×

อัปเดตนวัตกรรมความงามจาก ‘MEDYCELES 360 : VOLUME 2’ งานประชุมวิชาการในหัวข้อ ‘POWERING THE FUTURE CHALLENGES OF AESTHETICS MEDICINE’ [ADVERTORIAL]

โดย THE STANDARD TEAM
06.09.2024
  • LOADING...

HIGHLIGHTS

  • บริษัท Medyceles (เมดิเซเลส) และ Celeste (เซเลส) ในฐานะบริษัทชั้นนำที่ทำธุรกิจด้านผลิตภัณฑ์ยา เครื่องมือแพทย์ และเวชสำอาง ครบวงจรสำหรับธุรกิจคลินิกความงามมากว่า 10 ปี จัดงานประชุมวิชาการ ‘MEDYCELES 360 : VOLUME 2’ ภายใต้ห้วข้อ ‘POWERING THE FUTURE CHALLENGES OF AESTHETICS MEDICINE’
  • ไฮไลต์สำคัญของงานครั้งนี้คือการอัปเดตองค์ความรู้ เทคนิค และเทรนด์ความงาม จากผู้เชี่ยวชาญด้านความงามจากประเทศเกาหลีใต้และประเทศไทยมากถึง 18 คน
  • เปิดตัวพรีเซนเตอร์ แต้ว-ณฐพร เตมีรักษ์ และ นนกุล-ชานน สันตินธรกุล พร้อมแคมเปญใหม่ ‘เปิดบริสุทธิ์หน้า’ ดันยอดขายแตะ 1 พันล้านบาทภายในปี 2024

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าตลาดความงามในไทย โดยเฉพาะ ‘กลุ่มคลินิกความงามและศัลยกรรม’ มีแนวโน้มเติบโตขึ้นเรื่อยๆ สวนทางกับตัวเลขเศรษฐกิจและกำลังซื้อในครัวเรือนที่ลดลง

 

ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB EIC) ระบุว่า ไทยเป็น 1 ใน 4 ฮับเวชศาสตร์ความงามที่สำคัญของเอเชีย รองจากเกาหลีใต้ ญี่ปุ่น และจีน

 

 

ปัจจัยขับเคลื่อนให้การใช้บริการเวชศาสตร์ความงามในไทยเติบโต นอกเหนือจากการให้ความสำคัญกับภาพลักษณ์บนโซเชียลมีเดีย การก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุก็ส่งผลให้เกิดเทรนด์ดูแลความงามและเวชศาสตร์ชะลอวัย ขณะเดียวกันค่าบริการในไทยที่เข้าถึงง่าย และการส่งเสริมจากภาครัฐสู่การเป็นศูนย์กลางทางการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ของไทย ยิ่งกระตุ้นให้เกิดการแข่งขันในตลาดสูงขึ้น ผู้เล่นใหม่อยากเข้า ผู้เล่นเก่าก็ไม่หยุดพัฒนา ก่อให้เกิดการแข่งขันด้านผลิตภัณฑ์และนวัตกรรมความงาม ผลประโยชน์ไปตกอยู่ที่ผู้บริโภคได้ใช้ของดีในราคาที่ย่อมเยาและจับต้องได้

 

นอกจากสงครามราคาและการแข่งขันด้านนวัตกรรม ความปลอดภัยและเทคนิคความรู้ของแพทย์ผู้ให้บริการก็เป็นสิ่งที่ผู้ประกอบการธุรกิจความงามและแพทย์ต้องให้ความสำคัญไม่แพ้กัน เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าที่มาใช้บริการ

 

 

บริษัท Medyceles (เมดิเซเลส) และ Celeste (เซเลส) ในฐานะบริษัทชั้นนำที่ทำธุรกิจด้านผลิตภัณฑ์ยา เครื่องมือแพทย์ และเวชสำอาง ครบวงจรสำหรับธุรกิจคลินิกความงามมากว่า 10 ปี เพื่อสานต่อความตั้งใจในการอัปเดตข้อมูลความรู้และนวัตกรรมความงาม จึงจัดงาน ‘MEDYCELES 360’ เป็นปีที่ 2 หลังประสบความสำเร็จจากการจัดงานเมื่อปีที่ผ่าน ภายใต้หัวข้อ ‘POWERING THE FUTURE CHALLENGES OF AESTHETICS MEDICINE’ ให้ยิ่งใหญ่กว่าเดิม อัดแน่นด้วยกิจกรรมหลากหลาย ทั้งงานประชุมวิชาการทางการแพทย์ Hands-On Training และ Cadaveric Training บรรยายโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญมากประสบการณ์ระดับโลก ตลอด 3 วันเต็ม เมื่อวันที่ 22-24 สิงหาคมที่ผ่านมา โดยมีโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง กรุงเทพฯ ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนให้เกิดกิจกรรมและทำให้งานสำเร็จลุล่วงด้วยดี ได้รับความสนใจจากแพทย์เฉพาะทางด้านความงามและเจ้าของธุรกิจลงทะเบียนมาร่วมงานมากกว่า 1,000 คน

 

วิภารัตน์ วูวงศ์ ผู้บริหารสูงสุดของ Medyceles

 

วิภารัตน์ วูวงศ์ ผู้บริหารสูงสุดของ Medyceles เผยว่า “เมดิเซเลสมุ่งมั่นที่จะเป็นผู้นำด้านผลิตภัณฑ์เพื่อความงาม วัตถุประสงค์ของการจัดงานครั้งนี้เพื่ออัปเดตความรู้เกี่ยวกับนวัตกรรมใหม่ๆ ประจำปี พร้อมทั้งสร้างความเข้าใจในการใช้ผลิตภัณฑ์อย่างถูกต้องทั้งภาคทฤษฎีและปฏิบัติ ให้กับลูกค้าบริษัทเมดิเซเลสและเซเลส เพื่อต่อยอดให้แพทย์และคนไข้ได้ใช้สินค้าและบริการความงามที่ปลอดภัยและดีที่สุด”

 

เมดิเซเลสยังตั้งเป้าที่จะเป็นผู้นำเข้ายาและผลิตภัณฑ์ที่ใช้สำหรับคลินิกเสริมความงามอันดับ 1 ในประเทศไทย โดยเน้นไปที่กลุ่มสินค้า ได้แก่ Botulinum Toxin (Neuronox), Hyaluronic Acid Dermal Filler (Neuramis) และ Non-Cross Link Hyaluronic Acid : Skin Booster (Neuraderm)

 

“เราให้ความสำคัญกับการคัดสรรผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ ได้มาตรฐาน และมีงานวิจัยรองรับ เพื่อให้ทุกผลิตภัณฑ์ที่ผู้บริโภคใช้มีประโยชน์และคุ้มค่ามากที่สุด ขาดไม่ได้เลยคือการซัพพอร์ตลูกค้าแบบครบวงจร ตั้งแต่บริการหลังการขาย การอัปเดตความรู้อย่างต่อเนื่องผ่านกิจกรรมการตลาดทั้งปี” วิภารัตน์กล่าว พร้อมเผยกลยุทธ์ในการก้าวสู่การเป็นผู้นำศาสตร์แห่งความงาม

 

“นโยบายของเราคือลูกค้าทุกกลุ่มต้องสวยอย่างมีคุณภาพด้วยราคาที่จับต้องได้ ซึ่งกลุ่มเป้าหมายหลักคือกลุ่มวัยทำงาน วัยรุ่น คนรุ่นใหม่ที่ใส่ใจดูแลตัวเองและศึกษาหาข้อมูลสินค้าก่อนเลือกใช้ เครื่องมือการตลาดจึงต้องครอบคลุมทั้งออนไลน์และออฟไลน์”

 

วิภารัตน์อธิบายเพิ่มเติมถึงกลยุทธ์การตลาดจะแบ่งออกเป็น 3 แกน ได้แก่ การตลาดที่เน้นผู้บริโภคหรือคนไข้ ทำการตลาดเพื่อตอกย้ำภาพลักษณ์แบรนด์ที่เข้าถึงทุกเพศทุกวัย ไม่ว่าจะเป็นการดึง ซนเยจิน นักแสดงเกาหลีชื่อดังมาเป็น Global Brand Ambassador ตั้งแต่ปี 2021-2023 ให้กับ Neuramis

 

แต้ว-ณฐพร เตมีรักษ์ และ นนกุล-ชานน สันตินธรกุล

 

สำหรับประเทศไทย แบรนด์เลือกใช้ แต้ว-ณฐพร เตมีรักษ์ และ นนกุล-ชานน สันตินธรกุล สำหรับแคมเปญ ‘เปิดบริสุทธิ์หน้า’ ตอบโจทย์การดูแลตัวเองของคนรุ่นใหม่ โดยเปิดตัวอย่างเป็นทางการภายในงาน ‘MEDYCELES 360 : VOLUME 2’ 

วิภารัตน์เผยว่า “ที่เลือก แต้ว ณฐพร เพราะสะท้อนความเป็นผู้หญิงเก่งวัยทำงานที่ดูแลตัวเองอย่างดี ในขณะที่ นนกุล ชานน ก็เป็นเด็กรุ่นใหม่ที่เก่งรอบด้าน ไม่ว่าจะความสามารถหรือทัศนคติที่ดีในการดูแลตัวเอง ส่งผลให้แคมเปญได้รับผลตอบรับที่ดีจากกลุ่มลูกค้าอย่างมาก เชื่อว่าจะดันยอดขายแตะ 1 พันล้านบาทภายในปี 2024”

 

กลยุทธ์การตลาดอีก 2 แกน คือการตลาดเจาะกลุ่มแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้วยการอัปเดตความรู้ด้านวิชาการและการแพทย์ เช่น การเชิญวิทยากรจากเกาหลีใต้มาอบรมเทคนิคทางการแพทย์หรือการอบรมวิชาการผ่านออนไลน์ ไปจนถึงการจัดงานวิชาการ ‘MEDYCELES 360’ เพื่อเสริมความรู้เชิงทฤษฎีและปฏิบัติ และการตลาดที่เน้นผู้ประกอบการในธุรกิจความงาม โดยให้ความสำคัญกับบริการหลังการขาย การส่งเสริมเครื่องมือทางการตลาดเพื่อช่วยให้ธุรกิจเติบโตไปพร้อมกัน ไม่ว่าจะเป็นการจัดสัมมนาอบรมให้ความรู้ทางการตลาด การจัดทริปต่างประเทศเพื่ออัปเดตความรู้และนวัตกรรมใหม่ๆ

 

อัปเดตนวัตกรรมความงามแบบครบวงจร

 

ไฮไลต์สำคัญของงานครั้งนี้คือการอัปเดตองค์ความรู้ เทคนิค และเทรนด์ความงาม จากผู้เชี่ยวชาญด้านความงามมากถึง 18 คน ไม่ว่าจะเป็นแพทย์จากเกาหลีใต้

 

 

  • Prof. Hee Jin Kim, D.D.S., Ph.D. College of Dentistry, Yonsei University, Seoul Korea บรรยายในหัวข้อ ‘ULTRASOUND IMAGING OF THE FACIAL MUSCLE AND VASCULAR STRUCTURE RELEVANT TO BOTULINUM TOXIN AND HA DERMAL FILLER INJECTIONS’
  • Prof. Yang Won Lee, Konkuk University, Seoul Korea บรรยายในหัวข้อ ‘INTRODUCTION TO NEXT-GENERATION OF NEUROTOXIN TYPE A : WHAT’S THE DIFFERENCE’
  • Hong Ki Lee, M.D., Ph.D. Image Plastic Surgery, Seoul Korea บรรยายในหัวข้อ ‘PRECISION IN AESTHETIC AND THERAPEUTIC EXCELLENCE OF NEURONOX (BOTULINUM TOXIN TYPE A)’ และ ‘SYNERGISTIC 3D HA DERMAL FILLER STRATEGIES AND TECHNIQUES FOR NATURAL FACIAL CONTOURS’

 

ด้านแพทย์ความงามของไทยที่มาร่วมแบ่งปันความรู้ดีๆ ภายในงาน อาทิ

  • ศ. นพ.วาสนภ วชิรมน แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคผิวหนัง และอาจารย์ประจำหน่วยโรคผิวหนัง ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล บรรยายในหัวข้อ ‘THE EFFECT OF THREAD AND SKIN REJUVENATION WITH N-SCAFFOLD’
  • ผศ. พญ.มาริษา พงศ์พฤฒิพันธ์ หัวหน้าหน่วยผิวหนัง (สาขาตจวิทยา) ฝ่ายอายุรศาสตร์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย บรรยายในหัวข้อ ‘CLINICAL INSIGHTS AND OUTCOMES IN NASOLABIAL FOLD AND TEAR TROUGH AUGMENTATION USING HA DERMAL FILLERS’
  • ผศ. นพ.ศุภะรุจ เลื่องอรุณ วิทยาลัยแพทยศาสตร์นานาชาติจุฬาภรณ์ บรรยายในหัวข้อ ‘THE USE OF BOTULINUM TOXIN IN SCAR MANAGEMENT : EFFICACY AND TREATMENT GUIDELINE’

 

และหัวข้อไฮไลต์ที่มีผู้เข้าร่วมฟังเป็นจำนวนมาก ได้แก่ หัวข้อ ‘BOTULINUM TOXIN IN NON-SURGICAL BODY CONTOURING : TECHNIQUES, APPLICATIONS, AND CLINICAL OUTCOMES’ โดย อ.ไพศาล รัมณีย์ธร ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง กรุงเทพฯ

 

อ.ไพศาล รัมณีย์ธร ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง กรุงเทพฯ

 

อ.ไพศาล เผยว่า ปัจจุบันการฉีด Botulinum Toxin ไม่เพียงแค่ฉีดบริเวณหน้า แต่ยังสามารถฉีดได้ทั่วร่างกาย พร้อมกันนี้ท่านยังนำประสบการณ์จากเคสมากมายมาแชร์เทคนิคการฉีดที่ปลอดภัยและให้ผลลัพธ์ที่ดีกับคนไข้เพื่อช่วยแก้ปัญหาต่างๆ ของร่างกาย

 

ด้าน นพ.ชลธวัช สุวรรณปิยะศิริ หัวหน้าศูนย์ผิวหนังและผิวพรรณ โรงพยาบาล MedPark ก็มาเน้นย้ำถึงประสิทธิภาพของ Botulinum Toxin ภายในหัวข้อ ‘DEFINING SKIN QUALITY BY MULTIPLE TOXIN INTRADERMAL INJECTION : SKIN LAXITY, SEBUM CONTROL, AND SWEAT CONTROL’

 

นพ.ชลธวัช สุวรรณปิยะศิริ หัวหน้าศูนย์ผิวหนังและผิวพรรณ โรงพยาบาล MedPark

 

นพ.ชลธวัช เน้นย้ำว่าการฉีด Botulinum Toxin ไม่เพียงแต่ช่วยลดริ้วรอยอย่างที่เราคุ้นเคย นอกจากเทรนด์ความงามที่กำลังได้รับความนิยมในเมืองไทยอย่างการแก้ปัญหาผิวหน้า ไม่ว่าจะเป็นลดขนาดรูขุมขน ลดความมันบนใบหน้า ยังช่วยลดการเกิดเหงื่อและกลิ่นตัวบริเวณรักแร้ ฝ่ามือ และฝ่าเท้า เพื่อช่วยให้ผู้ที่มีปัญหาดังกล่าวสามารถใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างมั่นใจมากขึ้น

 

นอกจากความรู้ด้านการแพทย์ ประเด็นสำคัญที่น่าสนใจคือมุมมองด้านเวชศาสตร์ความงามในอนาคตของประเทศไทย จากแพทย์ที่เข้าร่วมงานที่มองไปในทิศทางเดียวกันว่า แพทย์ต้องอัปเดตความรู้ด้านนวัตกรรมและผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ อยู่เสมอ เพราะความงามจะเป็นเรื่องเฉพาะบุคคล หากแพทย์มีความเชี่ยวชาญในการดูแลรักษา ชูจุดเด่นและกลบจุดด้อยของคนไข้ได้ จะทำให้คนไข้ยิ่งสวยและมั่นใจในแบบของตนเอง ที่สำคัญการเลือกใช้นวัตกรรมและผลิตภัณฑ์ที่มีงานวิจัยรองรับจะเพิ่มความเชื่อมั่นและความปลอดภัยในระยะยาว

 

 

ในส่วนของนวัตกรรมและผลิตภัณฑ์ที่ถูกพูดถึงอย่างมาก บางนวัตกรรมคาดการณ์ว่าจะมาพลิกโฉมตลาดความงาม อาทิ ‘Non-Animal Based Botulinum Toxin’ ยากลุ่ม Botulinum Toxin แบรนด์แรกของโลกที่ปราศจากโปรตีนจากสัตว์และมีความบริสุทธิ์สูงที่สุด ซึ่งทางแบรนด์เองก็มีแผนจะเปิดตัวผลิตภัณฑ์กลุ่มนี้สู่ตลาดในปี 2026

 

หรือนวัตกรรมสุดล้ำของ ‘Exosome’ ที่ผสานนวัตกรรมของ Human และ Plant Exosome ไว้ด้วยกัน โดยใช้เทคโนโลยีพิเศษ ‘Exotraction’ มาช่วยฟื้นฟู ซ่อมแซมผิวได้อย่างล้ำลึกถึงระดับเซลล์

 

และ ‘Master Orga Sunblock’ ผลิตภัณฑ์กันแดดที่มีส่วนผสมของ Exosome และ Postbiotics นวัตกรรมใหม่ที่เป็นทั้งกันแดดและบำรุงลึกถึงระดับเซลล์ผิว ถือว่าล้ำสุดๆ ในวงการกันแดด

 

นอกจากนี้เทรนด์ด้านการฟื้นฟู (Skin Rejuvenation) อย่างการร้อยไหมบริเวณใต้ตาหรือร่องคอ เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน และการใช้สารเติมเต็ม ‘HA Dermal Filler’ มาช่วยยกกระชับ ปรับรูปหน้าได้อย่างปลอดภัย ก็ยังคงได้รับความนิยมอยู่ในตลาดความงามเมืองไทย

 

 

ภายในงานมีการจัดบูธแสดงสินค้าของเมดิเซเลสและเซเลส เปิดโอกาสผู้เข้าร่วมงานได้เข้าถึงข้อมูลผลิตภัณฑ์ พร้อมโปรโมชันสุดพิเศษ

 

 

นอกจากนี้ความรู้ด้านนวัตกรรมความงามและผลิตภัณฑ์ที่อัดแน่น กิจกรรมความสนุกจากเกมต่างๆ ปีนี้ยังเปิดเวทีบรรยายสุดพิเศษจาก เคน-นครินทร์ วนกิจไพบูลย์ กรรมการผู้จัดการ และบรรณาธิการบริหาร THE STANDARD รวมเปิดมุมมองการทำธุรกิจให้ประสบความสำเร็จในยุคโลกาภิวัตน์

 

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising
X
Close Advertising