McDonald’s รายงานผลประกอบการไตรมาสแรกของปี ยอดขายสาขาเดิมในตลาดสหรัฐฯ ลดลง 3.6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์วอลล์สตรีทคาดการณ์ไว้ และนับเป็นการปรับตัวลดลงครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่ไตรมาสที่ 2 ของปี 2020 ช่วงที่โควิดระบาด
ขณะที่ภาพรวมยอดขายของร้านสาขาเดิมทั่วโลกลดลง 1% จากปีก่อน แม้ที่ผ่านมา McDonald’s จะพยายามเปิดตัวเมนูราคาสุดคุ้มควบคู่กับการจัดโปรโมชั่นต่างๆเพื่อกระตุ้นยอดขาย แต่ก็ยังไม่ช่วยมากนัก ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงแนวโน้มผู้บริโภคที่เริ่มระมัดระวังในการจับจ่าย เพื่อรับมือกับความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ รวมถึงราคาสินค้าที่เพิ่มสูงขึ้นจากผลกระทบของสงครามการค้า
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- ชุดสุดคุ้ม 99 บาท ฮีโร่ช่วย McDonald’s ฝ่าวิกฤตเงินเฟ้อ
- McDonald’s พบวิกฤตอีโคไลอีกครั้ง! หุ้นร่วง 9.6% มูลค่าหาย 2 หมื่นล้านดอลลาร์
- ซีอีโอ McDonald’s ชี้ ต้นทุนเมนู Big Mac พุ่ง 27% แซงหน้าเงินเฟ้อ จึงปรับขึ้นราคา
แน่นอนว่ามีผลต่อความเชื่อมั่นของผู้บริโภคอ่อนตัวลงในช่วงเวลาเดียวกัน ราคาหุ้นของ McDonald’s ร่วงลง 2% ในวันพฤหัสบดีที่ 1 พฤษภาคมที่ผ่านมา แต่หากนับตั้งแต่ต้นปี 2025 จนถึงวันพุธที่ผ่านมา ราคาหุ้นยังคงเพิ่มขึ้นรวมกว่า 10% ขณะที่ดัชนี S&P 500 ลดลง 5.3% ในช่วงเวลาเดียวกัน
คริส เคมป์ซินสกี้ ซีอีโอ McDonald’s กล่าวว่า ปัจจุบันผู้บริโภคกำลังเผชิญกับความไม่แน่นอนในชีวิต ทั้งด้านเศรษฐกิจ ค่าครองชีพ และสถานการณ์โลก เรายอมรับว่า ผู้บริโภคกลุ่มรายได้ปานกลางก็เริ่มรู้สึกถึงแรงกดดันด้านการเงินแล้วเช่นกัน พร้อมย้ำว่า ท่ามกลางภาวะตลาดที่ยากลำบากเช่นนี้ แต่บริษัทเรายังมั่นใจในศักยภาพของแบรนด์และคาดว่าจะยังสามารถเพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาดได้
เอียน บอร์เดน ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน กล่าวต่อไปว่า ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในหลายประเทศ ยังคงเปราะบาง เริ่มสร้างผลกระทบให้ธุรกิจร้านอาหาร อย่างไรก็ดี บางภูมิภาค เช่น ตะวันออกกลางและญี่ปุ่น กลับมียอดขายสาขาเดิมเพิ่มขึ้น 3.5% แม้ในปีที่แล้วเคยได้รับผลกระทบจากการคว่ำบาตรแบรนด์อเมริกันอัน ซึ่งสาเหตุมาจากความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลกับฮามาสก็ตาม
ทั้งนี้แม้ยอดขายจะลดลง แต่ McDonald’s ยังดำเนินงานตามแผนเดิม โดยคาดว่างบลงทุนในปีนี้ จะอยู่ระหว่าง 3,000-3,200 ล้านดอลลาร์ และประเมินว่าอัตรากำไรจากการดำเนินงานจะไม่ต่ำกว่า 40%
สำหรับแนวโน้มการเติบโตส่วนใหญ่จะมาจากการเปิดตัวชุดอาหารธีม Minecraft เปิดขายในรูปแบบจำกัดเวลา รวมถึงการเปิดตัวเมนูใหม่อย่าง McCrispy Strips หรือไก่ทอดแบบแท่ง และการนำ Snack Wraps กลับมาจำหน่าย ซึ่งยังไม่ได้เริ่มแคมเปญโฆษณาอย่างเป็นทางการ ซึ่งได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคเป็นอย่างดี และทำให้ยอดขายในช่วงเดือนเมษายนเริ่มปรับตัวดีขึ้น
นอกจากนี้ยังเตรียมทดลองเครื่องดื่มสูตรใหม่ที่ได้แรงบันดาลใจจากร้านในเครือชื่อ CosMc’s โดยจะเริ่มให้บริการในสาขาบางแห่งในสหรัฐฯ รวมไปถึงการเดินหน้าจุดโปรโมชัน เมนูเริ่มต้นที่ 5 ดอลลาร์ หรือ 165 บาท เพื่อดึงดูดผู้บริโภคกลุ่มที่ต้องการควบคุมค่าใช้จ่าย แต่ก็ถือว่าท้าทาย เพราะที่ผ่านมาได้โปรโมชัน ซื้อ 1 แถมอีกชิ้นในราคา 1 ดอลลาร์ แต่กลับไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่คาดหวังไว้
ภาพ: SrideeStudio / Shutterstock
อ้างอิง: