×

มูลนิธิสื่อเพื่อสุขภาวะ จัดประชุม ‘เอาชนะแนวรบออนไลน์ ศึกใหญ่ บุหรี่-เหล้า-พนัน’ เรียกร้องดีอีเอสเร่งจัดการธุรกิจสีเทาอย่างจริงจัง

โดย THE STANDARD TEAM
13.06.2022
  • LOADING...
ธุรกิจสีเทา

วันนี้ (13 มิถุนายน) มูลนิธิสื่อเพื่อสุขภาวะ (มสส.) ร่วมกับสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) จัดประชุมโฟกัสกรุ๊ป ‘เอาชนะแนวรบออนไลน์ ศึกใหญ่ บุหรี่-เหล้า-พนัน’ ณ โรงแรมแกรนด์ ฟอร์จูน กรุงเทพฯ รัชดา โดยมี วิเชษฐ์ พิชัยรัตน์ สื่อมวลชนอาวุโส เป็นผู้ดำเนินรายการ 

 

โดย ศรีสุวรรณ ควรขจร กรรมการกองทุน สสส. กล่าวเปิดการประชุมว่า การเปลี่ยนแปลงภูมิทัศน์สื่อในรอบหลายปีที่ผ่านมา ทำให้สื่อออนไลน์ได้เข้ามามีบทบาทต่อการรับรู้และเปลี่ยนแปลงค่านิยม รวมถึงพฤติกรรมของประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มเด็กและเยาวชน เกิดการรุกด้านการตลาดออนไลน์ของธุรกิจบุหรี่ แอลกอฮอล์ และการพนันอย่างขนานใหญ่ในตอนนี้ สิ่งเหล่านี้จึงเป็นสิ่งที่ทุกฝ่ายควรช่วยกันดูแลปกป้องลูกหลาน โดยเฉพาะฝ่ายที่มีหน้าที่ควบคุมเรื่องนี้อย่างกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ซึ่งเท่าที่ได้หารือกันพบข้อจำกัดในแง่กฎหมาย และจากข้อมูลเฝ้าระวังพบว่าการตลาดออนไลน์ของธุรกิจบุหรี่ แอลกอฮอล์ และการพนันมีการตัดตอนอย่างแยบยล เช่น ที่อยู่ของแพลตฟอร์มก็ไม่มีอยู่จริง ชื่อก็เป็นชื่อปลอม การดำเนินคดีต่างๆ ก็จะลำบาก 

 

ดังนั้นจึงอยากเสนอให้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ได้เข้ามามีบทบาทอย่างจริงจังในเรื่องนี้ เพราะตาม พ.ร.บ.การพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ในมาตรา 13 กำหนดให้มีคณะกรรมการเฉพาะด้าน ด้านโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล ซึ่งมีผู้แทนของ กสทช. อยู่ด้วย และคณะกรรมการเฉพาะด้าน ด้านการส่งเสริมและพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม มีผู้แทนของกระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์อยู่ด้วย โดยสามารถหยิบยกเรื่องนี้มาหารือและกำหนดมาตรการแก้ไขปัญหาดังกล่าวได้ หรือไม่อย่างนั้นก็ควรเพิ่มอำนาจให้กับกรมควบคุมโรคให้มากกว่านี้ ในขณะที่สื่อมวลชนก็สามารถช่วยผลักดันเรื่องนี้ และนำเสนอข่าวให้รู้เท่าทันกลยุทธ์การตลาดของธุรกิจเหล่านี้ได้มากขึ้น

 

ขณะที่ ผศ.ดร.ศรีรัช ลาภใหญ่ นักวิชาการอิสระ หน่วยวิชาการบ่มเพาะ เครือข่ายนักจัดการปัจจัยเสี่ยง เปิดเผยผลการศึกษาเรื่องการตลาดออนไลน์ของธุรกิจแอลกอฮอล์ พบว่า เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ปรุงรสหวานต่างๆ กำลังเป็นที่นิยมของผู้หญิง วัยรุ่น และกลุ่มอายุน้อย เนื่องด้วยรสชาติ บรรจุภัณฑ์ ที่แตกต่างจากเบียร์หรือสุรา ทำให้ภาพลักษณ์ออกมาเป็นเครื่องดื่มสำหรับผู้หญิง หรือ ‘เหล้าเด็ก’ แต่มีแอลกอฮอล์ 5-9% ราคาไม่แพง และเติบโตด้วยอิทธิพลซีรีส์เกาหลี การรีวิวด้วยนาโนและไมโครอินฟลูเอ็นเซอร์ที่เป็นผู้หญิง 

 

ในขณะที่การสื่อสารการตลาดของบุหรี่ไฟฟ้าและการสูบในกลุ่มเยาวชนและวัยทำงานตอนต้น ผลการศึกษาพบว่า มายาคติเป็นส่วนหนึ่งที่ส่งผลให้วัยรุ่นเลือกสูบบุหรี่ไฟฟ้าและผลิตภัณฑ์ยาสูบแปลงร่างอื่นๆ โดยมายาคติดังกล่าวมีอยู่ด้วยกัน 8 ข้อ ดังนี้  

  1. ไม่รู้ข้อมูลสุขภาพ สถาบันการศึกษายังไม่ได้สอน 
  2. ความรู้ถูกบิดเบือน 
  3. คิดว่าไม่อันตราย 
  4. กลิ่น-รส ทำให้เชื่อว่าไม่อันตราย 
  5. รูปลักษณ์ผลิตภัณฑ์ที่แตกต่างจากบุหรี่มวน 
  6. เชื่อเพื่อน รุ่นพี่เอามาขายให้ในโรงเรียน 
  7. ความแปลกใหม่ 
  8. เห็นโฆษณาและการส่งเสริมการขายในออนไลน์  

 

ส่วนการตลาดธุรกิจการพนันออนไลน์นั้นใช้กลยุทธ์ ลวงให้โลภ หลอกให้ลาภ พบว่ามีหลายเทคนิค ตั้งแต่สอนสูตรเล่น, เสนอโบนัสเมื่อเล่น สะสมแต้ม ยิ่งเล่นยิ่งสะสมโบนัสหรือแต้ม, เสนอการทดลองเล่นฟรี โดยผู้เล่นไม่ต้องจ่ายเงิน แต่ถ้าเล่นได้จะได้รับเงินจริงทันที, เล่นเสีย คืนเงิน มีการรับประกันการเล่นเสียในรูปแบบข้อเสนอทางการเงินเมื่อเล่นเสีย, สายมู สอนให้บูชาวิธีต่างๆ เพื่อเอาชนะ ขายของขลังหรือเสนอพิธีกรรมให้ผู้เล่นเพื่อความโชคดี แก้มือ หรือเอาชนะ, มีกฎหมายรองรับ โฆษณาว่าเป็นการพนันถูกกฎหมาย ต่างชาติยอมรับ, มีแจ็กพอต เป็นข้อเสนอพิเศษรายวัน รายสัปดาห์ และรายเดือน 

 

นอกจากนี้ยังพบว่าธุรกิจการพนันใช้วาทกรรมภาษา จากคำว่า ‘เล่น’ เป็น ‘ลงทุน’ เปลี่ยนจากคำว่า ‘เล่น’ เป็น ‘เกม’ หรือสันทนาการ หรือกีฬาออนไลน์ เพื่อให้ดูไม่อันตราย และทำให้ผู้เล่นไม่รู้สึกผิดในใจ รวมทั้งมี CSR แนวใหม่คือ ‘การเล่น (พนัน) อย่างรับผิดชอบหรือมีสติ’

 

ด้าน ผศ.ดร.ลักขณา เติมศิริกุลชัย ผู้อำนวยการศูนย์พัฒนาศักยภาพกำลังคนด้านการควบคุมยาสูบ กล่าวว่า ทุกคนจะต้องรู้เท่าทันธุรกิจบุหรี่ที่มีการใช้หลายกลยุทธ์ ทั้งการแทรกแซงนโยบายและผู้บริหารระดับสูง, แทรกแซงกระบวนการทางกฎหมาย, โฆษณาชวนเชื่อให้ข้อมูลไม่ถูกต้อง, การสนับสนุนองค์กรหน้าฉากเคลื่อนไหวในนามภาคประชาชน และการสนับสนุนทุนอุปถัมภ์อย่างต่อเนื่อง ที่จริงประเทศไทยมีกฎหมายที่ควบคุมบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้าดีมาก แต่เรามีปัญหาเรื่องการบังคับใช้กฎหมาย 

 

ส่วนเรื่องสื่อนั้น จากการเก็บข้อมูลการเสนอข่าวของสื่อหนังสือพิมพ์ช่วงเดือนมีนาคม-เมษายน 2565 พบว่ามีการเสนอข่าวบุหรี่ไฟฟ้าถึง 161 ข่าว ยังดีที่หนังสือพิมพ์เสนอข่าวห้ามสูบบุหรี่ไฟฟ้ามากกว่าข่าวสนับสนุนบุหรี่ไฟฟ้าอยู่ 10 ฉบับ และยังพบว่ารัฐมนตรีที่ออกมาให้ข่าวบุหรี่ไฟฟ้ามากที่สุดคือ ชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ซึ่งการตลาดธุรกิจบุหรี่ออนไลน์เป็นเรื่องใหม่สำหรับภาคีภาคประชาสังคมบุหรี่ ดังนั้นศูนย์วิจัยด้านยาสูบ เครือข่ายสื่อมวลชน เครือข่ายนวัตกรรม และเครือข่ายเยาวชน ต้องจับมือกันเฝ้าระวังและตอบโต้ ขณะที่ภาครัฐต้องบังคับใช้กฎหมายจริงจังกว่านี้ อยากให้มูลนิธิสื่อเพื่อสุขภาวะสร้างเครือข่ายสื่อสุขภาวะ เพื่อผลิตสื่อน้ำดี และหนุนเสริมสื่อใหม่ๆ ให้มากขึ้น

 

ภก.สงกรานต์ ภาคโชคดี ผู้อำนวยการสำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า (สคล.) กล่าวว่า เราได้เห็นการให้ข้อมูลผิดๆ ผ่านสื่อสังคมออนไลน์ว่า น้ำเมาดีต่อสุขภาพ โดยอ้างงานวิจัยที่ล้าสมัย หรืองานวิจัยที่สนับสนุนโดยธุรกิจน้ำเมา แต่หลายกรณีเกิดจากการจงใจเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นเท็จ และแม้จะเป็นเรื่องยากในการต่อสู้กับธุรกิจน้ำเมาที่มีทุนมหาศาล ที่สามารถจ้างอินฟลูเอ็นเซอร์ และใช้ทุนในการกระจายข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว แต่เราก็ต้องสู้แม้ต้นทุนทุกด้านน้อยกว่า เราต้องมีกฎหมาย มีนโยบายสาธารณะ ที่คุมการโฆษณาแอลกอฮอล์ทั้งออนไลน์และออฟไลน์ ที่ผ่านมาประเทศไทยยังห้ามการโฆษณาสิ้นเชิงกับบุหรี่ได้ ทำไมน้ำเมาซึ่งสร้างปัญหาหลายมิติกว่าจะทำไม่ได้ 

 

นอกกจากนี้ควรจะมีงานวิจัยที่ทำให้เรามีความเข้าใจกลุ่มเป้าหมายในการสื่อสารอย่างจริงจัง โดยเฉพาะเด็กและเยาวชน ที่มีความคิดเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว เพราะถ้าเราไม่เข้าใจเขาอย่างจริงจังคงเข้าถึงยาก ส่วนสื่อมวลชนสามารถมีบทบาทในการให้ข้อมูลกับสังคม โดยเฉพาะผู้หญิง ได้รับรู้ว่าการดื่มแอลกอฮอล์วันละ 1 แก้ว มีงานวิจัยชัดเจนว่าจะทำให้เกิดมะเร็งเต้านมได้ ส่วนเรื่องกฎหมายสุราก้าวหน้าแก้ปัญหาการผูกขาดนั้น ต้องคิดด้วยว่าเราจะปกป้องเด็กและเยาวชนเราได้อย่างไรด้วย

 

ด้าน รศ.ดร.นวลน้อย ตรีรัตน์ ผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาปัญหาการพนัน จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ระบุว่า 10 ปีที่ผ่านมา การพนันออนไลน์เติบโตอย่างก้าวกระโดด ทั้งการเพิ่มช่องทางการเล่นพนัน เช่น การพนันฟุตบอล การแทงหวย หรือการซื้อสลากกินแบ่ง และการพนันที่อยู่ในออนไลน์โดยตรงหรือคาสิโนออนไลน์ ซึ่งข้อมูลในปี 2564 พบว่าการพนันออนไลน์มีวงเงินการเล่นพนันใกล้เคียงกับบ่อนที่มีสถานที่ คือ 1 แสนล้านบาท คาสิโนออนไลน์มีทั้งการเล่นเสมือนจริงแบบไลฟ์จากคาสิโน และมีตัวแทนเล่น กับการเล่นผ่านโปรแกรมคอมพิวเตอร์ เช่น เกม Slot Machine โดย 90% ของผู้เล่นระบุว่าเล่นพนันออนไลน์สะดวก เล่นได้ทุกที่ทุกเวลา โดยร้อยละ 99 พบว่าเล่นผ่านมือถือ มีการใช้ผู้มีอิทธิพลในสื่อสังคมออนไลน์มาเป็นพรีเซ็นเตอร์ รวมถึงยังใช้ข้อมูลพฤติกรรมของผู้อยู่ในสื่อสังคมออนไลน์เป็นช่องทางในการเข้าหา และการสร้างโปรโมชันรูปแบบต่างๆ 

 

ทั้งนี้ การควบคุมการพนันออนไลน์นั้นทำได้ค่อนข้างยาก เพราะส่วนมากเล่นผ่านมือถือและเว็บไซต์ทั้งในและต่างประเทศ การปราบปรามทำได้แค่ตามบล็อกเว็บไซต์ พอถูกบล็อกก็ไปเปิดเว็บไซต์ใหม่ ถ้าเป็นเว็บไซต์จดทะเบียนในต่างประเทศก็จะยิ่งตามได้ยาก รัฐจึงต้องบล็อกไม่ให้เด็กและเยาวชนเข้าถึงพนันออนไลน์ได้

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising