วันนี้ (9 เมษายน) นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ เปิดเผยถึงกรณีการตรวจพบผู้ป่วยที่มารักษาตัวในโรงพยาบาลหนองบัวแดง จังหวัดชัยภูมิ ติดเชื้อโควิด-19 เกิดขึ้นมาซ้ำว่าได้ตรวจสอบประวัติและข้อมูลการรักษาของผู้ป่วยรายดังกล่าวแล้ว ทราบว่าแนวทางการรักษาและความร่วมมือของผู้ป่วยเป็นไปตามมาตรฐานทุกขั้นตอน รวมทั้งผู้ป่วยให้ความร่วมมือในการกักตัวเองหลังออกจากโรงพยาบาลได้อย่างดีมาก
เบื้องต้นรายงานผลการตรวจเชื้อโควิด-19 ที่ปรากฏผลบวกนั้น เมื่อเทียบกับรายงานทางวิชาการของศูนย์ควบคุมโรค สหรัฐอเมริกา ที่ระบุว่าสามารถตรวจพบซากเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ตายแล้วได้ในผู้ป่วยที่ได้รักษาหายเป็นปกติ จากประวัติการรักษาและผลการตรวจซ้ำน่าจะไม่ใช่การติดเชื้อครั้งใหม่ทำให้ป่วยซ้ำ แต่น่าจะเป็นผลบวกจากการตรวจพบซากเชื้อโควิด-19 ในร่างกายของผู้ป่วย อย่างไรก็ดี ขณะนี้โรงพยาบาลหนองบัวแดง จังหวัดชัยภูมิ ได้รับตัวผู้ป่วยคนดังกล่าวเข้ารักษาและสังเกตอาการ และได้ให้กรมการแพทย์แยกเพาะเชื้อเพื่อศึกษาวิจัยถึงความเป็นไปได้ว่าเชื้อจะเพิ่มขึ้นได้หรือไม่
ด้าน นพ.ธนรักษ์ ผลิพัฒน์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวถึงการค้นหาผู้ป่วยเชิงรุก (Active Case Finding) ว่าเป็นเรื่องสำคัญที่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการควบคุมและเฝ้าระวังโรค จึงให้ความสำคัญและดำเนินการอย่างเต็มที่ ซึ่งจะต้องกำหนดยุทธศาสตร์และเป้าหมายให้ชัดเจน เช่น เน้นกลุ่มที่กลับจากต่างประเทศ กลุ่มที่มีอาการคล้ายไข้หวัด ซึ่งนอกจากจะทำให้การพยากรณ์โรคทำได้ชัดเจนมากขึ้นแล้วยังช่วยให้ค้นพบผู้ป่วยเร็ว ได้รับการรักษาเร็ว และควบคุมโรคได้อย่างรวดเร็วด้วย
“อย่างสถานการณ์ในจังหวัดภูเก็ตซึ่งเป็นพื้นที่ที่พบผู้ป่วยจำนวนมาก จะต้องใช้การสอบสวนโรคและวิเคราะห์ข้อมูลทางระบาดวิทยาเพื่อกำหนดพื้นที่ กำหนดอาชีพที่ควรตรวจ ซึ่งจะเป็นยุทธศาสตร์ในการค้นหาผู้ป่วยรายใหม่ ทำให้การแปลผลแม่นยำและมีประสิทธิภาพมากขึ้น” นพ.ธนรักษ์ระบุ
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์
