บอกไว้ก่อนว่าเราไม่ได้ชวนคุณหาหน้ากากซูเปอร์ฮีโร่ในดวงใจอย่างกัปตันอเมริกา, แบทแมน, สไปเดอร์แมน, เดดพูล หรือไอรอนแมน ฯลฯ มาสวมเพื่อปราบเหล่าร้ายอย่างที่คุณอาจเข้าใจหรอกนะ แต่เราอยากชวนคุณผู้ชายมา ‘มาสก์หน้า’ (Face Mask) หรือ ‘พอกหน้า’ ให้เหลือแต่ลูกตา เพื่อเร่งกอบกู้ผิวหน้าอันหยาบกร้านของเหล่าชายหนุ่มที่ผ่านการกรำศึกมาอย่างหนักหน่วงตลอดสัปดาห์ ทั้งจากความเครียดในการงาน การอดหลับอดนอนสะสม กระทั่งเหล้าและควันบุหรี่จากปาร์ตี้เมื่อคืนวันศุกร์ต่อเสาร์ ฯลฯ  

มาสก์หน้าไปทำไม

ก่อนจะมาเรียนรู้ขั้นตอนการมาสก์หน้า คุณอาจต้ังคำถามว่า “ผมต้องทำไปเพื่อ?” เรามาทำความเข้าใจกันก่อน โดยเริ่มกันที่หลักการดูแลผิวหน้าสำหรับสุภาพบุรุษ (ชายแท้) ซึ่งง่ายมากๆ เพียงแค่พึงระลึกอยู่เสมอว่า ‘ผิวดีคือผิวที่สะอาด’ ซึ่งหมายถึงผิวที่ปราศจากสิ่งสกปรกตกค้างและความมันส่วนเกินอันมีสาเหตุมาจากการหลั่งน้ำมันของต่อมไขมัน (Sebaceous) ในชั้นผิวหนังผ่านรูขุมขน รวมไปถึงมลภาวะบนชั้นบรรยากาศ จริงอยู่ที่การล้างหน้าอย่างถูกวิธีเป็นขั้นตอนพื้นฐานสู่การมีผิวสะอาด แต่บางครั้งอาจจะยังไม่เพียงพอ ดังนั้นการมาสก์หน้าจึงเป็นวิธีเสริมหล่อแบบง่ายที่ใครๆ ก็ทำได้ (และเชื่อเถอะ จากประสบการณ์ที่คร่ำหวอดในวงการเครื่องสำอางผู้ชายมามากกว่าสิบปี นี่เป็นขั้นตอนการบำรุงผิวที่เห็นผลไวภายในเวลาเพียง 15 นาทีเท่านั้น!) ที่สำคัญยังเหมาะกับมนุษย์เพศชายที่ขี้เกียจทาครีมกันแดดในตอนเช้าและลงมอยส์เจอไรเซอร์ก่อนนอนที่สุดอีกด้วย

มารู้จักมาสก์กันเสียก่อน

ผู้ชายบางคนอาจรู้สึก ‘ประดักประเดิก’ และ ‘เขินอาย’ ที่จะลองพอกเจ้ามาสก์โคลนหรือโคลนพอกหน้าสีสันประหลาดและอาจมีกลิ่นตุๆ แต่ขอให้มั่นใจในผลลัพธ์อันมหัศจรรย์ เพราะมาสก์โคลนมีประสิทธิภาพในการปรับสภาพพื้นผิวให้เรียบเนียน ปรับโทนผิวให้มีสีสม่ำเสมอ อีกทั้งยังช่วยขจัดน้ำมันส่วนเกินและดูดซับสิ่งสกปรกออกจากรูขุมขนได้ โดยภายในเวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมง ผิวหน้าจะสว่างใสและสดชื่นขึ้น เพราะการมาสก์หน้าเป็นวิธีการดูแลผิวที่เรียบง่าย รวดเร็ว และเห็นผลลัพธ์ในทันที อีกทั้งช่วยให้มอยส์เจอไรเซอร์ซึมซาบสู่ผิวได้ลึกขึ้นกว่าเดิม

มาสก์อย่างไรล่ะ

ผู้ชายควรมาสก์หน้าอย่างไรและตอนไหน เอาเป็นว่าง่ายที่สุดคือสัปดาห์ละครั้ง (แนะนำให้เป็นคืนวันอาทิตย์ก่อนนอนหากคุณมีผิวธรรมดา แต่ถ้าผิวมันหน่อยก็ขยับขึ้นมาเป็นสัปดาห์ละ 2 ครั้งก็ได้) เริ่มต้นด้วยการใช้คลีนเซอร์ล้างหน้าให้สะอาด โดยอาจปรับก๊อกเป็นโหมดน้ำอุ่นเพื่อช่วยเปิดรูขุมขน บีบมาสก์โคลนขนาดเท่าเหรียญ 10 บาทลงบนหลังมือข้างที่ไม่ถนัด ใช้นิ้วป้ายมาสก์โคลนทาให้ทั่วใบหน้าเป็นชั้นบางๆ เว้นรอบดวงตาและปาก ทิ้งไว้ให้แห้งประมาณ 15 นาที จากนั้นล้างมาสก์ที่แห้งออกด้วยน้ำอุ่น ซับผิวหน้าให้แห้งด้วยผ้าขนหนูสะอาดหรือสำลีแบบแผ่น

เคล็ดลับสำคัญที่ช่วยให้ผิวหน้าของผู้ชายมีสุขภาพดีและอ่อนกว่าวัย

• ดื่มน้ำสะอาดเยอะๆ
• กินอาหารที่มีประโยชน์
• ลดบุหรี่ลงบ้าง
• ดื่มแอลกอฮอล์แต่พอประมาณ
• ทาครีมกันแดดเป็นประจำ

ปัจจุบันมาสก์สำหรับผู้ชายมีพัฒนาการไปหลายรูปแบบ ทั้งแบบเคลย์มาสก์หรือมาสก์โคลนสูตรดั้งเดิม แบบเจลที่สามารถลอกออกได้ แบบหน้ากากที่สะดวกรวดเร็ว และแบบพอกทิ้งค้างคืนไว้ได้คล้ายไนต์ครีม  

ไม่รู้จะเริ่มอย่างไร ลองตัวช่วยเหล่านี้ได้

หากไม่รู้จะเริ่มอย่างไร เราได้คัดตัวช่วยมาให้คุณหนุ่มๆ ได้ลองกันดังนี้

1. Hero Mask – The Men Mask จาก Sephora Collection (1 แผ่น 190 บาท)

ฮีโร่กู้ผิวหน้าที่ออกแบบมาเพื่อผิวของผู้ชายโดยเฉพาะ มาสก์นี้จะมอบความชุ่มชื้น ฟื้นฟูความเปล่งปลั่ง ให้ผิวแลดูนุ่มเนียน สุขภาพดีขึ้นได้ภายใน 3 นาที

2. T-Pur Blue Face Clay Pore Minimizer Care จาก Biotherm Homme (50 มล. 1,500 บาท) 

มาสก์โคลนที่ช่วยกระชับรูขุมขน ช่วยต้านอนุมูลอิสระ ช่วยให้ผิวดูเปล่งปลั่ง และลดความหมองคล้ำ ทำความสะอาดรูขุมขนอย่างล้ำลึก ช่วยขจัดสิ่งสกปรกและความมันส่วนเกิน ลดความหยาบกร้านของผิวลง ให้ผิวดูเรียบเนียน

3. Urban Blue Detox Clay Mask จาก Lab Series (100 มล. 1,350 บาท) 

มาสก์โคลนสีฟ้าที่ช่วยชำระล้างสิ่งสกปรกตกค้างในรูขุมขนได้อย่างหมดจด พร้อมช่วยลดรอยคล้ำ กระชับรูขุมขน และขจัดความมันส่วนเกินบนใบหน้า

4. Umbrian Purifying Clay Mask จาก Fresh (100 มล. 2,450 บาท) 

มาสก์โคลนอเนกประสงค์แบบ 3-in-1 ช่วยดูดซับสารพิษ กระชับรูขุมขน พร้อมสร้างสมดุลให้กับผิว โคลนชาร์โคลที่มีแร่ธาตุต่างๆ ดอกคาโมมายล์ ดอกลาเวนเดอร์ และ Sandalwood Oil

5. Time Reversal Clay Mask จาก Dii (50 มล. 850 บาท)

มาสก์โคลนที่ช่วยกำจัดสิ่งสกปรกในรูขุมขน สารสกัดจากสาหร่ายทะเลสีเขียวแกมน้ำเงิน ช่วยฟื้นฟูผิวแห้งกร้านและเติมความชุ่มชื้นให้แก่ผิว พร้อมผสานโคลนภูเขาไฟบริสุทธิ์ที่อุดมด้วยแร่ธาตุ ช่วยทำให้ผิวหน้าขาวกระจ่างใส

ภาพ: Getty Images, Shutterstock, Courtesy of Brands, Columbia Pictures

พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์