วันนี้ (7 มกราคม) เควิน แมคคาร์ธี วัย 57 ปี จากพรรครีพับลิกัน ได้รับเลือกให้เป็นประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐอเมริกาคนใหม่ หลังชนะโหวตในการลงคะแนนเสียงรอบที่ 15 เมื่อช่วงเที่ยงตามเวลาประเทศไทย
ตลอดช่วง 4 วันที่ผ่านมา การเมืองของสหรัฐฯ อยู่ในสภาวะติดหล่ม เมื่อไม่มีผู้สมัครรายใดจากทั้งพรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครตได้รับคะแนนเสียงข้างมากถึง 218 คะแนนเสียงที่จะเพียงพอให้คว้าชัยในการเลือกประธานสภาล่างสหรัฐฯ จนทำให้ต้องมีการลงคะแนนเสียงมากถึง 15 ครั้ง นับเป็นการลงคะแนนเสียงเลือกประธานสภาล่างที่ยาวนานที่สุดในรอบกว่า 160 ปีของสหรัฐฯ
โดยในการลงคะแนนเสียงครั้งที่ 14 ซึ่งมีขึ้นในช่วงเช้าวันนี้ได้เกิดเหตุชุลมุนเล็กน้อย ซึ่งขณะนั้นแมคคาร์ธีเหลืออีกเพียงคะแนนเดียวก็จะสามารถขึ้นนั่งเก้าอี้ประธานสภาล่างได้สำเร็จ แต่ แมตต์ แกตซ์ ส.ส. ฟลอริดาฝ่ายขวาจัดของรีพับลิกัน ยังไม่ยอมลงคะแนนเสียงสนับสนุนแมคคาร์ธีเสียที จนในตอนนั้นแมคคาร์ธีได้ตัดสินใจเดินตรงเข้าไปพูดคุยกับแกตซ์เพื่อขอให้เขายอมลงคะแนนเสียงให้ แต่แกตซ์ก็ยังยืนยันไม่เปลี่ยนใจ จนทำให้ ไมค์ โรเจอร์ส ส.ส. อีกคนหนึ่งจากพรรครีพับลิกัน ถึงกับพุ่งตรงเข้าไปหาแกตซ์ ก่อนที่จะมีคนดึงตัวเขาเอาไว้
แม้ในที่สุดแมคคาร์ธีจะชนะโหวตในการลงคะแนนเสียงครั้งที่ 15 แต่สิ่งที่เกิดขึ้นก็ถือเป็นภาพสะท้อนหนึ่งที่ทำให้อาจคาดการณ์ได้ว่าการดำรงตำแหน่งของเขาจะเผชิญกับความยากลำบากอย่างแน่นอนหลังจากนี้
อนึ่ง สภาคองเกรสในสมัยที่ 118 ได้สร้างประวัติศาสตร์ใหม่หลายอย่าง ทั้งการมีสมาชิกที่เป็นสตรีสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 149 คน และมีสตรีผิวดำที่เป็นสมาชิกมากที่สุดถึง 58 คน รวมถึงยังมีสมาชิกที่เป็นคน Gen Z คนแรกอย่าง แมกซ์เวลล์ ฟรอสต์ ส.ส. จากพรรคเดโมแครต ซึ่งความหลากหลายนี้เป็นสิ่งที่น่าจับตาอย่างยิ่งว่าการเมืองของสหรัฐฯ ต่อจากนี้จะเป็นไปในทิศทางใด
ภาพ: Olivier Douliery / AFP
อ้างอิง:
- https://www.reuters.com/world/us/us-house-speaker-fight-enters-fourth-day-amid-antebellum-era-dysfunction-2023-01-06/
- https://edition.cnn.com/2023/01/02/politics/118th-congress-history-makers/index.html