×

รับอานิสงส์ท่องเที่ยวฟื้นตัว ไมเนอร์ทุ่ม 15,000 ล้านบาท ปั๊มรายได้-กำไร ธุรกิจโรงแรม-อาหาร พร้อมขยายพอร์ตธุรกิจกวาดลูกค้ารอบทิศ

20.01.2023
  • LOADING...
ท่องเที่ยวฟื้นตัว

ไมเนอร์ทุ่ม 15,000 ล้าน ลงทุนขยายธุรกิจโรงแรม-อาหาร-ไลฟ์สไตล์ กวาดลูกค้ารอบทิศ ภายใต้กลยุทธ์การเติบโต Back to Growth เดินหน้าขยายพอร์ตธุรกิจทุกรูปแบบ พร้อมออกหุ้นกู้ด้อยสิทธิที่มีลักษณะคล้ายทุนชุดใหม่ เพิ่มศักยภาพ ขยายโอกาสลงทุน

 

มร.ดิลลิป ราชากาเรีย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ MINT ฉายภาพว่า ในช่วงหลาย 10 ปีที่ผ่านมา ไมเนอร์ได้เผชิญความท้าทายจากวิกฤตเศรษฐกิจต่างๆ รอบด้าน เรามีการปรับตัวรับมืออยู่ตลอดเวลา พร้อมปรับโครงสร้างทางการเงินให้พร้อมรับมือกับสถานการณ์ต่างๆ รวมถึงการแพร่ระบาดของโควิด

 

แต่เมื่อโควิดคลี่คลายลง นักท่องเที่ยวเริ่มกลับมา โดยในปีที่ผ่านมา ไทยได้คาดการณ์จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเพิ่มขึ้นราวๆ 11 ล้านคน และในปี 2566 มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง เพราะไทยเป็นจุดหมายปลายทางสำคัญของนักท่องเที่ยวในการใช้จ่าย 

 


 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

 


 

ยิ่งเฉพาะในไตรมาส 3-4 นักท่องเที่ยวจีนจะเริ่มกลับเข้ามาหลังเปิดประเทศ ช่วยกระตุ้นกำลังซื้อให้กลับมาคึกคักอีกครั้งและส่งอานิสงส์ให้ธุรกิจกลับมาเติบโตขึ้น

 

เช่นเดียวกับผลประกอบการบริษัทประจำไตรมาสที่ 3 ปี 2565 มีกำไรสุทธิ 2,011 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4,377 ล้านบาท หรือ +185% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีรายได้รวมเท่ากับ 35,325 ล้านบาท ปรับเพิ่มขึ้น 14,620 ล้านบาท หรือ +71% มีการเติบโตขึ้นทุกกลุ่มธุรกิจในเครือ ซึ่งประกอบด้วย ไมเนอร์ โฮเทลส์ ตามด้วยร้านอาหารและไลฟ์สไตล์

 

หากย้อนกลับไปในปี 2565 ที่ผ่านมา บริษัทเน้นพัฒนาแบรนด์เดิมที่มีอยู่ให้แข็งแกร่ง ควบคู่กับการขยายพอร์ตโฟลิโอ ทั้งในรูปแบบการจับมือกับพันธมิตร รวมถึงการลงทุนพัฒนาดิจิทัล บุคลากรเพิ่มขึ้น

 

ทุ่ม 15,000 ล้าน ปั้นรายได้ธุรกิจโรงแรมรับอานิสงส์ท่องเที่ยวคึกคัก

 

มร.ดิลลิป กล่าวต่อถึงทิศทางการดำเนินธุรกิจต่อจากนี้ ได้มุ่งเน้นกลยุทธ์สร้างการเติบโต Back to Growth วางแผนสร้างรายได้และผลกำไรมากขึ้น รวมถึงการขยายพันธมิตรลงทุนในโปรเจกต์ใหม่ๆ

 

สำหรับปี 2566 ได้วางงบประมาณกว่า 12,000-15,000 ล้านบาท เพื่อใช้ลงทุนธุรกิจในเครือ โดยสัดส่วนหลักๆ จะใช้ในกลุ่มไมเนอร์ โฮเทลส์ โดยจะใช้ในการบริหารโรงแรมในเครือและการรับจ้างบริหาร ควบคู่กับการขยายโรงแรมในต่างประเทศ โดยเฉพาะตลาดใหม่ที่มีศักยภาพอย่างซาอุดีอาระเบีย พร้อมกับให้น้ำหนักกับการพัฒนารอยัลตี้โปรแกรม หรือที่เรียกว่าความภักดีระหว่างแบรนด์กับลูกค้า ซึ่งปัจจุบันมีสมาชิกกว่า 22 ล้านคน

 

ทั้งนี้ มุ่งโฟกัสการขยายกลุ่มลูกค้านักเดินทาง นักธุรกิจ และปัจจุบันได้เพิ่มอัตราการเข้าพักและปรับขึ้นราคาห้องพักให้สอดรับกับต้นทุนและดีมานด์ที่เพิ่มขึ้น ซึ่งขณะนี้เริ่มมีการจองห้องพักล่วงหน้าเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

 

โดยเฉพาะตลาดยุโรป มัลดีฟส์ และตะวันออกกลาง กลับฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว แต่ยังติดปัญหาเรื่องสายการบินที่ยังไม่กลับมาเต็มรูปแบบ ส่วนประเทศไทยนักท่องเที่ยวเข้ามามากขึ้น โดยเฉพาะจังหวัดภูเก็ต

 

เดินหน้าขยายธุรกิจร้านอาหาร บุกตลาดไทย-เทศ

 

ขณะที่กลุ่มไมเนอร์ ฟู้ด ธุรกิจร้านอาหาร ยังให้ความสำคัญกับการพัฒนาเมนูใหม่ๆ เข้ามากระตุ้นตลาด ควบคู่กับการพัฒนาโปรแกรมรอยัลตี้โปรแกรม เชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างแบรนด์และลูกค้า รวมถึงการปรับโฉมร้านใหม่และขยายสาขาทั้งแบรนด์เดิมที่มีอยู่ทั้งในประเทศและต่างประเทศ โฟกัสในพื้นที่ที่มีศักยภาพสูง

 

รวมถึงแบรนด์ใหม่ ‘กาก้า’ ที่ล่าสุดบริษัทได้ร่วมทุนในสัดส่วนร้อยละ 50.1 ในบริษัท กาก้า เบฟเวอร์เรจส์ (ประเทศไทย) จำกัด เข้ามาเสริมพอร์ตธุรกิจ

 

ยิ่งไปกว่านั้น แม้ช่องทางหน้าร้านจะเริ่มกลับมา แต่ก็ต้องให้ความสำคัญกับช่องทางเดลิเวอรีควบคู่กันไป จึงต้องลงทุนพัฒนาระบบดิจิทัลเข้ามาช่วยเพิ่มความรวดเร็วของระบบหลังบ้าน รวมถึงการบริหารต้นทุนวัตถุดิบ โดยทำสัญญาซื้อขายล่วงหน้าระยะยาว

 

ส่วนธุรกิจไลฟ์สไตล์ ผู้จัดจำหน่ายปัจจุบันมีทั้งหมด 8 แบรนด์ เช่น CHARLES & KEITH, Anello และ BergHOFF ที่ผ่านมาบริษัทได้ตัดต้นทุนหลายๆ ด้าน โดยไปตัดสินใจปิดร้านที่ไม่ทำกำไร แล้วหันมาเน้นให้ความสำคัญกับการคัดสรรสินค้าและราคาที่เข้าถึงง่าย เน้นช่องทางหน้าร้านและช่องทางออนไลน์ ทำให้ภาพรวมพลิกกลับมาทำผลกำไรได้ ถือว่าเป็นสัญญาณที่ดี

 

สุดท้ายกลยุทธ์ทั้งหมดนี้จะช่วยผลักดันให้บริษัทเติบโตได้ในระยะยาว โดยปีนี้ตั้งเป้าการเติบโต 12-15% และมีอัตราผลตอบแทนไม่น้อยกว่า 10%

 

ออกหุ้นกู้ด้อยสิทธิสานต่อความความสำเร็จ

 

ด้าน ชัยพัฒน์ ไพฑูรย์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) กล่าวต่อถึงสถานะการเงินของบริษัท ปัจจุบันมีสภาพคล่องค่อนข้างมาก โดยมีเงินสดอยู่ 23,000 ล้านบาท และมีวงเงินสินเชื่อ 30,000 ล้านบาท รวมกันกว่า 50,000 ล้านบาท

 

ที่สำคัญในปี 2566 บริษัทมุ่งสร้างความสำเร็จภายใต้แนวคิด ‘Bond with Us’ ระหว่างบริษัท ผู้บริโภค และผู้ถือหุ้น โดยได้ขยายศักยภาพเพิ่มโอกาสการลงทุนด้วยการเสนอขายหุ้นกู้ด้อยสิทธิที่มีลักษณะคล้ายทุนชุดใหม่ ครั้งที่ 1/2566 แก่นักลงทุนทั่วไปผ่านสถาบันการเงินทั่วประเทศ

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising
X
Close Advertising