วันนี้ (5 พฤศจิกายน) มายด์-ภัสราวลี ธนกิจวิบูลย์ผล แนวร่วมคนสำคัญของม็อบราษฎร พูดในงานเสวนาอาเซียนภาคประชาชนประเทศไทย ที่โรงแรม เจแอล บางกอก ซอยรามคำแหง 23 ในหัวข้อ Alternative Mechanism กลไกทางเลือกของภาคประชาชน โดยมีภาคประชาชนในกลุ่มประเทศอาเซียนร่วมรับฟังและแลกเปลี่ยนผ่านระบบออนไลน์
มายด์กล่าวถึงรูปแบบการชุมนุมทางการเมืองของไทยที่เปลี่ยนไป โดยหลายคนออกมาเองโดยไม่ต้องมีใครชักชวน และจะเห็นว่าแกนนำการชุมนุมหลายคนหน้าใหม่มากๆ
จุดเริ่มต้นของการชุมนุมแบบใหม่ เกิดขึ้นเมื่อตอนต้นปีนี้ โดยมีแฟลชม็อบของแต่ละมหาวิทยาลัยจัดขึ้น
มายด์ยอมรับว่าจุดเริ่มต้นของการออกมาของนิสิตนักศึกษา อาจเริ่มต้นจากการยุบพรรคอนาคตใหม่ แต่นั่นไม่ใช่ทั้งหมด เป็นเพียงการตอกย้ำความไม่ชอบธรรมของรัฐบาลนี้เท่านั้น แต่การยุบพรรคอนาคตใหม่เหมือนฟางเส้นสุดท้ายที่ทำให้นักศึกษาออกมาชุมนุม เพราะเขารู้สึกว่าเสียงของเขาที่เพิ่งได้ใช้สิทธิเลือกตั้งครั้งแรกถูกทำให้ไร้ค่า
ส่วนพัฒนาการของการชุมนุมเกิดขึ้นมาตามบริบทของเหตุการณ์ที่รัฐบาลเป็นผู้สร้างขึ้นเอง ตั้งแต่การใช้พระราชกำหนด (พ.ร.ก.) ฉุกเฉินต่อเนื่องทั้งที่สถานการณ์โควิด-19 ดีขึ้นแล้ว การจับแกนนำในวันที่ 14 ตุลาคมที่ผ่านมา จนทำให้การชุมนุมเกิดแกนนอน หรือม็อบที่ทุกคนเป็นแกนนำ การสลายการชุมนุมด้วยรถฉีดน้ำแรงดันสูง ซึ่งทำให้มีประชาชนออกมาชุมนุมมากขึ้นต่อเนื่อง
ช่วงหนึ่ง มายด์เล่าถึงการถูกคุกคามโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งไปคุกคามแม่ที่บ้านเพื่อขอให้เปิดเผยข้อมูลส่วนตัว แฟน เพื่อนที่คบหา และที่อยู่ รวมถึงเลขบัญชีธนาคาร โดยตำรวจที่ไปคุกคามแม่คือคนเดียวกับที่ไปจับกุมเธอหลังการชุมนุมที่เคลื่อนจากอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิไปทำเนียบรัฐบาล ซึ่งความจริงการขอเลขบัญชีธนาคารต้องมีหมายศาล และจากการสอบถามตำรวจคนนั้นก็ยังไม่ทราบว่าขอไปทำอะไร โดยตำรวจบอกว่าที่ขอไปเพราะต้องการทราบที่อยู่ของเธอ
ส่วนปรากฏการณ์คนใส่เสื้อเหลืองออกมาปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ เธอมองว่าคือความสวยงามของประชาธิปไตยตราบใดที่เราไม่ทำร้ายกัน
“ถ้าหนูมีโอกาสสื่อสาร อยากให้เขาเปิดใจรับฟังเราเช่นกัน อย่าใช้อารมณ์และใช้วัฒนธรรมเดิมๆ มาตัดสินคน อยากให้ทุกคนวางวัยวุฒิ อารมณ์ ทิฐิลง แล้วมาคุยกันด้วยเหตุผล” มายด์กล่าว
ส่วนกรรมการสมานฉันท์ มายด์มองว่าคือเวทีปาหี่ ปัญหาคือเมื่อไรมีคนกลาง ประเด็นสำคัญจะถูกลดทอน
“เราไม่ต้องการแบบนั้น เพราะเราไม่ได้ต้องการคนกลาง เราต้องการพื้นที่ปลอดภัยในการพูดคุย ประชาชนต้องมีพื้นที่ปลอดภัยมากพอในการแสดงแนวความคิด ซึ่งรัฐบาลต้องเป็นผู้ทำ แต่ถ้า พล.อ. ประยุทธ์ ทำไม่ได้ก็ควรลาออกไป” มายด์กล่าว
ทั้งนี้ เธอยังย้ำ 3 ข้อเรียกร้องคือ 1. พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา ต้องลาออก 2. ร่างรัฐธรรมนูญใหม่ 3. ปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งยืนยันว่าไม่ใช่การล้มล้าง
“ทุกคนอยากได้ แต่รู้ว่าไม่ใช่ทุกข้อที่ประชาชนจะได้อย่างรวดเร็ว ยืนยันว่าการปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์เป็นข้อเรียกร้องหลัก แต่เป็นข้อเรียกร้องที่รอได้ โดยสิ่งที่เร็วที่สุดคือประชาชนได้แสงเจตจำนงแล้วว่า ไม่อยากได้และไม่ไว้ใจ พล.อ. ประยุทธ์ เป็นนายกฯ ต่อ และอยากได้นายกฯ คนใหม่มาผลักดันรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ และให้คนที่มีความจริงใจในการปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์” มายด์ ภัสราวลี กล่าว
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์