×

มวลชนหลั่งไหลร่วมชุมนุม #15ตุลาไปราชประสงค์

15.10.2020
  • LOADING...
มวลชนหลั่งไหลร่วมชุมนุม #15ตุลาไปราชประสงค์

สืบเนื่องจากการประกาศเปลี่ยนจุดยุทธศาสตร์การชุมนุมจากบริเวณทำเนียบรัฐบาลเป็นพื้นที่ราชประสงค์ในเวลา 16.00 น. (ของวันที่ 15 ตุลาคม) จากแกนนำคณะราษฎร เมื่อเช้ามืดที่ผ่านมา คาบเกี่ยวกับกรณีที่ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในเขตท้องที่กรุงเทพมหานครนั้น

 

ล่าสุดวันนี้ (15 ตุลาคม) ตั้งแต่ช่วงประมาณเวลา 10.00 น. เป็นต้นมา เริ่มมีความเคลื่อนไหวจากเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมฝูงชนที่ทยอยเคลื่อนกำลังเข้าพื้นที่ราชประสงค์ เช่นเดียวกับกลุ่มผู้ชุมนุมที่เริ่มทยอยเดินทางมาปักหลักและรวมตัวตามที่แกนนำได้ประกาศนัดหมายเวลา 16.00 น. 

 

เมื่อถึงช่วงเวลาประมาณ 15.20 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจเริ่มตรึงกำลังบริเวณโดยรอบศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์เป็นแนวกั้น เพื่อไม่ให้ผู้ชุมนุมสัญจรผ่าน ขณะที่มวลชนคณะราษฎรเริ่มกระจายตัวลงถนนราชดำริ และดันแนวกั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ร่นถอยไปยังบริเวณถนนพระราม 1 ตรงข้ามโรงพยาบาลตำรวจ ก่อนจะยึดพื้นที่ใจกลางสี่แยกได้สำเร็จ

 

จากนั้นเวลา 16.00 น. ตามเวลานัดหมายของการชุมนุม ไมค์-ภาณุพงศ์ จาดนอก หนึ่งในแกนนำคณะราษฎร เดินทางมาถึงบริเวณแยกราชประสงค์ พร้อมเริ่มต้นปราศรัยโดยสรุปว่า การชุมนุมครั้งนี้ต้องการให้ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา ลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี พร้อมทั้งเรียกร้องให้ปล่อยตัวแกนนำที่ถูกดำเนินคดีไปก่อนหน้านี้ และประกาศกร้าวว่า ประชาชนจะไม่ยอมรับและไม่ยอมแพ้ต่ออิทธิพลอันไม่ชอบธรรมของรัฐบาล ท่ามกลางข่าวลือการรัฐประหารที่เกิดขึ้น

 

จากนั้นผู้ชุมนุมได้ผลักดันแนวกั้นตำรวจเล็กน้อยเพื่อขยายพื้นที่ชุมนุม หลังตำรวจตั้งแนวกำลังกระชับพื้นที่แยกราชประสงค์ตามจุดต่างๆ พร้อมนำรถติดเครื่องขยายเสียงอ่านประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในพื้นที่กรุงเทพฯ และขอให้ยุติการชุมนุม 

 

จากนั้นไม่นาน ทางฝั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจยอมนำรถตำรวจออกจากบริเวณพื้นที่การชุมนุมแยกราชประสงค์ ท่ามกลางมวลชนจำนวนมากที่ชูสามนิ้ว โดยกลุ่มผู้ชุมนุมช่วยกันลำเลียงรั้วเหล็กแนวกั้นของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อขยายพื้นที่การชุมนุมบริเวณฝั่งเกษรวิลเลจ 

 

บรรยากาศโดยรวมถึงเวลา 17.30 น. พบว่า มีมวลชนทยอยเดินทางมาร่วมการชุมนุมอย่างต่อเนื่อง ท่ามกลางการหมุนเวียนขึ้นปราศรัยของแกนนำบนรถเครื่องเสียงที่นำเข้ามาในพื้นที่ด้วย

 

 

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising
X
Close Advertising