วันนี้ (29 ตุลาคม) นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 หรือ ศบค. แถลงภายหลังการประชุม ศบค.ชุดใหญ่ ที่มี พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานการประชุมว่า มาตรการในวันนี้มีการปรับระดับพื้นที่สถานการณ์ย่อยในพื้นที่ทั่วราชอาณาจักร โดยพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดหรือพื้นที่สีแดงเข้มจากเดิมมี 23 จังหวัด เหลือ 7 จังหวัด พื้นที่ควบคุมสูงสุดหรือพื้นที่สีแดงจากเดิมมี 30 จังหวัด เป็น 38 จังหวัด พื้นที่ควบคุมหรือพื้นที่สีส้มจากเดิม 24 จังหวัด เป็น 23 จังหวัด พื้นที่เฝ้าระวังสูงหรือพื้นที่สีเหลืองจากเดิมไม่มี ตอนนี้มี 5 จังหวัด และพื้นที่นำร่องท่องเที่ยวหรือพื้นที่สีฟ้า 4 จังหวัด
พื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด 7 จังหวัด มี จันทบุรี, ตาก, นครศรีธรรมราช, นราธิวาส, ปัตตานี, ยะลา และสงขลา
พื้นที่เฝ้าระวังสูง 5 จังหวัด มี นครพนม, น่าน, บึงกาฬ, มุกดาหาร และสกลนคร
พื้นที่นำร่องท่องเที่ยวหรือพื้นที่สีฟ้า 4 จังหวัด มีกรุงเทพมหานคร (กทม.), กระบี่, พังงา และภูเก็ต
ขณะที่ กทม. จะจัดการประชุมในวันนี้ โดยผู้ว่าราชการและคณะจะประชุมเรื่องการจัดการการดื่มแอลกอฮอล์ในร้านอาหาร เพราะพื้นที่สีฟ้า หมายถึงสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ สามารถดื่มแอลกอฮอล์ได้ จึงให้ทาง กรุงเทพมหานคร และคณะกรรมการโรคติดต่อ กทม. นำข้อกังวลของที่ประชุม ศบค. ไปหารือ โดยจะต้องออกมาตรการเฉพาะ ในเรื่องการดื่มแอลกอฮอล์ เพื่อจะคงความเป็นพื้นที่สีฟ้าอยู่หรือไม่
สำหรับมาตรการในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด (สีแดงเข้ม)
- ยังห้ามออกนอกเคหสถาน (เคอร์ฟิว) ตั้งแต่เวลา 23.00-03.00 น.
- เรื่องการทำงานอยู่ที่บ้าน หรือ Work from Home ให้พื้นที่สีแดงเข้มให้ทำงานอย่างน้อย 70% ของหน่วยงานรัฐ ผู้ประกอบการภาครัฐ ภาคเอกชนปรับเพิ่มได้ตามแผนเหมาะสม
- การจัดกิจกรรมรวมกลุ่มห้ามจัดกิจกรรมรวมมากกว่า 50 คน
- สถานศึกษาให้ใช้อาคารสถานที่เพื่อจัดการเรียนการสอนโดยผ่านความเห็นชอบจากผู้แทนศึกษาธิการ
- สถานรับเลี้ยงเด็ก สถานดูแลผู้สูงอายุให้ดำเนินการรับไปกลับได้โดยผ่านการพิจารณาจากคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด
- สถานที่เล่นกีฬาเปิดได้ไม่เกิน 22.00 น.
- โรงภาพยนตร์จำกัดจำนวนผู้ชม ห้ามบริโภคอาหาร
- การจัดประชุมไม่เกิน 500 คน
- ศูนย์การค้า, ห้างสรรพสินค้าเปิดได้ไม่เกิน 22.00 น.
- ร้านสะดวกซื้อเปิดได้ไม่เกิน 22.00 น.
- ร้านอาหารเปิดบริโภคในร้านได้ ไม่ให้มีการขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เปิดตามเวลาปกติแต่ไม่เกิน 22.00 น.
- ร้านเสริมสวยเปิดบริการได้ ยกเว้นการใช้ไอน้ำ และเปิดได้ไม่เกิน 22.00 น.
พื้นที่ควบคุมสูงสุด
- ไม่มีการห้ามออกนอกเคหสถาน
- การทำงาน หน่วยงานของรัฐ ผู้ประกอบการภาครัฐและภาคเอกชนดำเนินการได้ตามความเหมาะสม ยกเว้นกรุงเทพมหานครและปริมณฑลอย่างน้อย 70%
- พื้นที่ควบคุมสูงสุด การจัดกิจกรรมห้ามจัดกิจกรรมมากกว่า 200 คน
- สถานศึกษาให้ใช้อาคารสถานที่เพื่อจัดการเรียนการสอนกิจกรรมที่มีการรวมคนจำนวนมากโดยผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด
- สถานรับเลี้ยงเด็กเปิดดำเนินการได้ตามปกติ
- สนามกีฬาเปิดไม่เกิน 23.00 น.
- โรงภาพยนตร์จำกัดจำนวนผู้ชม
- ห้างสรรพสินค้าเปิดได้ตามปกติ งดจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย เปิดบริการตู้เกม เครื่องเล่น ร้านเกม ไม่เปิดสวนสนุกและสวนน้ำ
- ร้านสะดวกซื้อ ตลาดเปิดได้ตามปกติ
- ร้านอาหารบริโภคในร้านได้ไม่เกิน 23.00 น.
- งดการจำหน่ายและงดดื่มสุราในร้าน
- ร้านเสริมสวยเปิดได้ตามปกติแต่ไม่เกิน 23.00 น.
พื้นที่ควบคุม
- ไม่มีการห้ามออกนอกเคหสถาน
- ห้ามจัดกิจกรรมรวมคนมากกว่า 500 คน
- การทำงาน หน่วยงานของรัฐ ผู้ประกอบการภาครัฐและภาคเอกชนดำเนินการได้ตามความเหมาะสม ยกเว้นกรุงเทพมหานครและปริมณฑลอย่างน้อย 70%
- สถานศึกษาให้ใช้อาคารสถานที่เพื่อจัดการเรียนการสอนกิจกรรมที่มีการรวมคนจำนวนมาก โดยผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด
- สนามกีฬาเปิดได้ตามปกติ จัดการแข่งขันได้ แต่ต้องจำกัดการเข้าชม
- โรงภาพยนตร์เปิดดำเนินการตามปกติ จำนวนผู้ชมตามาตรการกำหนด
- ศูนย์แสดงสินค้า ศูนย์ประชุมจัดงานได้ไม่เกิน 1,000 คน
- ศูนย์การค้า ห้างสรรพสินค้าเปิดบริการได้ตามปกติ
- ร้านสะดวกซื้อเปิดได้ตามปกติ
- ร้านอาหารบริโภคในร้านได้เปิดได้ตามปกติ
- งดการจำหน่ายและงดดื่มสุราในร้าน
- ร้านเสริมสวยเปิดบริการตามปกติแต่ไม่เกิน 24.00 น.
พื้นที่เฝ้าระวังสูง
- ไม่มีการห้ามออกนอกเคหสถาน
- การทำงาน หน่วยงานของรัฐ ผู้ประกอบการภาครัฐและภาคเอกชนดำเนินการได้ตามความเหมาะสม ยกเว้นกรุงเทพมหานครและปริมณฑลอย่างน้อย 70%
- ห้ามจัดกิจกรรมรวมคนมากกว่า 1,000 คน
- สถานรับเลี้ยงเด็กเปิดได้ตามปกติ/สถานที่เล่นกีฬาเปิดได้ปกติ
- โรงภาพยนตร์เปิดบริการได้ตามปกติ
- ศูนย์แสดงสินค้าจัดงานได้ตามความเหมาะสม
- ศูนย์การค้า ห้างสรรพสินค้าเปิดบริการได้ตามปกติ
- ร้านสะดวกซื้อเปิดได้ตามปกติ
- ร้านอาหารบริโภคในร้านได้ เปิดได้ตามปกติ
- งดการจำหน่ายและงดดื่มสุราในร้าน
- ร้านเสริมสวย ร้านนวดเปิดบริการตามปกติ
- พื้นที่สำหรับนำร่องท่องเที่ยว
- ไม่มีการห้ามออกนอกเคหสถาน
- การทำงานอยู่ที่บ้านหน่วยงานของรัฐผู้ประกอบการภาคเอกชนดำเนินการได้ตามความเหมาะสม ยกเว้นกรุงเทพมหานครและปริมณฑลอย่างน้อย 70%
- การจัดกิจกรรมรวมกลุ่มจัดกิจกรรมการรวมกลุ่มตามความเหมาะสม
- สถานศึกษาทุกระดับให้ใช้อาคารสถานที่เพื่อจัดการเรียนการสอน
- สถานรับเลี้ยงเด็กและสถานผู้ดูแลสูงอายุเปิดได้ตามปกติ
- สถานที่เล่นกีฬาเปิดบริการและจัดการแข่งขันได้ตามปกติตามมาตรการที่กำหนด
- โรงภาพยนตร์เปิดได้ตามปกติ จำนวนผู้ชมตามมาตรการที่กำหนด
- ศูนย์แสดงสินค้าจัดงานได้ตามเหมาะสม
- ศูนย์การค้า ห้างสรรพสินค้าเปิดได้ตามปกติ
- ร้านสะดวกซื้อเปิดได้ตามปกติ
- ร้านอาหารบริโภคอาหารและดื่มสุราในร้านได้ และเปิดได้ตามปกติ โดยให้คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดพิจารณากำหนดเวลาปิดตามสถานการณ์พื้นที่ได้
- ร้านเสริมสวย ร้านนวดเปิดบริการได้ตามปกติ