×
SCB Omnibus Fund 2024

SCGP รายงานกำไรสุทธิ 1Q65 ตามคาด ลดลง 24%YoY เพราะต้นทุนวัตถุดิบและค่าขนส่งสูงขึ้น แต่เพิ่มขึ้น 27%QoQ จากอุปสงค์บรรจุภัณฑ์ปรับตัวดีขึ้น

27.04.2022
  • LOADING...
SCGP

เกิดอะไรขึ้น:

เมื่อวันที่ 26 เมษายน 2565 บมจ.เอสซีจี แพคเกจจิ้ง (SCGP) รายงานกำไรสุทธิ 1Q65 อยู่ที่ 1.66 พันล้านบาท ลดลง 22%YoY และ 22%QoQ หากตัดค่าใช้จ่ายพิเศษ 64 ล้านบาท (ส่วนใหญ่เป็นค่าใช้จ่ายปรับโครงสร้าง) ออกไป พบว่ากำไรปกติอยู่ที่ 1.7 พันล้านบาท ลดลง 24%YoY โดยเกิดจากมาร์จิ้นที่อ่อนแอลง เพราะต้นทุนวัตถุดิบและค่าขนส่งสูงขึ้น แต่เพิ่มขึ้น 27%QoQ โดยเกิดจากรายได้ที่สูงขึ้น เพราะความต้องการใช้บรรจุภัณฑ์ในตลาดปรับตัวดีขึ้นและมาร์จิ้นกว้างขึ้นจากการปรับราคาเพิ่มขึ้นเพื่อให้ครอบคลุมต้นทุนที่สูงขึ้น

 

รายการสำคัญใน 1Q65 

 

1. ยอดขาย เพิ่มขึ้น 4%QoQ และเพิ่มขึ้นก้าวกระโดด 34%YoY โดย 21% เกิดจากการเติบโตของธุรกิจตามปกติ และ 13% เกิดจากการทำ M&P (Duy Tan, Intan Group และ Deltalab) ความต้องการบรรจุภัณฑ์ในตลาดปรับตัวดีขึ้น QoQ ในประเทศไทย อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์ จากความต้องการที่เพิ่มขึ้นในกลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม กลุ่มสินค้าเพื่อการอุปโภคบริโภคและการส่งออกมากขึ้น (ยกเว้นเวียดนามที่ลดลง QoQ จากปัจจัยฤดูกาล) 

 

ส่วนความต้องการบรรจุภัณฑ์ปรับเพิ่มขึ้น YoY ในเวียดนามและฟิลิปปินส์ จากมาตรการควบคุมโควิดที่ลดน้อยลง (ยกเว้นประเทศไทยและอินโดนีเซียที่ทรงตัว YoY อันเป็นผลมาจากจำนวนผู้ป่วยโควิดที่สูงขึ้น) 

 

ด้านปริมาณการขาย อยู่ในระดับทรงตัว YoY สำหรับกระดาษบรรจุภัณฑ์ (47% ของยอดขาย), เพิ่มขึ้น 17%YoY สำหรับบรรจุภัณฑ์จากเยื่อและกระดาษ (25% ของยอดขาย), เพิ่มขึ้น 172%YoY สำหรับบรรจุภัณฑ์จากพอลิเมอร์ (12% ของยอดขาย) และเพิ่มขึ้น 6%YoY สำหรับสายธุรกิจเยื่อและกระดาษ (15% ของยอดขาย) ขณะที่ราคาขายผลิตภัณฑ์เพิ่มขึ้นตามการปรับราคา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตลาดภายในประเทศสำหรับฐานการดำเนินงานของ SCGP และราคาเยื่อกระดาษที่ดีขึ้น YoY 

 

2. Core EBITDA Margin อยู่ที่ 13.6% (เทียบกับ 20% ใน 1Q64 และ 13% ใน 4Q64) ลดลง YoY จากการเพิ่มขึ้นของต้นทุนวัตถุดิบและค่าขนส่ง แต่เพิ่มขึ้น QoQ จากการปรับราคาขายผลิตภัณฑ์เพิ่มขึ้นเพื่อให้ครอบคลุมต้นทุนที่สูงขึ้น

 

สาระสำคัญจากการประชุม 

ในปี 2565 SCGP ยังคงเป้ารายได้ไว้ที่สูงกว่า 1.4 แสนล้านบาท (เพิ่มขึ้น 13%YoY) เทียบกับ 3.7 หมื่นล้านบาทใน 1Q65 และคงงบลงทุนไว้ที่ 2.0 หมื่นล้านบาท (เทียบกับ 1.6 พันล้านบาทใน 1Q65) โดย 50% (1.0 หมื่นล้านบาท) จะใช้ลงทุนในดีล M&P ใหม่ (ยังไม่ได้ประกาศ YTD โดยจะเห็นความคืบหน้ามากขึ้นตั้งแต่ 2Q65) 

 

บริษัทคาดว่าความต้องการใช้บรรจุภัณฑ์ในภูมิภาคอาเซียนจะฟื้นตัวในช่วงที่เหลือของปี 2565 ในขณะที่ความต้องการส่งออกอาจจะยังคงชะลอตัว จากความต้องการใช้บรรจุภัณฑ์ในประเทศจีนอ่อนตัวลงในระยะสั้น แต่จะฟื้นตัวใน 2H65 ซึ่งจะช่วยสนับสนุนราคาขายผลิตภัณฑ์ มาร์จิ้นในปี 2565 มีแนวโน้มดีกว่า 1Q65 

 

ในช่วงปลาย 1Q65 SCGP พบว่าต้นทุนกระดาษรีไซเคิล (RCP) เริ่มลดลง QoQ โดยเกิดจากต้นทุนค่าขนส่งที่ลดลงและอัตราการจัดเก็บที่ดีขึ้นหลังจากสถานการณ์โควิดคลี่คลาย และคาดว่าสถานการณ์เช่นนี้จะดำเนินต่อไป เนื่องจาก SCGP ทำสัญญาซื้อถ่านหินที่ต้องใช้ในปี 2565 ไว้ล่วงหน้าแล้ว (30% ราคาคงที่ และ 70% อิงกับราคาดัชนี) บริษัทจึงคาดว่าสัดส่วนต้นทุนถ่านหินต่อต้นทุนทั้งหมดจะเพิ่มขึ้นสู่ 7-8% ในช่วงกลางปี 2565 จาก 6% ใน 1Q65 และ 5% ในปี 2564 

 

ทั้งนี้เพื่อใช้องค์ความรู้ในการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ ซึ่งที่ผ่านมาบริษัทเคยมีการพัฒนาสมุนไพรจากถั่งเช่า SCGP จะเก็บเกี่ยวผลผลิตกัญชงที่ปลูกไว้เป็นครั้งแรกในช่วงปลาย 2Q65 ขณะที่ความเสี่ยงสำคัญ ได้แก่ แรงกดดันด้านเงินเฟ้อ ค่าขนส่งที่ผันผวน และการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน

 

กระทบอย่างไร:

ในวันนี้ (27 เมษายน) ราคาหุ้น SCGP ปรับตัวลดลง 2.65%DoD อยู่ที่ระดับ 55.00 บาท ขณะที่ SET Index ที่ปรับตัวลดลง 0.89%DoD สู่งระดับ 1,661.87 จุด 

 

มุมมองต่อผลประกอบการและแนวโน้มปี 2565:

SCBS ประเมินผลประกอบการ 1Q65 เป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ โดยลดลง 24%YoY เพราะต้นทุนที่เพิ่มขึ้น แต่เพิ่มขึ้น 27%QoQ สนับสนุนด้วยความต้องการใช้บรรจุภัณฑ์ในภูมิภาคอาเซียนที่แข็งแกร่งมากขึ้น ดังนั้นจึงคาดว่ากำไร 2Q65 จะเพิ่มขึ้น QoQ (แต่ยังคงอ่อนตัวลง YoY) และกำไร 2H65 จะดีขึ้นทั้ง HoH และ YoY จากฐานต่ำของปีก่อน เนื่องจากมาตรการล็อกดาวน์ควบคุมโควิด และปัจจัยกระตุ้นอีกอย่างหนึ่ง คือความคืบหน้ามากขึ้นในการทำ M&P ตั้งแต่ 2Q65 เป็นต้นไป ซึ่งจะเป็นอัปไซด์ต่อประมาณการดังกล่าว

 


 

ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH


Twitter: twitter.com/standard_wealth
Instagram: instagram.com/thestandardwealth
Official Line: https://lin.ee/xfPbXUP

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising