×

เปิดบทสัมภาษณ์เมแกน-แฮร์รี เผยเบื้องหลังการเหยียดเชื้อชาติในสมาชิกราชวงศ์อังกฤษ – แรงกดดันและความเครียดที่ทำให้คิดฆ่าตัวตาย

08.03.2021
  • LOADING...
เปิดบทสัมภาษณ์เมแกน-แฮร์รี เผยเบื้องหลังการเหยียดเชื้อชาติในสมาชิกราชวงศ์อังกฤษ - แรงกดดันและความเครียดที่ทำให้คิดฆ่าตัวตาย

HIGHLIGHTS

5 mins. read
  • เมแกนและแฮร์รีเปิดเผยว่า สมาชิกราชวงศ์บางพระองค์มีการพูดคุย และแสดงความกังวลหลายครั้งเกี่ยวกับสีผิวของ ‘อาร์ชี’ บุตรชายของทั้งสองว่า อาจส่งผลต่อสถานะเจ้าชาย ตั้งแต่ก่อนที่อาร์ชีจะประสูติ ซึ่งสะท้อนปัญหาการเหยียดเชื้อชาติ และความอนุรักษนิยมในหมู่ราชวงศ์อังกฤษ
  • โอปราห์ วินฟรีย์ ถามเมแกนว่าเคยถึงจุดที่คิดทำร้ายตัวเองหรือฆ่าตัวตายหรือไม่ ซึ่งเมแกนตอบว่าใช่ และมันชัดเจนจนน่ากลัว ซึ่งเรื่องนี้เกิดขึ้นในช่วงที่เธอตั้งครรภ์อยู่
  • แม้ชีวิตในวังที่เมแกนเล่าอาจบ่งบอกได้ว่า ความเป็นจริงไม่เหมือนกับเทพนิยาย แต่เธอยืนยันว่ามีตอนจบที่สวยงาม และมีความสุขกับแฮร์รี ซึ่งนั่น “มันยิ่งใหญ่กว่าเทพนิยายใดๆ ที่คุณเคยอ่านเลยล่ะ”

เจ้าชายแฮร์รี ดยุกแห่งซัสเซ็กซ์ และเมแกน มาร์เคิล ดัชเชสแห่งซัสเซ็กซ์ พระชายา ที่ได้ประกาศสละยศและฐานันดรศักดิ์ไปก่อนหน้านี้ กลายเป็นข่าวดังไปทั่วโลกอีกครั้ง หลังให้สัมภาษณ์เจาะลึกเรื่องราวชีวิตส่วนตัวในขณะที่ทั้งสองอยู่ในรั้วราชวงศ์อังกฤษ แก่รายการทอล์กโชว์พิเศษ ‘Oprah with Meghan and Harry: A CBS Primetime Special’ ของโอปราห์ วินฟรีย์ พิธีกรหญิงชื่อดัง ที่ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ CBS ของสหรัฐฯ เมื่อคืนที่ผ่านมา (7 มีนาคม)

 

สิ่งที่สร้างความตกตะลึงแก่ทั่วโลก คือการเปิดเผยเรื่องราวในมุมมืดของราชวงศ์อังกฤษหลายประเด็น ทั้งกรณีแบ่งแยกเชื้อชาติและแรงกดดันที่เมแกนต้องเผชิญ หลังเข้าร่วมเป็นสมาชิกราชวงศ์จนส่งผลให้คิดอยากฆ่าตัวตาย

 

ในการให้สัมภาษณ์ครั้งนี้ เมแกนเป็นผู้ให้สัมภาษณ์เป็นส่วนใหญ่ ก่อนที่แฮร์รีจะร่วมตอบคำถามในบางข้อ ซึ่ง THE STANDARD รวบรวมทุกประเด็นสำคัญ จากบทสัมภาษณ์ความยาวกว่า 2 ชั่วโมงมาให้อ่านกัน

 

 

1. ราชวงศ์อังกฤษกังวลสีผิวพระโอรสอาร์ชี – ปฏิเสธให้สถานะเจ้าชาย

หนึ่งในข้อกล่าวหาใหญ่ที่สุดในระหว่างการสัมภาษณ์ คือการที่เมแกนและแฮร์รีเปิดเผยว่า สมาชิกราชวงศ์บางพระองค์มีการพูดคุยและแสดงความกังวลหลายครั้งเกี่ยวกับสีผิวของ ‘อาร์ชี’ บุตรชายของทั้งสองว่า อาจส่งผลต่อสถานะเจ้าชาย ตั้งแต่ก่อนที่อาร์ชีจะประสูติ 

 

ประเด็นนี้เกิดขึ้นเนื่องจากเมแกนเป็นคนผิวสีและมีเชื้อสายผสม ซึ่งจุดที่ทำให้เมแกน เจ็บปวดที่สุด คือเมื่อสำนักพระราชวังบักกิงแฮมแจ้งปฏิเสธมอบพระยศเจ้าชายให้อาร์ชี และผลที่ตามมาคือพระโอรสของพระองค์จะไม่ได้รับการอารักขาตลอด 24 ชั่วโมง 

 

“ในช่วงหลายเดือนนั้น ขณะที่ฉันยังตั้งครรภ์ มีข้อกังวลและการพูดคุยหลายครั้ง ว่าสีผิวของเขา (อาร์ชี) จะดำแค่ไหนตอนที่ประสูติ” เมแกนเผย โดยบอกว่าแฮร์รี ขณะยังทรงเป็นเจ้าชายทรงเล่าเรื่องการพูดคุยนี้ให้เธอฟัง ท่ามกลางความตกตะลึงของโอปราห์ที่ถึงกับพูดไม่ออก และถามตรงๆ ว่าสมาชิกราชวงศ์พระองค์ไหนที่ตรัสเช่นนี้ ซึ่งทั้งเมแกนและแฮร์รีปฏิเสธที่จะเปิดเผยว่า ใครที่พูดเรื่องนี้ เนื่องจากไม่ต้องการให้สมาชิกราชวงศ์พระองค์นั้นต้องเสื่อมเสีย

 

“บทสนทนานั้น ผมจะไม่มีวันเล่าให้ฟัง ในตอนนั้นมันน่าอึดอัดใจ และผมค่อนข้างช็อก” แฮร์รีกล่าว

 

นอกจากนี้แฮร์รียังเผยว่าเขารู้สึกเจ็บปวดที่สมาชิกราชวงศ์อังกฤษไม่มีใครเคยออกมาตรัสหรือแสดงการต่อต้านการแบ่งแยกเชื้อชาติ เพื่อสนับสนุนเมแกนเลย ทั้งที่มีโอกาสทำได้หลายครั้ง ในขณะที่สมาชิกรัฐสภาหญิงของสหราชอาณาจักรมากกว่า 70 คน ทั้งจากพรรคเลเบอร์และพรรคคอนเซอร์เวทีฟต่างออกมาต่อต้านการแบ่งแยกเชื้อชาติ ด้วยการแสดงความเห็นผ่านสื่อและบทความมากมายที่เขียนเกี่ยวกับเมแกน

 

2. เจ้าหญิงเคททำให้เมแกนร้องไห้

อีกเรื่องหนึ่งที่ปรากฏผ่านสื่อเมื่อ 2 ถึง 3 ปีก่อนหน้า คือข่าวที่เมแกนทำให้เจ้าหญิงแคเธอรีน ดัชเชสแห่งเคมบริดจ์ หรือเจ้าหญิงเคท พระชายาในเจ้าชายวิลเลียม พี่สะใภ้ของเธอ ต้องร้องไห้หลังจากที่ทะเลาะกันเรื่องชุดของเด็กหญิงที่ถือดอกไม้ ในวันก่อนพิธีเสกสมรส ซึ่งเมแกนบอกกับโอปราห์ว่าไม่ใช่ความจริง และเรื่องจริงนั้นกลับกัน

 

“ไม่กี่วันก่อนพิธีเสกสมรส เคทรู้สึกหงุดหงิดเกี่ยวกับเรื่องชุดของเด็กถือดอกไม้ และมันทำให้ฉันร้องไห้” เมแกนเผย และบอกต่อว่าเจ้าหญิงเคททรงขออภัย พร้อมนำดอกไม้และข้อความขอโทษมาให้เธอในภายหลัง ขณะที่เมแกนยืนยันว่าเจ้าหญิงเคทนั้นทรงเป็นคนดี

 

3. ความคิดฆ่าตัวตายหลังเผชิญแรงกดดันจากการเป็นสมาชิกราชวงศ์

เมแกนเปิดเผยระหว่างให้สัมภาษณ์ว่า รู้สึกโดดเดี่ยวและสูญเสียอิสรภาพหลังจากเข้าร่วมเป็นสมาชิกราชวงศ์อังกฤษ โดยถูกจำกัดในสิ่งที่ทำได้และทำไม่ได้ ซึ่งความเครียดและแรงกดดันที่เกิดขึ้นนั้นมากถึงจุดที่ทำให้ไม่ออกจากที่ประทับเป็นเวลาหลายเดือน

 

“เมื่อฉันเข้าร่วมในสมาชิกราชวงศ์ นั่นเป็นครั้งสุดท้ายที่ฉันได้เห็นหนังสือเดินทาง ใบขับขี่ กุญแจต่างๆ” เมแกนกล่าว พร้อมตอบคำถามของโอปราห์ ที่ถามว่าเธอเคยคิดถึงจุดที่ทำร้ายตัวเองหรือฆ่าตัวตายหรือไม่ ซึ่งเมแกนตอบว่าใช่ และมันชัดเจนจนน่ากลัว 

 

เมแกนเล่าว่าในช่วงที่เกิดความคิดนั้นเธอตั้งครรภ์อยู่ ซึ่งสภาพจิตใจนั้นย่ำแย่ จนถึงขั้นบอกกับเจ้าชายแฮร์รีในช่วงเช้าก่อนเสด็จออกงานร่วมกันที่ Royal Albert Hall ว่าเธอ “ไม่ต้องการมีชีวิตอยู่อีกต่อไป”

 

หลังจากนั้นเธอยังได้ติดต่อไปยังหนึ่งในสมาชิกราชวงศ์ที่มีความอาวุโสสูงสุด และฝ่ายทรัพยากรบุคคลของสำนักพระราชวังบักกิงแฮม โดยบอกว่าเธอจำเป็นต้องไปบางสถานที่เพื่อรับความช่วยเหลือในการรับมือกับเรื่องนี้ แต่ถูกปฏิเสธว่าไม่สามารถทำได้ เนื่องจากอาจส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของราชวงศ์อังกฤษ

 

เปิดบทสัมภาษณ์เมแกน-แฮร์รี เผยเบื้องหลังการเหยียดเชื้อชาติในสมาชิกราชวงศ์อังกฤษ - แรงกดดันและความเครียดที่ทำให้คิดฆ่าตัวตาย

 

4. เมแกนปรึกษาหนึ่งในพระสหายของเจ้าหญิงไดอานา

ชื่อของเจ้าหญิงไดอานา พระมารดาของเจ้าชายแฮร์รี ปรากฏขึ้นหลายครั้งในระหว่างการสัมภาษณ์ โดยเฉพาะในประเด็นการเข้าร่วมเป็นสมาชิกราชวงศ์อังกฤษที่เมแกน และเจ้าหญิงไดอานามีประสบการณ์คล้ายกันในหลายด้าน

 

ซึ่งเมแกนบอกว่าในช่วงเวลาที่รู้สึกเครียดจนไม่รู้จะหันไปหาใครนั้น หนึ่งในคนที่เธอได้ติดต่อพูดคุย และขอคำปรึกษาคือพระสหายสนิทของเจ้าหญิงไดอานา

 

5. เจ้าชายแฮร์รีรู้สึกผิดหวังต่อพระบิดา

โอปราห์ถามแฮร์รีถึงความสัมพันธ์ระหว่างเขากับสมาชิกราชวงศ์พระองค์อื่น โดยเฉพาะพระบิดา คือ เจ้าชายชาร์ลส์ เจ้าชายแห่งเวลส์ และพระเชษฐา เจ้าชายวิลเลียม ดยุกแห่งเคมบริดจ์ 

 

ซึ่งแฮร์รีตอบว่า หลังจากที่พระองค์ทรงถอนตัวจากการเป็นสมาชิกระดับสูงของราชวงศ์ พระบิดาทรงไม่รับโทรศัพท์ของเขาอีก ซึ่งทำให้เขาผิดหวัง เนื่องจากเจ้าชายชาร์ลส์นั้นทรงผ่านในหลายๆ เรื่องราวที่คล้ายกับพระองค์ และรู้ดีว่าความเจ็บปวดจากสิ่งที่เกิดขึ้นนั้นเป็นอย่างไร รวมถึงเรื่องของอาร์ชี ที่เป็นพระราชนัดดาของพระองค์

 

อย่างไรก็ตาม แฮร์รียืนยันว่าพระองค์ทรงรักพระบิดา และจะพยายามเยียวยาความสัมพันธ์ระหว่างกันให้ดีขึ้น แม้จะมีความเจ็บปวดมากมายเกิดขึ้น

 

ส่วนในประเด็นเจ้าชายวิลเลียมนั้น แฮร์รีรักพระองค์เช่นกัน โดยทั้งสองผ่านอะไรด้วยกันมามากมาย แต่ว่าตอนนี้อยู่คนละเส้นทางแล้ว

 

6. ยืนยันความสัมพันธ์กับควีนยังเป็นไปด้วยดี

แฮร์รีบอกว่ามีความสัมพันธ์ที่ดีต่อสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 และได้พูดคุยกับพระอัยยิกามากขึ้นในปีที่ผ่านมา ซึ่งรวมถึงการวิดีโอคอลพูดคุยกับอาร์ชีด้วย

 

โดยแฮร์รีระบุว่าพระอัยยิกาจะยังทรงเป็นผู้บังคับบัญชาของเขาเสมอ ขณะที่เมแกน ยกย่องสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 และเผยความเมตตาของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ที่ทรงมอบอัญมณีที่สวยงามให้แก่เธอและแฮร์รีในระหว่างการเข้าพิธีหมั้นครั้งแรก รวมทั้งทรงแบ่งปันผ้าห่มเพื่อให้พระองค์คลายหนาวในระหว่างที่เดินทางร่วมกัน

 

7. แฮร์รีถูกตัดการเงิน

ในช่วงไตรมาสแรกของปีที่แล้ว เจ้าชายแฮร์รีเปิดเผยว่า ราชวงศ์อังกฤษทรงตัดการเงินของเขา ซึ่งเป็นเหตุผลให้เขาและเมแกนทำข้อตกลงผลิตรายการกับ Netflix และพอดแคสต์กับ Spotify แต่เผยว่ายังมีทรัพย์สินที่เจ้าหญิงไดอานา พระมารดาทรงให้ไว้

 

หลังจากถูกตัดด้านการเงิน แฮร์รีและเมแกนเผยว่าได้รับการช่วยเหลือจาก ไทเลอร์ เพอร์รี มหาเศรษฐีและเจ้าพ่อสื่อชาวอเมริกัน ที่ให้บ้านพักและการรักษาความปลอดภัยแก่ทั้งคู่ หลังย้ายจากแคนาดามาอยู่ทางตอนใต้ของรัฐแคลิฟอร์เนีย

 

8. เมแกน ไม่ได้หาข้อมูลสมาชิกราชวงศ์มาก่อน

เมแกนตอบคำถามถึงครั้งแรกที่พบกับสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 โดยเล่าว่าเธอประหลาดใจเมื่อรู้ว่าต้องถอนสายบัวเพื่อถวายความเคารพ โดยเมแกนคิดว่านั่นเป็นสิ่งที่คนภายนอกที่ชื่นชอบราชวงศ์ทำกัน แต่ไม่คิดว่าจะต้องทำในหมู่สมาชิกราชวงศ์ด้วย ซึ่งเธอต้องรีบฝึกถอนสายบัวโดยเร็วก่อนที่จะร่วมเสวยพระกระยาหารกลางวันกับสมเด็จพระราชินี 

 

ขณะที่เมแกนบอกว่าเธอไม่เคยหาข้อมูลสมาชิกราชวงศ์อังกฤษมาก่อน และยืนยันว่าไม่เคยหาข้อมูลของสามีทางอินเทอร์เน็ตเลยในช่วงที่เริ่มคบหากัน

 

9. ทั้งสองสมรสจริงก่อนพิธีเสกสมรส 3 วัน

ประชาชนทั่วโลกหลายล้านคน ได้รับชมพิธีเสกสมรสของเจ้าชายแฮร์รีและเมแกน มาร์เคิล ที่จัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ ณ พระราชวังวินด์เซอร์ในปี 2018 แต่ทั้งสองเปิดเผยว่า จริงๆ แล้วได้มีการเข้าพิธีสมรสแบบเรียบง่ายก่อนหน้านั้น 3 วัน โดยอาร์คบิชอปแห่งอาสนวิหารแคนเทอร์เบอรีเป็นผู้ทำพิธี

 

10. กำลังตั้งครรภ์บุตรสาว

ทั้งสองเปิดเผยต่อโอปราห์เรื่องทายาทในครรภ์คนใหม่ ซึ่งยืนยันเพศว่าเป็นผู้หญิง และคาดว่าจะให้กำเนิดในช่วงฤดูร้อนนี้

 

ขณะที่โอปราห์จบการสัมภาษณ์ด้วยคำถามว่า เมแกนมีตอนจบที่สวยงาม และมีความสุขกับแฮร์รีใช่หรือไม่ ซึ่งเมแกนตอบว่า “มันยิ่งใหญ่กว่าเทพนิยายใดๆ ที่คุณเคยอ่านเลยล่ะ”

 

 

ภาพ: Getty Images

พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising