×

ครม. มีมติอนุมัติมาตรการกระตุ้นท่องเที่ยวเพิ่มเติม แต่หุ้นท่องเที่ยว-ค้าปลีก ดิ่งลง!

โดย SCB WEALTH
02.10.2019
  • LOADING...
Market Focus

เกิดอะไรขึ้น:

วานนี้ (1 ตุลาคม 2562) ที่ประชุม ครม. มติเห็นชอบอนุมัติงบกลางจำนวน 116 ล้านบาท เพื่ออัดฉีดเม็ดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจผ่านการกระตุ้นการท่องเที่ยว ภายใต้ 2 มาตรการ ดังนี้

 

1. ‘100 เดียวเที่ยวทั่วไทย’ ใช้วงเงินกว่า 63.5 ล้านบาท โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ร่วมกับผู้ประกอบการ เช่น โรงแรม ที่พัก สายการบิน สปา แหล่งท่องเที่ยว และสมาคมต่างๆ จัดโปรโมชัน สินค้าท่องเที่ยวในราคา 100 บาท จำนวน 10,000 รายการต่อรอบกิจกรรม รวมทั้งหมด 40,000 รายการ โดยจะเปิดให้ลงทะเบียนเพื่อรับสิทธิ์ผ่านทาง LINE Official ของ ททท. ทั้งนี้กลุ่มเป้าหมายของมาตรการนี้มุ่งเน้นไปที่ กลุ่มคน Gen X กลุ่มคน Gen Y และกลุ่มผู้มีกำลังซื้อปานกลาง

 

2. ‘เที่ยววันธรรมดาราคาช็อกโลก’ ใช้วงเงินกว่า 52.5 ล้านบาท โดย ททท. จะร่วมกับผู้ประกอบการที่เกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยว ได้แก่ โรงแรม บริษัทนำเที่ยว สายการบิน แบรนด์สินค้าชั้นนำ ศูนย์การค้า สปา โรงพยาบาล ร้านอาหาร ร้านจิวเวลรี สวนสนุก เป็นต้น โดยจะจัดโปรโมชันสินค้าและบริการราคาสุดพิเศษให้แก่นักท่องเที่ยวที่เดินทางในวันธรรมดา ผ่านทางเว็บไซต์และ Mobile Platform เป็นต้น

 

ทั้งนี้ 2 มาตรการดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ภายในสิ้นปี 2562 โดย ททท. จะแจ้งรายละเอียดให้ทราบต่อไป

 

กระทบอย่างไร:

สัปดาห์นี้ตลาดหุ้นไทยได้รับแรงกดดันจากตัวเลขเศรษฐกิจไทยที่ออกมาไม่ดี และความกังวลภาวะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว ทำให้ราคาหุ้นกลุ่มท่องเที่ยวไม่ได้ตอบสนองต่อมาตรการนี้มากนัก ตลอดจนมติ ครม. วานนี้เป็นเพียงความคืบหน้าของมาตรการ ซึ่งนักลงทุนรับทราบข้อมูลมาก่อนแล้ว 

 

โดยวานนี้หุ้นกลุ่มท่องเที่ยวส่วนใหญ่ปรับลงตามตลาด ได้แก่ MINT ปิดที่ราคา 36.75 บาท ลดลง 2%DoD, SPA ราคาปิดที่ 14.70 ลดลง 1.34%DoD, ERW ราคาปิดที่ 5.80 บาท ลดลง 0.85%DoD, CENTEL ราคาปิดที่ 32.75 บาท ลดลง 0.76%DoD และ VRANDA ราคาปิดเท่ากับวันก่อนหน้าที่ 9.20 บาท

 

ขณะที่หุ้นกลุ่มค้าปลีกปรับลงเช่นกัน โดย CPALL ราคาปิดที่ 80.00 บาท ลดลง 1.54%DoD, BJC ราคาปิดที่ 52.00 บาท ลดลง 1.42%DoD และ ROBINS ราคาปิดเท่ากับวันก่อนหน้าที่ 63.75 บาท

 

มุมมองระยะสั้น:

แม้ SCBS มองมาตรการนี้จะเป็นอีกมาตรการหนึ่งที่มีส่วนช่วยกระตุ้นการท่องเที่ยวและการใช้จ่ายในประเทศให้คึกคักขึ้นในช่วงที่เหลือของปีนี้ แต่คาดอานิสงส์ที่เกิดขึ้นจากมาตรการนี้ไม่ได้มากเท่ากับมาตรการ ‘ชิมช้อปใช้’ ที่ภาครัฐออกมาช่วงก่อนหน้านี้ เนื่องจากเม็ดเงินของ 2 มาตรการใหม่นี้คิดเป็นเพียง 116 ล้านบาท ซึ่งน้อยมากเมื่อเทียบกับวงเงินของมาตรการ ‘ชิมช้อปใช้’ ที่ประมาณ 20,000 ล้านบาท

 

มุมมองระยะยาว:

มาตรการนี้เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้น ซึ่งไม่เพียงพอต่อปัจจัยลบอื่นๆ ที่กำลังถาโถมเข้ามากดดันต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจไทย อันได้แก่ ความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีน การส่งออกที่หดตัวลง การชะลอตัวทางเศรษฐกิจโลก การแข็งค่าของเงินบาท และอัตราเงินเฟ้อที่ชะลอตัวลง เป็นต้น ดังนั้นในระยะยาวคงต้องติดตามมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอื่นๆ ที่ภาครัฐจะเพิ่มเข้ามาเพื่อช่วยพยุงให้เศรษฐกิจไทยเติบโตได้อย่างยั่งยืนท่ามกลางการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก

 

พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

X
Close Advertising