×

MINT เปิดแผน 5 ปี (63-67) รายได้โตปีละ 8% งบลงทุน 6 หมื่นล้านบาท

โดย efinanceThai
06.03.2020
  • LOADING...

ชัยพัฒน์ ไพฑูรย์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายพัฒนาเชิงกลยุทธ์ บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ MINT เปิดเผยว่า แผนธุรกิจ 5 ปี (2563-2567) บริษัทตั้งเป้ารายได้เติบโตเฉลี่ยปีละ 8% จากปีก่อนมีรายได้รวมอยู่ที่ 129,889.11 ล้านบาท และกำไรสุทธิอยู่ที่ 10,697.93 ล้านบาท

 

โดยรายได้ธุรกิจโรงแรม คิดเป็น 86% ของรายได้รวม และบริษัทยังเดินหน้าขยายโรงแรมต่อเนื่อง จากปัจจุบันบริษัทมีโรงแรมกระจาย 57 ประเทศ และ 5 ปีข้างหน้า ตั้งเป้าเพิ่มสัดส่วนรายได้ธุรกิจโรงแรมเป็น 88% ของรายได้รวม โดยมีโรงแรมเพิ่มขึ้นเป็น 750 แห่ง จากปี 2562 มีจำนวน 535 แห่ง

 

นอกจากนี้ตามแผน 5 ปี วางเป้ามีร้านอาหารเพิ่มขึ้นเป็น 3,700 แห่ง จากปี 2562 ที่จำนวน 2,377 แห่ง ขยายพื้นที่รีเทลเพิ่มขึ้นเป็น 560 แห่ง รวมมากกว่า 32,000 ตารางเมตร (ตร.ม.) จากปี 2562 มีจำนวน 485 แห่ง รวม 31,398 ตร.ม., อสังหาริมทรัพย์เพื่อขายเพิ่มเป็น 250 แห่ง จากปี 2562 มีจำนวน 132 แห่ง และ คลับเพิ่มเป็น 350 แห่ง จากปี 2562 มีจำนวน 132 แห่ง

 

งบลงทุน 5 ปี วางไว้ที่ 60,000 ล้านบาท เฉลี่ยลงทุนปีละ 10,000-15,000 ล้านบาท ตั้งเป้ารักษาหนี้สินต่อทุน (D/E) ไว้ที่ 1.3 เท่า ซึ่งเป็นระดับเดียวกับปัจจุบัน แต่ถ้าหาก D/E ขยับเพิ่มขึ้น จะดำเนินการด้วยการขายสินทรัพย์ที่ไม่สร้างกำไรออกไป

 

ทางด้านธุรกิจอาหารในปีที่ผ่านมา รายได้มาจากในไทย 60% และต่างประเทศ 35% ใน 5 ปีข้างหน้าสัดส่วนรายได้ยังทรงตัวใกล้เคียงจากปัจจุบัน ขณะที่ธุรกิจร้านอาหารในจีนมีอยู่ 100 สาขา และการเกิดเหตุการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้ปิดสาขาลงชั่วคราว 50 สาขา 

 

แต่ปัจจุบันสถานการณ์ดีขึ้น ทำให้บริษัทกลับมาเปิดสาขาได้เป็นปกติ ในขณะที่ธุรกิจโรงแรมในช่วงที่ผ่านมาได้รับผลกระทบเล็กน้อยเมื่อเทียบกับอุตสาหกรรม แต่เชื่อว่าผลกระทบดังกล่าวเป็นเพียงชั่วคราว และจำนวนแขกที่เข้าพักจะกลับมาสูงขึ้นเมื่อสามารถควบคุมสถานการณ์ได้

 

“ในไตรมาส 1/63 จะกระทบแน่นอน เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2562 แม้ในเดือนมกราคมถึงกุมภาพันธ์ธุรกิจโรงแรมจะยังไม่ได้รับผลกระทบมากนัก ซึ่งเดือนกุมภาพันธ์รายได้เฉลี่ยต่อห้องพัก หรือ RevPAR ในยุโรปติดลบ 3-4% แต่เดือนมีนาคมเป็นต้นไปยังต้องควบคุม และรักษาการยกเลิกการจองห้อง หรือบุ๊กกิ้งให้ได้มากที่สุด ส่วนอัตราการเข้าพักหรือ Occupancy มีลดลงมาบ้าง กรณีลดมากสุดอย่างไรก็ไม่เกิน 50% ส่วนยอดขายจากสาขาเดิมเดือนแรกยังโตได้ดี 4-5% พอเข้าเดือนกุมภาพันธ์ได้ 10 วัน ยอดขายลดลง 8-10% แต่ตอนนี้พบว่าติดลบน้อยลงเหลือเพียง 4-5% โดยเราเร่งทำโปรโมชัน และเน้นบริการอาหารด้วยการขนส่ง ทำให้ยอดขายโดยรวมยังไปได้ ซึ่งเชื่อว่าหลังเหตุการณ์คลี่คลายลง ยอดขายจะกลับมาปกติ” ชัยพัฒน์ กล่าว

 

 

พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์

รายงาน: กรณัช พลอยสวาท 

ติดตามข่าวสารการลงทุนเพิ่มเติมได้ที่: www.efinancethai.com  

 

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising