×

Gen Y กับการเลือกซื้อคอนโดฯ เมื่อที่อยู่ไม่ใช่ที่ไหนก็ได้ แต่ Work-Life Balance ก็ต้องดีด้วย [Advertorial]

โดย THE STANDARD TEAM
24.07.2018
  • LOADING...

HIGHLIGHTS

4 Mins. Read
  • ลักษณะสำคัญของคนไทยเจนวายคือคล่องตัวด้านเทคโนโลยี ชอบเข้าสังคม เป็นคนมุ่งมั่นทำให้ตัวเองเลื่อนตำแหน่งได้ไว แต่ก็ชอบความสมดุลระหว่างชีวิตและการทำงาน หรือที่เรียกว่า Work-Life Balance
  • คนเจนวายมักใช้จ่ายเก่ง แต่ฉลาดซื้อ ช่างเลือก เพราะมีความรู้ทางการเงิน ชอบลงทุนในธุรกรรมการเงินที่มีความเสี่ยงสูง และชอบความสะดวกรวดเร็ว

Generation Y หรือคนที่เกิดในช่วง ค.ศ. 1981-2000 หรือ พ.ศ. 2524-2543 ปัจจุบันอายุราวๆ 18-37 ปี คือกลุ่มเป้าหมายที่นับเป็นกำลังซื้อในปัจจุบัน เพราะเป็นกลุ่มที่มีสัดส่วนมากที่สุดของโลกในตอนนี้ และหลายบทความมีการรวบรวมข้อมูลและพูดถึงพฤติกรรมของคนเจนวายไว้มากมาย พอสรุปได้คือเป็นกลุ่มที่ต้องการสิ่งที่แตกต่าง มีความเป็นตัวตนชัดเจน และมักจะเลือกสิ่งต่างๆ ที่สามารถบ่งบอกถึงรสนิยม คือมีการผสมของตรรกะและสุนทรียะอยู่ด้วยกันค่อนข้างมาก

 

ความท้าทายและความสมดุล

จากข้อมูลที่ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ เคยทำไว้ เรื่อง กลยุทธ์มัดใจผู้บริโภคเจนวาย พบว่าคนไทยที่เป็นเจนวายมีสัดส่วน 28% ของประชากรในประเทศ สูงใกล้เคียงกับเจนวายทั่วโลกที่มีสัดส่วน 30% ของประชากรโลก โดยลักษณะสำคัญของคนไทยเจนวายคือคล่องตัวด้านเทคโนโลยี ชอบเข้าสังคม นอกจากนี้ยังเป็นคนมุ่งมั่นทำให้ตัวเองเลื่อนตำแหน่งได้ไว แต่ก็ชอบความสมดุลระหว่างชีวิตและการทำงาน หรือที่เรียกว่า Work-Life Balance เป็นคนที่ใช้จ่ายเก่ง แต่ฉลาดซื้อ ช่างเลือก เพราะมีความรู้ทางการเงิน ชอบลงทุนในธุรกรรมการเงินที่มีความเสี่ยงสูง และชอบความสะดวกรวดเร็ว

 

พิถีพิถันในการเลือก

เพราะความมีตัวตนและความต้องการชัดเจน ทำให้สิ่งต่างๆ ที่เลือกต้องตอบรับกับกิจกรรมมากมาย การเลือกที่อยู่อาศัยจึงไม่ใช่ข้อยกเว้น

 

คนเจนวายจึงมีแนวคิดในการเลือกที่อยู่อาศัยของตัวเองที่ต่างไปจากคนรุ่นก่อนๆ เน้นการหาอสังหาริมทรัพย์ที่ตอบโจทย์คุณลักษณะและกิจกรรมที่ตัวเองทำ ซึ่งโดยภาพรวมแล้ว คอนโดมิเนียมคือเป้าหมายของคนกลุ่มนี้ เพราะเหตุผลหลักๆ เรื่องความสะดวกในการเดินทาง และในกรณีที่ไม่อยู่อาศัยเองก็สามารถลงทุนได้ด้วยในเวลาเดียวกัน

 

ทำเลทองของคอนโดฯ เพื่อคนเจนวาย

จากการจัดทำข้อมูลของไนท์แฟรงค์เกี่ยวกับตลาดคอนโดมิเนียมช่วงครึ่งปีหลังปีที่ผ่านมา (bit.ly/2IoUySi อัปเดตเมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2561) ระบุว่าโครงการเปิดใหม่ส่วนใหญ่ก็ยังอยู่ในโซนหลักๆ เดิม เช่น พื้นที่สุขุมวิท ตามด้วยถนนวิทยุ-ชิดลม และพระราม 4 ขณะที่พื้นที่ยอดนิยมใหม่ๆ ในการพัฒนาคอนโดมิเนียมที่เพิ่มเติมเข้ามาคือ ลาดพร้าว รัชดาภิเษก และธนบุรี  

 

หากดูจากข้อมูลดังกล่าวทำให้เราพอจะวิเคราะห์และมองภาพได้ชัดขึ้นว่าทำเลที่จะถูกเลือกเป็นที่อยู่อาศัย เป็นพื้นที่ส่วนตัว ต้องเดินทางสะดวกรวดเร็ว เพราะอยู่ใกล้รถไฟฟ้า ใกล้สิ่งอำนวยความสะดวก หรือสถานที่ทำกิจกรรมยอดฮิต จึงไม่แปลกที่ผู้ประกอบการต่างพุ่งไปพัฒนาคอนโดมิเนียมในพื้นที่เหล่านี้ แต่เมื่อกระโดดมาลุยตลาดแล้ว สิ่งที่น่าสนใจคือคอนโดฯ เหล่านี้จะสามารถเข้าถึงและตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มคนเจนวายได้จริงหรือไม่

 

ความสะดวกคือหัวใจของคนเมือง

เวลามีค่ามากกว่าทอง เพราะฉะนั้นถ้าเราลดเวลาในการเดินทางได้หรือมีความสะดวกมากขึ้น นี่จะเป็นทางเลือกที่มัดใจคนเจนวายได้แน่นอน พูดให้เห็นชัดเป็นภาพคือถ้าคอนโดฯ อยู่ใกล้รถไฟฟ้าหรือรถไฟฟ้าใต้ดิน นับเป็นสิ่งที่ตอบโจทย์แบบติ๊กถูกตั้งแต่ข้อแรกของเหตุผลในการเลือกคอนโดฯ สักห้อง หรือถ้าไม่ต้องใช้ขนส่งสาธารณะก็ควรเป็นทำเลที่ทำให้เราสามารถเลือกเดินทางไปไหนมาไหนได้สะดวก

 

 

พื้นที่ส่วนตัว

คอนโดฯ ได้รับความนิยม และการแข่งขันของตลาดก็มีมาก สิ่งที่จะสามารถเอาชนะใจได้ข้อหนึ่งคือการให้พื้นที่ส่วนตัวที่สะดวกสบายแบบคอนโดฯ แต่มีส่วนที่สามารถทำกิจกรรมหลายๆ อย่างได้เหมือนอยู่บ้าน ฟังดูอาจจะเหมือนคนเจนวายเป็นพวกเรื่องเยอะ แต่นั่นแหละ ในยุคที่อะไรๆ ก็สามารถสร้างมาเพื่อตอบโจทย์ได้ หากอสังหาฯ เจ้าไหนมองจุดนี้ได้ขาดก็ถือว่ากำชัยไปกว่าครึ่ง ยกตัวอย่าง ถ้าอยู่คอนโดฯ แต่คุณสามารถเลี้ยงหมาได้ มันจะดีแค่ไหน ต้องยอมรับว่าคนเจนวายนั้นบวกพวกคนอีกกลุ่มมาด้วยคือคนโสด การมีเพื่อนเป็นสัตว์เลี้ยงก็คือความสุขอีกทางหนึ่ง เมื่อชีวิตเหน็ดเหนื่อยจากการทำงานแล้วก็อยากมีความสุขเมื่อกลับถึงบ้าน

 

 

แม้วุ่นวายก็อยากใกล้ชิดธรรมชาติ

เมื่อคนเจนวายให้ความสำคัญเรื่องความสมดุลระหว่างการทำงานและการใช้ชีวิต จึงโหยหาความสุขทั้งจากการใช้ชีวิตในพื้นที่ส่วนตัวของตัวเองและการได้ใกล้ชิดกับพื้นที่สีเขียวที่เป็นเหมือนขุมพลังของความสดชื่นที่สามารถหย่อนใจเพื่อชาร์จพลังงานกลับไปต่อสู้กับการทำงานได้ แม้รู้ดีว่าราคาที่ดินในทำเลทองต่างไม่ใช่ถูกๆ การจะเลือกเอาเนื้อที่มาทำสวนหรือส่วนกลางที่เป็นธรรมชาตินับเป็นเรื่องยากที่อสังหาฯ จะกล้าลงทุน แต่นี่คือหนึ่งความต้องการที่แท้จริงของคนกลุ่มนี้ เพราะแม้จะรักความสะดวกสบายและมีชีวิตวุ่นวายจากวิถีในเมืองกรุงแค่ไหน เมื่อได้กลับบ้าน ก็ต้องการที่พักที่พาตัวเราหลบหลีกจากความอึกทึกได้ และคงจะดีไม่น้อยหากได้อยู่ท่ามกลางพื้นที่สีเขียวขนาดกว้างขวางเพียงพอสำหรับการทำกิจกรรมต่างๆ เฉกเช่นเดียวกับการใช้เวลาในสวนหน้าบ้าน

 

 

ของต้องดี Facility ต้องครบ

แม้ว่าคอนโดฯ จะมีสวนขนาดใหญ่ให้ ตั้งอยู่ในทำเลที่ดี มีความสะดวกสบายในการเดินทาง แต่สอบตกเรื่อง Facility ก็เป็นเรื่องน่าเสียดาย เพราะเมื่อของดีที่เราอยากได้ทั้งหมดมาครบ Facility ก็ต้องเข้าใจและตอบโจทย์ชีวิตเช่นกัน ยกตัวอย่างเช่น อย่าลืมว่าคนเจนวายไม่ใช่แค่พนักงานออฟฟิศทั่วไป แต่หลายคนมีอาชีพอิสระ หรือฟรีแลนซ์ ถ้าคอนโดฯ ที่อยู่มองเห็นสิ่งนี้และตีโจทย์ออกมาได้ มีการสร้างโค-เวิร์กกิ้ง เทอร์เรส รองรับคือชนะใจ หรือจะเป็นความรื่นรมย์ปนโรแมนติกอย่าง Outdoor Theatre ที่สวนชั้นลอยฟ้า หรือถ้าอยากแหงนหน้าดูดาวบนชั้นดาดฟ้าก็อยากให้มีดาดฟ้าโล่งๆ

 

เจนวายสายเต็มที่ และขอสุขภาพดีด้วย ถ้าชอบเล่นกีฬา จะฟิตเนส โยคะ สระว่ายน้ำ ขอให้มีมาให้ครบ ยิ่งถ้าเป็นสระน้ำเกลือและมีสระปรับอุณหภูมิร่างกายก็ยิ่งเพิ่มความพึงพอใจมากขึ้น

 

คอนโดฯ ดีๆ บางทีต้องเอาไว้ลงทุน

อีกหนึ่งความน่าสนใจของคอนโดฯ คือสามารถต่อยอดในแง่การลงทุนได้ พูดง่ายๆ ว่าถ้าคอนโดฯ ที่เรามองหาตอบโจทย์ได้ในทุกข้อที่ผ่านมาก็นับว่าเป็นสัญญาณบวกอย่างมากสำหรับการลงทุน ในแง่การลงทุนโครงการที่ตั้งไม่ไกลรถไฟฟ้าสายหลักจะสามารถนำไปปล่อยเช่าได้ในราคาที่น่าพอใจ ช่วยสร้างรายได้แบบ passive income หรือพูดง่ายๆ ก็คือนั่งๆ นอนๆ ก็มีรายได้ก้อนนี้ลอยมาได้ทุกเดือน ซึ่งเป็นแนวทางการเงินที่คนเจนวายโหยหา

 

ยกตัวอย่างทำเลเอกมัยและลาดพร้าว สองทำเลนี้มีผู้เช่ารองรับอยู่แล้วทั้งกลุ่มคนไทยและต่างชาติ โดยในส่วนของชาวต่างชาติก็มีทั้งนักท่องเที่ยวและคนที่มาทำงานในไทย เช่น ย่านเอกมัย มีกลุ่มคนญี่ปุ่น รวมถึงคนจากชาติอื่นๆ อาศัยอยู่มาก หากมาไทยก็เล็งเป้าหมายมาพักในย่านนี้ หรือในย่านลาดพร้าวช่วงที่ใกล้รถไฟฟ้าใต้ดิน ที่ปัจจุบันก็เริ่มได้รับความนิยมจากคนจีนหรือคนชาติอื่นๆ เพราะเดินทางสะดวก

 

ในกรณีไม่ได้ปล่อยเช่า แต่ต้องการเก็บเอาไว้เพื่ออยู่เอง หรือเพื่อการขายทำกำไรในอนาคตก็ยังตอบโจทย์อยู่ดี เพราะนับวันที่ดินที่อยู่ติดกับรถไฟฟ้าสายดั้งเดิมก็แพงขึ้นต่อเนื่อง เพราะพื้นที่ให้แย่งชิงไปก่อสร้างใหม่ก็เหลือน้อยเต็มที โดยจากข้อมูลของคอลลิเออร์ส อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย ชี้ว่าราคาที่ดินใกล้รถสถานีรถไฟฟ้าแพงขึ้นทุกปี

 

 

อย่างเช่นโครงการคอนโดมิเนียมใหม่ๆ ที่เปิดตัวไตรมาสแรกปีนี้ ราคาเฉลี่ยจะเพิ่มขึ้น 3% เมื่อเทียบกับสิ้นปีก่อน และราคาก็ยังมีแนวโน้มขยับขึ้นต่อเนื่อง โดยเฉลี่ยแล้วคอนโดมิเนียมในกรุงเทพฯ ราคาจะขยับขึ้นทุกไตรมาส ประมาณไตรมาสละ 3-5% ขึ้นอยู่กับทำเลที่ตั้ง แนวคิดโครงการ และตำแหน่งทางการตลาด (ที่มา: bit.ly/2N1q8ra)

 

นี่คือลิสต์คร่าวๆ ที่คนเจนวายมองหาคอนโดฯ ที่ตอบโจทย์ เพราะปลูกบ้านต้องตามใจผู้อยู่ และถ้าให้ได้มากกว่าคือที่สุด

 

“Once you need less, you will have more.”

FYI
  • หนึ่งในตัวเลือกคอนโดมิเนียมสำหรับคนเจนวายที่น่าสนใจ ต้องยกให้ โครงการ MARU คอนโดมิเนียมภายใต้ภายใต้การดูแลของบริษัท เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ซึ่งปัจจุบันมี 2 โครงการ ได้แก่
  • MARU Ekkamai 2 ใช้เวลาเดินทางเพียง 1 นาทีจาก BTS เอกมัย ราคาเริ่มต้นที่ 5.4 ล้านบาท
  • MARU Ladprao 15 ห่างจากรถไฟฟ้าใต้ดินสถานีลาดพร้าวเพียง 50 เมตร ราคาเริ่มต้น 5 ล้านบาท
  • ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.mjd.co.th/maru 
  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising
X