‘มิชลิน’ เป็นที่รู้จักดีในฐานะผู้นำด้านนวัตกรรมยางรถยนต์ ที่สร้างสรรค์นวัตกรรมยางภายใต้แนวคิด ‘Performance Made To Last’ (PMTL) หรือนวัตกรรมยางยั่งยืน เพื่อมอบประสบการณ์การขับขี่ที่ให้สมรรถนะดีเยี่ยมยาวนาน ปลอดภัย มั่นใจตั้งแต่วันแรกที่ใช้จนถึงวันที่เปลี่ยนยางรอบถัดไป ลดขยะจากการเปลี่ยนยางบ่อยเกินความจำเป็น
สำหรับมิชลิน ‘นวัตกรรม’ หลอมรวมเป็นอัตลักษณ์ที่สะท้อนตัวตนของแบรนด์มาตลอด 135 ปี การันตีจากการได้รับยกย่องให้เป็น Top 100 Global Innovators 2024 บริษัทนวัตกรรมระดับโลก 100 อันดับแรกประจำปี 2024 โดยการจัดอันดับของ Clarivate ผู้นำระดับโลกในการให้บริการข้อมูลเชิงลึกและวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อส่งเสริมให้การพัฒนานวัตกรรมเป็นไปได้อย่างรวดเร็ว
เพื่อตอกย้ำความแข็งแกร่งด้านนวัตกรรมที่ว่านี้ มิชลินจึงปล่อยแบรนด์แคมเปญ ‘Motion for Life’ ภายใต้แนวคิด ‘มิชลินคิดค้นนวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง เพื่อเปลี่ยนโลกให้ดียิ่งขึ้น’ เมื่อปี 2020 และยังขยายขอบเขตนวัตกรรมที่เกี่ยวกับยางและนอกเหนือจากยางเพื่อสร้างโลกที่ดีกว่า นำไปสู่แคมเปญใหม่ของปี 2024 ในชื่อ ‘On the Road and Beyond’ สะท้อนให้เห็นว่า มิชลินเป็นแบรนด์ที่คิดค้นนวัตกรรมใหม่อย่างต่อเนื่องด้านธุรกิจยางและนอกเหนือไปกว่านั้น เพื่อมอบประสบการณ์การสัญจรที่ดีต่อคุณและเป็นมิตรที่ดีต่อโลก
THE STANDARD ขอพาชมนวัตกรรมของมิชลินที่จะขับเคลื่อนชีวิตที่ดีกว่า และโลกที่ดีขึ้นได้จริง
“นวัตกรรมจะมีความหมายก็ต่อเมื่อมีประโยชน์กับทุกคน”
มิชลินทุ่มงบลงทุนกว่า 1.2 พันล้านยูโรในการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง เพราะการสร้างนวัตกรรมเป็นหนึ่งในแกนหลักของแบรนด์ตลอดมา ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนเพื่อทำวิจัยเรื่องการนำยางหมดอายุกลับมารีไซเคิลใหม่ การใช้วัสดุในการผลิตยางที่ยั่งยืนมากขึ้น และยังเป็นผู้คิดค้นและพัฒนาระบบจำลองยางเสมือนจริงที่ช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์
กว่า 135 ปี มิชลินมุ่งพัฒนาและขยายขอบเขตนวัตกรรมความเป็นไปได้นอกเหนือจากยาง เช่น ธุรกิจด้านวัสดุไฮเทค, การพิมพ์โลหะ 3 มิติ, พลังงานไฮโดรเจน นวัตกรรมทางการแพทย์ เช่น สายเข็มขัดขาเทียม ช่วยให้เคลื่อนไหวได้ยืดหยุ่นมากขึ้น ไปจนถึงนวัตกรรมระบบใบเรือที่ยืด-หดได้ และพองลมอัตโนมัติ ช่วยลดคาร์บอนการขนส่งทางเรือ ภายใต้โครงการ WISAMO (Wing Sail Mobility) หรือการสัญจรที่ขับเคลื่อนด้วยใบเรือ รวมไปถึงธุรกิจที่เกี่ยวกับการสร้างประสบการณ์อย่าง ‘มิชลิน ไกด์’ และ ‘Tablet Hotels’
พาชมนวัตกรรมของมิชลินที่จะขับเคลื่อนชีวิตที่ดีกว่า และโลกที่ดีขึ้นได้จริง
สำรวจโลกใหม่ด้วยยางไร้อากาศ
อีกหนึ่งตัวอย่างการพัฒนานวัตกรรมไร้ขีดจำกัดของมิชลินที่กำลังจะพามนุษยชาติออกเดินทางไปค้นพบดินแดนใหม่ผ่านนวัตกรรมยางไร้อากาศ ล้อต้นแบบที่ใช้ในการสำรวจอวกาศ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ Artemis ของ NASA โดยมิชลินได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของทีม Moon RACER
ถือเป็นก้าวสำคัญอีกครั้ง เพราะที่ผ่านมามิชลินร่วมมือในฐานะผู้จัดหายางเพียงรายเดียวสำหรับกระสวยอวกาศ และร่วมเดินทางไปกับภารกิจ 135 ครั้ง ระหว่างปี 1981-2011
ไม่หยุดเพียงเท่านี้ มิชลินตั้งเป้าที่จะนำนวัตกรรมมาพัฒนาล้อให้กับยานสำรวจดวงจันทร์ ด้วยประสบการณ์กว่า 20 ปี ทั้งโซลูชันยางไร้ลม MICHELIN UPTIS และ MICHELIN TWEEL ไปจนถึงวัสดุไฮเทคระดับสูง เพื่อช่วยให้การสำรวจโลกใหม่สะดวกและปลอดภัยยิ่งกว่า
นวัตกรรม ‘On Road’ รองรับนวัตกรรมยางเพื่อรถยนต์ไฟฟ้า
ยางมิชลินทุกเส้นคิดค้นและพัฒนาให้สามารถใช้งานกับรถยนต์ไฟฟ้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะไม่ใช่ยางอะไรก็ได้ที่จะตอบโจทย์ความท้าทายของรถยนต์ไฟฟ้า เนื่องจากแรงบิดที่สูงและน้ำหนักแบตเตอรี่ของรถยนต์ไฟฟ้าส่งผลให้ยางสึกเร็ว จึงต้องการยางล้อที่มีคุณสมบัติพิเศษ นอกจากต้องมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน มีความนุ่มและเงียบขณะขับขี่ ขณะเดียวกันต้องช่วยเพิ่มระยะทางต่อการชาร์จแบต
ปี 1899 มิชลินพัฒนายางล้อสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าคันแรกของโลกที่ใช้ชื่อว่า ‘La Jamais Contente’ ซึ่งวิ่งได้เร็วกว่า 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ต่อมาในปี 1946 ปฏิวัติวงการยางเรเดียล MICHELIN X คิดค้นยางเรเดียลรุ่นแรกที่มีความแข็งแรงทนทานเพิ่มขึ้น 2-3 เท่า และในปี 1992 ก็ได้พัฒนายาง MICHELIN ENERGY โดยนำซิลิกามาเป็นส่วนผสมในเนื้อยาง ช่วยยืดอายุการใช้งานและประหยัดพลังงานมากขึ้น
พร้อมด้วยเทคโนโลยี MICHELIN Acoustic ช่วยลดเสียงรบกวนภายในห้องโดยสารที่เกิดจากยางล้อ และเทคโนโลยี MaxTouch ที่ช่วยเพิ่มพื้นที่หน้าสัมผัสระหว่างยางกับพื้นผิวถนน ช่วยกระจายแรงกดที่หน้ายางให้สม่ำเสมอ ผสานเข้ากับเนื้อยางสูตรพิเศษเอกสิทธิ์เฉพาะมิชลิน เพื่อให้ได้ยางรถยนต์ที่รองรับความท้าทายทุกข้อจำกัดของรถยนต์ไฟฟ้า
ทั้งหมดนี้สร้างสรรค์ภายใต้แนวคิด ‘Performance Made To Last’ (PMTL) หรือนวัตกรรมยางยั่งยืน ที่มอบประสบการณ์การขับขี่ที่ให้สมรรถนะดีเยี่ยมยาวนาน ปลอดภัย มั่นใจตั้งแต่วันแรกที่ใช้จนถึงวันที่เปลี่ยนยางรอบถัดไป ซึ่งนอกจากจะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายแล้ว ยังช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจากการเปลี่ยนยางบ่อยเกินความจำเป็น
‘มิชลิน ไกด์’ ประสบการณ์การเดินทางสุดพิเศษ
ขอยกให้เป็นนวัตกรรมที่ปลุกให้เศรษฐกิจการท่องเที่ยวในหลายประเทศคึกคัก นับตั้งแต่วันที่สองพี่น้องมิชลินตัดสินใจทำหนังสือสีแดงเล่มเล็กชื่อว่า ‘กีดรูฌ’ หรือที่คนทั่วโลกรู้จักในนาม ‘มิชลิน ไกด์’ ออกมา เพื่อให้คนออกเดินทางบนเส้นทางใหม่ๆ จวบจนวันนี้เข้าสู่ปีที่ 124 มิชลิน ไกด์ กลายเป็นจุดเริ่มต้นที่กระตุ้นให้ผู้คนอยากออกเดินทางมากขึ้น และเป็นคู่มือการเดินทางที่นักชิมไว้วางใจ และพร้อมจะออกเดินทางไปค้นหาประสบการณ์ใหม่ๆ ผ่านเมนูอาหารที่มีอยู่ทุกเมืองสำคัญทั่วโลกกว่า 5,644 เมืองใน 47 ประเทศ โดยประเทศไทยเป็นประเทศที่ 5 ในเอเชีย
การเดินทางครั้งใหม่ภายใต้แนวคิด ‘On the Road and Beyond’ ที่จะทำให้คุณเข้าใจถึงแก่นแท้ของมิชลินในฐานะผู้นำการเปลี่ยนแปลงประสบการณ์การสัญจรที่ดีต่อคุณและเป็นมิตรต่อโลก ที่ไม่เพียงเติบโตอย่างต่อเนื่องในธุรกิจยาง แต่ยังสร้างนวัตกรรมในด้านใหม่ๆ ที่ก้าวข้ามขีดจำกัดเดิม
นอกจากนี้ มิชลินยังมอบประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมให้กับลูกค้า โดยพัฒนาโซลูชันอัจฉริยะที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล เพื่อสนับสนุนกลุ่มยานพาหนะมืออาชีพ และส่งเสริมการค้นพบร้านอาหารและโรงแรมระดับสุดยอด ผลิตภัณฑ์ไลฟ์สไตล์ที่หลากหลาย รวมถึงบริการการเดินทางที่ทันสมัย
มาร่วมสัมผัสความเหนือระดับไปกับมิชลิน
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.michelin.co.th/why-michelin/innovation