×

บช.น. เตรียมกำลัง 12 กองร้อยดูแลพื้นที่ที่อาจมีการชุมนุม 24 กองร้อยดูแลสถานที่ราชการ

โดย THE STANDARD TEAM
05.11.2020
  • LOADING...
บช.น. เตรียมกำลัง 12 กองร้อยดูแลพื้นที่ที่อาจมีการชุมนุม 24 กองร้อยดูแลสถานที่ราชการ

วันนี้ (5 พฤศจิกายน) พล.ต.ต. ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยการเตรียมความพร้อมการดูแลพื้นที่การชุมนุมที่ผ่านมา หลังกลุ่มคณะราษฎรได้มีการแถลงการณ์ที่จะชุมนุมต่อ โดยกำหนดแนวทางว่า พล.ต.ท. ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ได้เรียกประชุมหารือเตรียมกำลังเพื่อรองรับไว้ทั้งหมด 12 กองร้อยในการดูแลโดยรอบพื้นที่ที่มีการชุมนุม เช่น โดยรอบพื้นที่สนามหลวง และที่เหลืออีกจำนวน 24 กองร้อยได้มีการจัดกำลังเพื่อเฝ้าจุดตามสถานที่ราชการ ส่วนตอนนี้มีการปรับลดกำลังแล้วหรือไม่นั้น ขณะนี้ได้มีการปรับลดกำลังบางส่วนตามความเหมาะสม 

 

ส่วนการดำเนินคดีกับแกนนำเพิ่มเติมนั้น วันนี้มีการแกนนำและผู้เกี่ยวข้องกับกลุ่มผู้ชุมนุมหลัก 2 จุดคือ กรณี มายด์-ภัสราวลี ธนกิจวิบูลย์ผล อายุ 25 ปี แกนนำกลุ่มมหานครเพื่อประชาธิปไตย และสมาชิกคณะประชาชนปลดแอก รับทราบข้อกล่าวหาความผิดตามมาตรา 116 ที่สถานีตำรวจนครบาลทุ่งมหาเมฆ โดย พล.ต.ท. ภัคพงศ์ ได้ลงไปติดตามสถานการณ์ด้วยตัวเอง

 

อีกส่วนหนึ่งเป็นกรณีที่ สุวิทย์ ทองประเสริฐ อดีตพระพุทธะอิสระ แจ้งความเอาผิด ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ, ปิยบุตร แสงกนกกุล และพรรณิการ์ วานิช กลุ่มคณะก้าวหน้า โดยผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 3 รายจะเดินทางไปพบพนักงานสอบสวนที่สถานีตำรวจนครบาลพญาไทตามหมายเรียกคดีดังกล่าวในช่วงเช้า และช่วงบ่ายวันนี้หากการดำเนินการมีความคืบหน้าอย่างไรนั้น ทางกองบัญชาการตำรวจนครบาลจะแจ้งให้ทราบต่อไป

 

ขณะที่มีรายงานข่าวแจ้งว่าฝ่ายความมั่นคงได้มีการตรวจสอบกรณีความเคลื่อนไหวของแกนนำกลุ่มผู้ชุมนุมคณะราษฎร ในขณะนี้อยู่ระหว่างเดินทางไปต่างจังหวัดเพื่อหาแนวร่วมการชุมนุมมากขึ้น เนื่องจากมีการประเมินว่ากระแสการชุมนุมในพื้นที่กรุงเทพมหานครเริ่มตกลง จึงได้มีการสร้างกระแสขึ้นมา ไม่ว่าจะเป็นกรณีการแย่งชิงตัวผู้ต้องหาพื้นที่สถานีตำรวจนครบาลประชาชื่น รวมถึงการจุดประทัดลูกบอลที่การชุมนุมบริเวณแยกท่าพระ รวมถึงการอุ้มตัวแกนนำในพื้นที่สถานีตำรวจนครบาลลาดกระบัง ซึ่งต้องการนำประเด็นดังกล่าวมาสร้างกระแสให้เกิดประเด็นและมีการชุมนุมมากยิ่งขึ้น

 

พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising