×

สธ. เผย องค์การเภสัชกระจายวัคซีนต้านโควิด-19 เตรียมความพร้อมฉีดวันแรกพรุ่งนี้ ชี้การฉีดอยู่ภายใต้ดุลพินิจของแพทย์และความสมัครใจ

โดย THE STANDARD TEAM
28.02.2021
  • LOADING...
สธ. เผย องค์การเภสัชกระจายวัคซีนต้านโควิด-19 เตรียมความพร้อมฉีดวันแรกพรุ่งนี้ ชี้การฉีดอยู่ภายใต้ดุลพินิจของแพทย์และความสมัครใจ

วันนี้ (27 กุมภาพันธ์) ที่สถาบันบำราศนราดูร นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า รัฐบาลมีนโยบายให้ประชาชนทุกคนในประเทศไทยได้รับวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 อย่างเสมอภาคและเท่าเทียมกันโดยความสมัครใจ ซึ่งการฉีดวัคซีนต้องเป็นไปตามข้อกำหนดทางการแพทย์และการพิจารณาของแพทย์เท่านั้น 

 

สำหรับวัคซีน CoronaVac ของบริษัท Sinovac ล็อตแรกได้รับแล้ว 2 แสนโดส ขณะนี้ผ่านการตรวจรับรองจากกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ซึ่งเป็นการนำเข้าเพื่อฉีดให้กับบุคลากรทางการแพทย์เป็นลำดับแรก และฉีดให้กับประชาชนในเขตพื้นที่ที่มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อและแพร่กระจายเชื้อเพื่อการควบคุมการระบาด จากนั้นจึงเป็นการฉีดเพื่อการฟื้นฟูเศรษฐกิจเฉพาะกลุ่มในบางพื้นที่เท่านั้น

 

นพ.เกียรติภูมิ กล่าวต่อว่า ในวันนี้องค์การเภสัชกรรมได้จัดส่งวัคซีนให้กับ 4 โรงพยาบาล ได้แก่ โรงพยาบาลสมุทรสาคร 20,040 โดส โรงพยาบาลชลบุรี 4,720 โดส โรงพยาบาลพระนั่งเกล้า 3,000 โดส และสถาบันบำราศนราดูร 3,000 โดส พร้อมเริ่มฉีดวันแรกในวันที่ 28 กุมภาพันธ์นี้ ขณะนี้โรงพยาบาลได้เตรียมการจัดบริการวัคซีนพร้อมแล้ว 

 

ส่วนวัคซีน Sinovac ที่เหลืออีก 1.8 ล้านโดส จะมาในเดือนมีนาคมและเมษายนนี้ จะเป็นการฉีดตามโปรแกรมที่คณะอนุกรรมการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคเป็นผู้พิจารณากำหนดแผนจัดการฉีดวัคซีนไว้ และสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามสถานการณ์ ในส่วนของวัคซีน AstraZeneca อยู่ระหว่างกระบวนการตรวจสอบมาตรฐานคุณภาพ (Quality Assurance) โดยบริษัท AstraZeneca ประเทศอังกฤษ ก่อนจะนำมาฉีดให้ประชาชนกลุ่มเป้าหมายและประชาชนกลุ่มผู้ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป คาดว่าจะฉีดได้ในเดือนมีนาคมนี้ โดยจะทยอยกระจายและจัดส่งวัคซีนทั้งหมดไปยังโรงพยาบาลใน 18 จังหวัด ตามแผนของคณะอนุกรรมการอำนวยการบริหารจัดการการให้วัคซีนป้องกันโรคโควิด-19

 

“ขณะนี้ฝ่ายนโยบายหรือฝ่ายบริหารได้นำวัคซีนมาให้แล้ว ต่อไปแพทย์จะเป็นผู้พิจารณาดำเนินการตามมาตรการควบคุมโรคด้วยวัคซีนให้ประสบผลสำเร็จตามเป้าหมาย สร้างภูมิคุ้มกันให้คนที่อยู่ในแผ่นดินไทย ฟื้นฟูเศรษฐกิจประเทศ” นพ.เกียรติภูมิ กล่าว

 

ภายหลังการตรวจเยี่ยมความพร้อมระบบบริการจัดฉีดวัคซีนในช่วงบ่าย นพ.เกียรติภูมิ ให้สัมภาษณ์ว่า ระบบการให้บริการฉีดวัคซีนที่ได้จัดเตรียมไว้มีความพร้อม ใช้เวลาในการจัดฉีดและเฝ้าระวังสังเกตอาการประมาณ 37 นาที ซึ่งในวันพรุ่งนี้จะเป็นวันแรกในการเริ่มฉีดวัคซีนให้กับกลุ่มเป้าหมาย โดยจะนำคณะผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุขร่วมฉีดวัคซีนที่สถาบันบำราศนราดูร เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนว่าวัคซีนมีความปลอดภัย 

 

“ในส่วนที่มีสื่อมวลชนถามเกี่ยวกับประเด็นการฉีดวัคซีนให้กับ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ขอเรียนว่าคณะกรรมการด้านการแพทย์เห็นว่านายกรัฐมนตรีอยู่ในกลุ่มเป้าหมายที่สมควรได้รับวัคซีน เนื่องจากมีอายุมากกว่า 60 ปี โดยวัคซีนที่เหมาะสมที่จะฉีดคือวัคซีนจาก AstraZeneca ซึ่งในขณะนี้อยู่ระหว่างกระบวนการตรวจสอบมาตรฐานคุณภาพ คาดว่าจะสามารถฉีดให้กับผู้ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไปได้ภายในเดือนมีนาคม อย่างไรก็ตาม การฉีดวัคซีนจะต้องอยู่ภายใต้ดุลพินิจของแพทย์ในการสั่งฉีดและความสมัครใจของผู้ที่รับการฉีดด้วย” นพ.เกียรติภูมิ กล่าว

 

ด้าน นพ.อภิชาต วชิรพันธ์ ผู้อำนวยการสถาบันบำราศนราดูร กล่าวว่า สถาบันบำราศนราดูรได้รับวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ของ Sinovac 3,000 โดส ขณะนี้เก็บไว้ที่คลังยาในตู้แช่ยาที่ความเย็น 2-8 องศาเซลเซียส และเตรียมสถานที่ที่หอประชุมอัจฉราและตู้เย็นสำหรับเก็บยา โดยจะฉีดให้กับกลุ่มเป้าหมายอายุ 18-59 ปี จำนวน 1,500 คน ได้แก่ บุคลากรสาธารณสุขด่านหน้า, เจ้าหน้าที่ที่ดูแลหรือต้องสัมผัสกับผู้ติดโควิด-19, เจ้าหน้าที่อื่นๆ ที่มีโอกาสสัมผัสกับผู้ติดเชื้อในพื้นที่จังหวัดนนทบุรี และผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัว ได้แก่ โรคทางเดินหายใจเรื้อรังรุนแรง โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง มะเร็ง เบาหวาน และโรคอ้วน  

 

พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising