จะเปิดทำไมถ้ามีแต่ชั้นวางที่ว่างเปล่า! Marks & Spencer จำใจปิดร้าน 11 สาขาในฝรั่งเศส หลัง Brexit ทำให้นำเข้าสินค้ายากขึ้น

กลายเป็นภาพคุ้นตาของชาวเมืองน้ำหอมไปเสียแล้ว หากมองเข้าไปในตู้แช่เย็นของ Marks & Spencer เชนค้าปลีกยักษ์จากแดนผู้ดีแล้วจะพบความวางเปล่า ไม่มีแซนด์วิช สลัด ชีส หรือผักที่เดินทางข้ามพรมแดนมาจากสหราชอาณาจักร ปัญหาเหล่านี้เป็นผลมาจาก Brexit ซึ่งหลังจากมองหาวิธีแก้สมการมานานหลายเดือน ในที่สุด Marks & Spencer ก็พบทางออก นั่นคือ ‘ปิดร้าน’ เสียเลย

ร้านแฟรนไชส์ของ Marks & Spencer จำนวน 11 สาขา ที่ดำเนินการโดยพันธมิตร SFH ในฝรั่งเศสจะปิดตัวลงภายในสิ้นปีนี้

“ความซับซ้อนของห่วงโซ่อุปทานที่เกิดขึ้นหลังออกจากสหภาพยุโรปของสหราชอาณาจักร ทำให้แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่เราจะให้บริการผลิตภัณฑ์สดและแช่เย็นแก่ลูกค้า ด้วยมาตรฐานระดับสูงที่พวกเขาคาดหวัง ส่งผลให้เกิดผลกระทบอย่างต่อเนื่องต่อผลการดำเนินงานในธุรกิจของเรา” พอล ฟริสตัน ผู้จัดการธุรกิจระหว่างประเทศของ Marks & Spencer กล่าว

หนึ่งในปัญหาหลักที่ Marks & Spencer กำลังเผชิญในฝรั่งเศส คือระบบราชการหลัง Brexit เนื่องจากสินค้าที่นำเข้าจากสหราชอาณาจักร จำเป็นต้องมีเอกสารหลายร้อยหน้า รวมถึงใบรับรองสุขภาพ แถมยังมีต้นทุนที่เพิ่มจากภาษีศุลกากรด้วย

Marks & Spencer ยังเจอปัญหาเดียวกันนี้ในสาธารณรัฐเช็ก จนต้องตัดสินใจหยุดขายอาหารสดและอาหารแช่เย็น โดยเปลี่ยนมาเพิ่มผลิตภัณฑ์แช่แข็งและสินค้าที่สามารถเก็บไว้ที่อุณหภูมิห้องอีก 2 เท่าแทน

อย่างไรก็ตามร้าน Marks & Spencer อีก 9 แห่งที่ดำเนินการโดย Lagardere Travel Retail ซึ่งส่วนใหญ่เปิดในสนามบินและสถานีรถไฟของฝรั่งเศสจะยังคงเปิดดำเนินการต่อไป รวมไปถึงเว็บไซต์ที่ส่วนใหญ่ขายเสื้อผ้าและของใช้ในบ้าน จะยังคงเปิดดำเนินการต่อไปเช่นกัน

ยักษ์ค้าปลีกแดนผู้ดีกำลังดิ้นรนกับการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภค และกำลังพยายามปรับโครงสร้างธุรกิจจากเสื้อผ้าและของใช้ในบ้านไปเป็นการขายอาหารมากขึ้น โดยมีการปิดร้านค้าแบบดั้งเดิม และหันไปปรับปรุงประสบการณ์การช้อปปิ้งออนไลน์ให้ดีมากขึ้น

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

ภาพ: Chesnot/Getty Images

อ้างอิง:

ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH

Twitter: twitter.com/standard_wealth
Instagram: instagram.com/thestandardwealth
Official Line: https://lin.ee/xfPbXUP