วันนี้ (22 มกราคม) ไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และโฆษกกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า ในวันพรุ่งนี้ (23 มกราคม) นับเป็นวันประวัติศาสตร์สำคัญของการเปลี่ยนแปลงกฎหมายว่าด้วยการสมรส และครอบครัวของประเทศไทย ด้วยเป็นจุดเริ่มที่พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ฉบับที่ 24) พ.ศ. 2567 หรือกฎหมายสมรสเท่าเทียมจะมีผลใช้บังคับ
ตั้งแต่กฎหมายประกาศในราชกิจจานุเบกษาเมื่อวันที่ 24 กันยายน 2567 อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย มีข้อกำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะกรมการปกครองที่ดูแลงานทะเบียนครอบครัว การให้บริการจดทะเบียนสมรส ให้เตรียมความพร้อม และมีการติดตามการดำเนินการในด้านต่างๆ โดยต่อเนื่อง กระทั่งมีความพร้อมทุกด้าน สำหรับบริการจดทะเบียนสมรสเท่าเทียมของสำนักทะเบียน 878 อำเภอใน 76 จังหวัดทั่วประเทศ และ 50 เขตในกรุงเทพมหานคร ตั้งแต่วันที่ 23 มกราคม 2568 เป็นต้นไป
ไตรศุลีกล่าวว่า กรมการปกครองรายงานให้อนุทินทราบว่า ขณะนี้เตรียมความพร้อมแล้วทุกด้านไม่ว่าจะเป็นกฎและระเบียบที่เกี่ยวข้อง โดยระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการจดทะเบียนครอบครัว (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2568 เพื่อรองรับการจดทะเบียนสมรสตามกฎหมายใหม่ก็ประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้วเมื่อวันที่ 20 มกราคมที่ผ่านมา และจะมีผลบังคับในวันที่ 23 มกราคมนี้
ทางด้านระบบมีการแก้ไขพร้อมทดสอบระบบทะเบียนสมรสและทะเบียนหย่าเรียบร้อยแล้ว รวมทั้งจัดเตรียมผลิตแบบพิมพ์ ใบสำคัญการสมรส (คร.3) และใบสำคัญการหย่า (คร.7) เพื่อรองรับการให้บริการที่เพิ่มขึ้น
ส่วนที่สำคัญที่สุดคือบุคลากร กรมการปกครองอบรมเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานทะเบียนให้มีความรู้ทั้งด้านกฎหมาย การปรับกรอบความคิดให้พร้อมบริการประชาชนบนหลักความเสมอภาคและเท่าเทียม และคำนึงถึงสิทธิมนุษยชน
ไตรศุลีกล่าวว่าอีกว่า เมื่อวันที่ 21 มกราคม ไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์ อธิบดีกรมการปกครอง ส่งหนังสือซักซ้อมการปฏิบัติตามกฎหมายสมรสเท่าเทียมไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศ ให้นายทะเบียนทุกอำเภอ/เขต ศึกษาระเบียบกฎหมายที่เกี่ยวข้องในการจดทะเบียนสมรสให้เป็นไปตามเงื่อนไขของกฎหมาย
พร้อมกับให้ทุกอำเภอ/เขต ชี้แจงเกี่ยวกับกฎหมายใหม่ในที่ประชุมประจำเดือนต่อหัวหน้าส่วนราชการ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เพื่อนำไปสู่การรับรู้ข้อกฎหมายของประชาชนในวงกว้าง
นอกจากนี้ยังซักซ้อมความเข้าใจเกี่ยวกับบริการ จดทะเบียนสมรสระหว่างคนไทยกับคนต่างชาติ หรือกับบุคคลผู้ไม่มีสถานะทางทะเบียน ตลอดจนการปฏิบัติหน้าที่ของนายทะเบียนในการรับจดทะเบียนสมรสของบุคคลเพศเดียวกันซึ่งเป็นมุสลิม ที่ต้องถือปฏิบัติตามแนวทางของสำนักจุฬาราชมนตรี
“ในวันพรุ่งนี้กระทรวงมหาดไทยโดยกรมการปกครองจะมีกิจกรรม ‘ตีฆ้องชัย’ ให้ทุกความรัก 878 อำเภอทั่วไทย ที่อำเภอกะทู้ จังหวัดภูเก็ต ขณะที่อำเภอต่างๆ ทั่วประเทศก็จะมีกิจกรรมเชิงสร้างสรรค์เพื่อเฉลิมฉลองให้กับทุกความรัก และในโอกาสเริ่มต้นที่สำคัญนี้ ท่านอนุทินขอให้เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานทุกๆ คน ร่วมอำนวยความสะดวกและบริการประชาชนให้เต็มที่ ให้ความสำคัญกับการเคารพสิทธิมนุษยชน และให้ภูมิใจที่กระทรวงมหาดไทยเป็นหน่วยงานหลักในการส่งเสริมภาพลักษณ์ของประเทศไทยในระดับนานาชาติ ในฐานะประเทศที่ยอมรับและเคารพสิทธิมนุษยชนสนับสนุนเพศที่หลากหลาย” ไตรศุลีกล่าว
