×

PTTEP – ราคาน้ำมันที่สูงขึ้นเป็นปัจจัยกระตุ้นราคาหุ้นระยะสั้น

12.10.2022
  • LOADING...

เกิดอะไรขึ้น:

Sentiment เชิงบวกมากขึ้นต่อราคาน้ำมัน หลังจากวันที่ 5 ตุลาคมที่ผ่านมา กลุ่ม OPEC+ มีมติลดกำลังการผลิตน้ำมัน 2 ล้านบาร์เรลต่อวัน เป็นเวลา 14 เดือน เริ่มตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2565 ท่ามกลางอุปทานที่ตึงตัวจะเป็นปัจจัยกระตุ้นราคาหุ้น PTTEP ในระยะสั้น

 

โดยหนุนให้ราคาหุ้น PTTEP ปรับตัวขึ้นมาแล้ว 6% ในช่วง 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา สอดคล้องกับราคาน้ำมันดิบดูไบ (เพิ่มขึ้น 6%) แต่ Outperform SET (ลดลง 1%) ตลาดน่าจะยังคงมีมุมมองเชิงบวกต่อผลประกอบการของ PTTEP อย่างต่อเนื่องในระยะ 6 เดือนข้างหน้า แม้คาดว่ากำไรสุทธิ 3Q65 จะลดลงเล็กน้อย โดยมีสาเหตุมาจากราคาน้ำมันที่ลดลง

 

นอกจากนี้ InnovestX Research ได้จัดทำบทวิเคราะห์พรีวิวผลประกอบการ 3Q65 ของ บมจ.ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม (PTTEP) ซึ่งคาดว่าจะรายงานผลประกอบการวันที่ 25 ตุลาคม 2565

 

กระทบอย่างไร:

ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา ราคาหุ้น PTTEP ปรับเพิ่มขึ้น 4.29%MoM สู่ระดับ 170.00 บาท ดีกว่า SET Index ปรับลดลง 5.56%MoM อยู่ที่ระดับ 1,562.68 จุด

 

พรีวิวผลประกอบการ 3Q65:

InnovestX Research คาดว่ากำไรสุทธิ 3Q65 ของ PTTEP จะเพิ่มขึ้นแข็งแกร่งเป็นเท่าตัว YoY แต่จะลดลง 5%QoQ สู่ 1.95 หมื่นล้านบาท เพราะราคาน้ำมันที่ลดลงส่งผลทำให้ราคาขายเฉลี่ย (ASP) ลดลง 2.3%QoQ สู่ 54.3 ดอลลาร์สหรัฐต่อ BOE นอกจากนี้ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานที่เพิ่มขึ้นเพื่อเร่งพัฒนาโครงการ G1/61 (เอราวัณ) รวมถึงแท่นหลุมผลิตและแท่นผลิต ก็น่าจะส่งผลทำให้ต้นทุนต่อหน่วยเพิ่มขึ้น ในด้านบวก ปริมาณการขายคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 14.1%YoY และ 2.3%QoQ สู่ 476KBOED ต่ำกว่าตัวเลขที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ที่ 481KBOED อยู่เล็กน้อย โดยมีสาเหตุมาจากการเลื่อนขนส่งน้ำมันจากโครงการ Algeria Hassi Bir Rekaiz (HBR เฟส 1) เป็น 4Q65 และเหตุขัดข้องที่ท่อส่งก๊าซธรรมชาติของโครงการซอติก้าในเมียนมาในช่วงวันที่ 1-14 สิงหาคม

 

ส่วนการผลิตที่เพิ่มขึ้นจากโครงการ Block H (มาเลเซีย) และปริมาณการขายจากสัญญา PSC ฉบับใหม่ที่โครงการ Block G1/61 และ G2/62 ในอ่าวไทย เป็นส่วนสำคัญที่ช่วยหนุนให้ปริมาณการขายเติบโต YoY ขณะที่กำไรจากสัญญาประกันความเสี่ยงราคาน้ำมัน (~80 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) จะถูกหักล้างโดยรายการด้อยค่าของโครงการ E&P ในบราซิล (~100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ)

 

แนวโน้มผลประกอบการปี 2565:

InnovestX Research ปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 2565 ลดลง 14% สู่ 7.2 หมื่นล้านบาท (ยังเติบโตแข็งแกร่ง 91%YoY) เพื่อสะท้อนการปรับสมมติฐานราคาน้ำมันลดลง โดยราคาน้ำมันดิบเบรนท์เฉลี่ยลดลงจาก 108 ดอลลาร์สหรัฐ สู่ 102 ดอลลาร์สหรัฐ เพื่อสะท้อนราคาที่ร่วงลงแรงใน 3Q65

 

แต่ยังคงคาดว่า PTTEP จะได้รับประโยชน์จาก ASP ที่สูงขึ้นใน 4Q65 ในขณะที่สถานะสัญญาประกันความเสี่ยงส่วนใหญ่มีการบันทึกมูลค่าตามราคาตลาดปัจจุบันไปแล้ว

 

อย่างไรก็ดี InnovestX Research ประเมินราคาเป้าหมาย (สิ้นปี 2566) อ้างอิงวิธี DCF ที่ 206 บาทต่อหุ้น โดยอิงกับสมมติฐานราคาน้ำมันดิบดูไบระยะยาวที่ 68 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล และราคาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ 70 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ตั้งแต่ปี 2568 เป็นต้นไป

 

ปัจจุบันหุ้น PTTEP เทรดที่ PE (ปี 2565) เพียง 8.3 เท่า เทียบกับค่าเฉลี่ย 10 ปีที่ 16.4 เท่า

 

นอกจากนี้ปัจจัยที่ต้องจับตาในปี 2565 คือการประกาศค้นพบแหล่งก๊าซในมาเลเซียเพิ่มอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะเป็นปัจจัยใหม่ที่ช่วยขับเคลื่อนปริมาณการขายของบริษัทให้ปรับตัวเพิ่มขึ้น

 

สำหรับปัจจัยเสี่ยงต่อผลประกอบการที่ต้องติดตามคือ

 

  1. ราคาน้ำมันดิบผันผวน
  2. ต้นทุนต่อหน่วยสูงขึ้น
  3. ขาดทุนจากการด้อยค่าของสินทรัพย์
  4. การเปลี่ยนแปลงกฎหมายเกี่ยวกับการปล่อยก๊าซเรือนกระจก

ข่าวที่เกี่ยวข้อง


 

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising
X
Close Advertising