัวของแบรนด์ครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของแคมเปญสนับสนุนเรื่องความยั่งยืนและสิ่งแวดล้อมที่ชื่อว่า Born to Protect ที่ทำมาต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2020 โดยเป็นการโฟกัส 5 ประเด็นสำคัญ ทั้งเรื่องสภาวะอากาศเปลี่ยนแปลง การใช้ระบบเศรษฐกิจแบบหมุนเวียน เสาะหาทรัพยากรและวัตถุดิบอย่างเป็นธรรม สนับสนุนเรื่องความหลากหลาย และคืนกำไรให้แก่ชุมชนท้องถิ่น
และครั้งนี้ทาง Moncler ยังได้ออกคอลเล็กชันเสื้อผ้าและแอ็กเซสซอรีเต็มรูปแบบ ที่มีทั้งเสื้อผ้าผู้หญิง ผู้ชาย และเด็ก ที่ทำมาจากวัสดุที่ส่งผลกระทบสิ่งแวดล้อมในระดับต่ำ ไม่ว่าจะเป็นเสื้อแจ็กเก็ตจากไนลอนและโพลีเอสเตอร์รีไซเคิล ผ้าฝ้ายและขนแกะออร์แกนิก
รวมไปถึงขนอ่อนของห่านที่เป็นส่วนประกอบสำคัญของเสื้อผ้ากันหนาวอันเลื่องชื่อของแบรนด์ ที่เป็นผลพลอยได้จากการผลิตของอุตสาหกรรมอาหาร และต้องมาจากผู้ผลิตที่ได้รับการควบคุมตามมาตรฐาน DIST (Down Integrity System and Traceability) ที่สามารถตรวจสอบว่าจะไม่มีการฆ่าห่านเพื่อเอาขนตอนยังมีชีวิตอยู่
อย่างไรก็ตาม เว็บไซต์ WWD รายงานว่า ยังมีเสียงคัดค้านจากสมาคมค้าขนสัตว์นานาชาติว่านี่เป็นการบีบบังคับให้ผู้บริโภคต้องซื้อสินค้าทางเลือกที่ทำมาจากพลาสติกแทนขนสัตว์ธรรมชาติ
ภาพ: Claudio Lavenia/Getty Images
อ้างอิง:
