สถานีโทรทัศน์ CNN รายงานว่า McDonald’s เครือฟาสต์ฟู้ดยักษ์ใหญ่ของสหรัฐฯ กำลังวางแผนที่จะลดจำนวนพนักงานของบริษัทบางส่วนลง โดยข้อความของ Chris Kempczinski ซีอีโอของ McDonald’s ที่ส่งตรงถึงพนักงานของบริษัททุกคนระบุว่า บริษัทจะประเมินบทบาทและระดับพนักงานในส่วนต่างๆ ขององค์กร ก่อนจะมีการตัดสินใจต่อไป
Kempczinski ยอมรับว่า การตัดสินใจดังกล่าวถือเป็นเรื่องที่ยากลำบาก แต่จำเป็นต้องทำเพื่อปรับให้โครงสร้างองค์กรมีความคล่องตัวมากขึ้น ควบคู่ไปกับการชะลอหรือยุติโครงการบางอย่างที่ไม่เกี่ยวข้องกับเป้าหมายหลักขององค์กร โดย Kempczinski เชื่อว่า การกระทำดังกล่าวจะทำให้ McDonald’s ก้าวไปข้างหน้าได้เร็วขึ้น
แม้ว่าในช่วงวิกฤตการระบาดของโรคโควิด ที่ผ่านมา McDonald’s จะเป็นเพียงหนึ่งในไม่กี่บริษัทที่เติบโตได้อย่างดี แถมแนวโน้มการเติบโตยังต่อเนื่องในช่วงเงินเฟ้อ เพราะเป็นทางเลือกอาหารราคาถูกของผู้บริโภค อย่างไรก็ตาม ซีอีโอของ McDonald’s กล่าวว่า ผลลัพธ์ดังกล่าวไม่อาจทำให้ McDonald’s นิ่งนอนใจได้ และเพื่อให้บริษัทสามารถเติบโตต่อไปได้อย่างต่อเนื่อง ทำให้ McDonald’s จำเป็นต้องวางแผนเพื่อจัดการกับอุปสรรคภายใน เปิดทางสู่การพัฒนานวัตกรรมให้มากขึ้น และลดงานที่ไม่สอดคล้องกับลำดับความสำคัญของบริษัทลง
Kempczinski ย้ำว่า ที่ผ่านมาบริษัททำผลงานได้ดี แต่ก็ยังสามารถทำได้ดีกว่านี้ เร็วกว่านี้ มีประสิทธิภาพมากกว่านี้ และมีนวัตกรรมมากกว่านี้ ดังนั้น เพื่อให้ทำได้มากกว่า หมายความบริษัทจำเป็นต้องมีการเลย์ออฟพนักงานบางส่วน เพราะงานบางอย่างที่มีอยู่จำเป็นต้องโยกย้าย หรือไม่มีความจำเป็นสำหรับบริษัทอีกต่อไป โดยบริษัทวางแผนที่จะสื่อสารแผนการอนาคตของบริษัทกับพนักงานภายในวันที่ 3 เมษายนนี้
Kempczinski คาดว่าการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวจะช่วยให้บริษัทประหยัดเงินได้ แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีการกำหนดจำนวนเงินที่จะเฉือน หรือจำนวนงานที่ต้องการลดแต่อย่างใด
ปัจจุบัน McDonald’s มีพนักงานในส่วนขององค์กร รวมประมาณ 200,000 คนทั่วโลก ตามรายงานประจำปีของบริษัทในปี 2021 โดยในจำนวนดังกล่าว มากกว่า 75% เป็นพนักงานนอกสหรัฐฯ ซึ่งยังไม่รวมลูกจ้างที่ทำงานในสาขาแฟรนไชส์ของ McDonald’s ทั่วโลกอีกมากกว่า 2 ล้านคน
ความเคลื่อนไหวของ McDonald’s ครั้งนี้ มีขึ้นท่ามกลางการเลย์ออฟพนักงานครั้งใหญ่ของบรรดาบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ชั้นนำทั่วสหรัฐฯ ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา
ทั้งนี้ สถานีโทรทัศน์ BBC ของอังกฤษรายงานว่า เฉพาะแค่เพียงสัปดาห์ที่ผ่านมา Amazon ประกาศปลดพนักงาน 18,000 คน หรือ 6% ของพนักงานในส่วนสำนักงาน ขณะที่บริษัทซอฟต์แวร์อย่าง Salesforce กล่าวว่า จะลดพนักงานลง 10% หรือประมาณ 8,000 คน ยังไม่รับรวมบริษัทชั้นนำอย่าง Meta เจ้าของ Facebook, WhatsApp และ Instagram, Cisco ฮาร์ดแวร์รุ่นใหญ่, Stripe บริษัทการชำระเงิน และ Goldman Sachs ที่ออกมาประกาศปลดคนงานก่อนหน้า
นักวิเคราะห์และผู้เชี่ยวชาญส่วนหนึ่ง รวมถึง Julia Pollak หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์จาก ZipRecruiter กล่าวว่า สถานการณ์ที่เกิดขึ้นไม่น่ากังวลแต่อย่างใด เพราะเมื่อพิจารณาต้นตอของการเลย์ออฟส่วนใหญ่มาจากความต้องการปรับโครงสร้างของบริษัท เพื่อเตรียมพร้อมกับแผนการเติบโตในอนาคต ท่ามกลางการชะลอตัวทางเศรษฐกิจ
ขณะที่ Joe Brusuelas หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของ RSM ที่ปรึกษา เสริมว่า ความเคลื่อนไหวของบริษัทในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีเป็นสิ่งที่ควรจะเกิดขึ้น หลังจากการเติบโตอย่างบ้าคลั่งในช่วงวิกฤตโควิดระบาด โดย Brusuelas ย้ำว่า การปรับลดพนักงานของบริษัทเทคโนโลยี แสดงถึงการปรับตัวที่ ‘จำเป็น’ บริษัทและบุคคลควรเตรียมพร้อมที่จะรีเซ็ตความคาดหวังเกี่ยวกับการเติบโต การจ้างงาน และการลงทุนในอุตสาหกรรมที่ยังคงเป็นอุตสาหกรรมที่มั่นคง ก่อนคาดว่าบริษัทเทคโนโลยีจะไม่ถูกกระทบจากการขึ้นๆ ลงๆ ของเศรษฐกิจโดยรวมอีกต่อไป ซึ่งรวมถึงภาวะเศรษฐกิจตกต่ำในยุโรปและสหราชอาณาจักรในปีนี้
ทั้งนี้ แม้จะมีประกาศเลย์ออฟพนักงานอย่างต่อเนื่อง แต่ตลาดงานในสหรัฐฯ กลับยังแสดงให้เห็นความแข็งแกร่ง เห็นได้จากจำนวนงานที่เพิ่มขึ้น 223,000 ตำแหน่งในเดือนธันวาคม แม้ว่าจะเป็นการเพิ่มขึ้นที่น้อยกว่าช่วงก่อนเกิดวิกฤตโควิดระบาด แต่ก็ยังถือได้ว่าเป็นความแข็งแกร่งตามมาตรฐาน ขณะที่อัตราการว่างงานก็ลดต่ำลง 3.5% หวนกลับสู่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- เชือดไก่ให้ลิงดู? ‘อีลอน มัสก์’ เจ้าของคนใหม่ Twitter ลงดาบไล่ออก ‘พารัก อักราวาล’ ผู้รั้งตำแหน่งซีอีโอ แต่คาดจะได้รับเงินชดเชยมากถึง 1.6 พันล้านบาท
- วิศวกรซอฟต์แวร์รายหนึ่งเขียนระบาย ถูก Facebook ‘เลิกจ้าง’ หลังย้ายจากอินเดียมาแคนาดาได้เพียง 2 วัน
- นักเศรษฐศาสตร์เตือน จะเกิด ‘การเลิกจ้างครั้งใหญ่’ ในมนุษย์เงินเดือนกลุ่มเทคโนโลยี-การเงิน-อสังหา อันเกิดจาก ‘ภาวะเศรษฐกิจถดถอย’
อ้างอิง:
- www.cnn.com/2023/01/06/business/mcdonalds-layoffs/index.html
- www.bbc.co.uk/news/business-64189106