×

MILLI Effect: มิลลิกิน ‘ข้าวเหนียวมะม่วง’ บนเวที Coachella แค่ 1 คำ ทำยอดสั่งซื้อบนเดลิเวอรีเพิ่มขึ้นกว่า 5 เท่า!

18.04.2022
  • LOADING...
มิลลิ ข้าวเหนียวมะม่วง

วินาทีที่ MILLI หรือ มิลลิ (มินนี่-ดนุภา คณาธีรกุล) กิน #ข้าวเหนียวมะม่วง บนเวที Coachella เทศกาลดนตรีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดงานหนึ่งของโลก กระแสเมนูของหวานที่ขึ้นชื่อของไทยก็เกิดทันที เกิดการต่อแถวที่ร้าน ยอดขายเพิ่มขึ้นมากกว่าเท่าตัว

 

เพื่อสะท้อนภาพดังกล่าวให้ชัดเจน THE STANDARD WEALTH จึงได้สอบถามไปยังแพลตฟอร์มฟู้ดเดลิเวอรียักษ์ใหญของไทย 2 ราย คือ Robinhood และ GrabFood สำหรับการฉายภาพให้ชัดเจนมากขึ้น

 


ข่าวที่เกี่ยวข้อง:


 

สีหนาท ล่ำซำ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เพอร์เพิล เวนเจอร์ส จำกัด ผู้พัฒนาและให้บริการ Robinhood แพลตฟอร์มฟู้ดเดลิเวอรีสัญชาติไทย กล่าวว่า ภายหลังจากที่ MILLI กินข้าวเหนียวมะม่วง ทำให้จำนวนออร์เดอร์บนแพลตฟอร์มเพิ่มขึ้นประมาณ 5 เท่า 

 

โดย 50% ของออร์เดอร์ถูกสั่งในช่วงเวลา 13.00-17.00 น. ขณะที่ 30 % ของออร์เดอร์ถูกสั่งในช่วงเวลา 09.00-13.00 น. และ 20% ของออร์เดอร์ถูกสั่งในช่วงเวลา 17.00-23.00 น. 

 

บริเวณที่มีร้านขายข้าวเหนียวมะม่วงมากที่สุด ได้แก่ จตุจักร, บางกะปิ, วังทองหลาง, ดินแดง, สวนหลวง และเมืองนนทบุรี โดยมีจำนวนออร์เดอร์กว่า 25% จากการสั่งข้าวเหนียวมะม่วงที่สั่งจากร้านในพื้นที่ดังกล่าว 

 

ขณะที่ลูกค้าส่วนใหญ่ที่สั่งข้าวเหนียวมะม่วงจาก Robinhood อาศัยอยู่ที่จตุจักร, บางกะปิ, เมืองนนทบุรี, วังทองหลาง, ห้วยขวาง และสวนหลวง โดยมีจำนวนออร์เดอร์กว่า 25% จากการสั่งข้าวเหนียวมะม่วงที่สั่งโดยลูกค้าที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ดังกล่าว 

 

TOP 10 ร้านขายข้าวเหนียวมะม่วงขายดี ได้แก่ 

 

  1. ข้าวเหนียวมูนแม่มาลัย
  2. บ้านขนมถ้วย&ข้าวเหนียวมะม่วงสาขาสุขสวัสดิ์
  3. ข้าวเหนียวมะม่วงลิงน้อย  
  4. ข้าวเหนียวมะม่วงป้าหวาน ตลาดต้นไม้ชายคา
  5. ป๊อกข้าวเหนียวมะม่วง ขนมหวาน 
  6. ร้านข้าวเหนียวมะม่วงเจ๊เตียง 
  7. ข้าวเหนียวมูน By รดา (มะม่วง อื่นๆ)
  8. ข้าวเหนียวมะม่วงแม่น้อย G14
  9. ป้าหยี ข้าวเหนียวมะม่วง
  10. ข้าวเหนียวมะม่วง เพื่อค่าเทอมลูก

 

“ในช่วงไตรมาสแรกของปี 2565 การสั่งเมนูข้าวเหนียวมะม่วงอยู่ในลำดับที่ 44 และหลังจากกระแสดังกล่าว ข้าวเหนียวมะม่วงได้ขึ้นมาอยู่ในลำดับที่ 15” สีหนาทกล่าว

 

แม่ทัพ Robinhood ยังได้เสริมว่า กระแสข้าวเหนียวมะม่วงที่เกิดขึ้นถือเป็นการช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ สร้างเม็ดเงินหมุนเวียนภายในประเทศ ทั้งในมุมของร้านค้าที่มียอดขายที่เพิ่มขึ้น สร้างงานให้ไรเดอร์ในช่วงสงกรานต์ที่คนส่วนใหญ่มักเดินทางท่องเที่ยว อีกทั้งยังช่วยเกษตรกรชาวสวนมะม่วงท่ามกลางราคาผลผลิตที่ตกต่ำได้อีกทาง ที่แม้อาจจะเป็นกระแสในช่วงเวลาหนึ่ง แต่ก็นับว่าช่วยสร้างกำลังใจให้ทุกคนมีพลังและมีแรงฮึดอีกครั้งท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจในยุคโควิดเช่นนี้

 

ณ วันที่ 17 เมษายน 2565 Robinhood มีจำนวนร้านค้าที่ให้บริการกว่า 225,000 ร้าน มีไรเดอร์กว่า 30,000 คน และมีจำนวนลูกค้าที่ลงทะเบียนใช้งานแพลตฟอร์มกว่า 2.8 ล้านคน

 

ทางด้าน จันต์สุดา ธนานิตยะอุดม ผู้อํานวยการฝ่ายการตลาดและพันธมิตรทางธุรกิจ แกร็บ ประเทศไทย กล่าวว่า ในวันที่ 17 เมษายนที่ผ่านมา จำนวนออร์เดอร์และมูลค่าการสั่งซื้อเมนูข้าวเหนียวมะม่วงผ่าน GrabFood เพิ่มขึ้นกว่าระดับปกติ 4 เท่า

 

พบว่ามีการสั่งซื้อสูงตลอดทั้งวัน ตั้งแต่เวลา 13.00-19.00 น. ตลอดจนมีการสั่งซื้อสูงในหลายย่านในกรุงเทพฯ เช่น ทองหล่อ เอกมัย และอ่อนนุช และจังหวัดใหญ่ๆ ได้แก่ เชียงใหม่ และขอนแก่น

 

โดย 5 ร้านที่ขายดีได้แก่ ข้าวเหนียวมะม่วงแม่วารี, แม่เดือนขนมไทย ตลาดร้อยปี, หวานละมุน, ข้าวเหนียวมะม่วงป้าเล็ก-ป้าใหญ่ และ YenlyYours Dessert

 

“โดยปกติแล้วข้าวเหนียวมะม่วงเป็นของหวานที่มักติดอันดับเมนูขายดี 3 อันดับแรก แต่เมื่อวันที่ 17 เมษายนที่ผ่านมา พุ่งขึ้นเป็นอันดับ 1 ของเมนูประเภทของหวาน” จันต์สุดากล่าว 

 

ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ธุรกิจฟู้ดเดลิเวอรีได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นในประเทศไทย อันเป็นผลมาจากพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป ประกอบกับอิทธิพลของการแพร่ระบาดของโรคโควิด

 

ศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดว่าในปี 2565 ธุรกิจฟู้ดเดลิเวอรีจะยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องและมีมูลค่าตลาดรวมกว่า 7.9 หมื่นล้านบาท โดยนอกจากจำนวนผู้ใช้บริการสั่งอาหารเดลิเวอรีจะเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญแล้ว ผู้ประกอบการร้านอาหารก็หันมาให้ความสำคัญกับการปรับตัวทางธุรกิจ โดยเพิ่มช่องทางการขายผ่านแพลตฟอร์มเดลิเวอรีมากขึ้นเช่นกัน 

 

เห็นได้จากจำนวนพาร์ตเนอร์ร้านอาหารของ GrabFood ที่มีการเติบโตเพิ่มขึ้นกว่า 800% (เปรียบเทียบจากช่วงสิ้นปี 2562 จนถึงปี 2564) จนมีจำนวนมากกว่า 200,000 ร้านในปัจจุบัน

 

อย่างไรก็ตาม กระแสข้าวเหนียวมะม่วงเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ราคาของมะม่วงกำลังอยู่ในช่วงตกต่ำในรอบ 10 ปี อ้างอิงรายงานของเว็บไซต์ข่าวสดพบว่า มะม่วงน้ำดอกไม้สีทองเกรดส่งออกเหลือเพียง 20-30 บาทต่อกิโลกรัม จากปีที่ผ่านมากิโลกรัมละ 60-70 บาท

 

ส่วนมะม่วงเกรดบริโภคภายในประเทศเหลือเพียงกิโลกรัมละ 10-15 บาท บางขนาดเหลือกิโลกรัมละ 1 บาท และเมื่อขายไม่ออกก็ต้องเททิ้งกว่า 100 ตันเลยทีเดียว 

 

ทั้งนี้ข้อมูลจากกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศเผยว่า สถานการณ์การส่งออกมะม่วงสดปี 2564 ไทยส่งออกมะม่วงรวม 4,440.30 ล้านบาท แบ่งเป็นมะม่วงสด มูลค่า 2,934.61 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 50.25% จากปี 2563 และมะม่วงกระป๋องมูลค่า 1,505.69 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 21.12% จากปี 2563

 

และปี 2565 (มกราคม – กุมภาพันธ์ 2565) มีปริมาณ 10,398 ตัน มูลค่ารวม 403.51 ล้านบาท แบ่งเป็นมะม่วงสด มูลค่า 177.96 ล้านบาท ลดลง 38.13% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันจากปี 2564 และมะม่วงกระป๋องมูลค่า 225.55 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 21.78% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันจากปี 2564

 

โดยมีประเทศ 10 อันดับแรกที่เป็นตลาดส่งออกมะม่วงสดสำคัญของไทย ได้แก่ มาเลเซีย เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น เมียนมา ลาว สิงคโปร์ รัสเซีย เวียดนาม สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และจีนตามลำดับ

 

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising
X
Close Advertising