เกิดอะไรขึ้น:
SCBS ได้จัดทำบทวิเคราะห์พรีวิวผลประกอบการ 3Q64 ของ บมจ.โอสถสภา (OSP) ซึ่งคาดว่าจะประกาศในวันที่ 10 พฤศจิกายน 2564
กระทบอย่างไร:
ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา ราคาหุ้น OSP ปรับตัวลง 4.3%MoM สู่ระดับ 33.25 บาท เทียบกับ SET Index ที่ปรับตัวขึ้น 0.5%MoM สู่ระดับ 1,624.31 จุด (ข้อมูล ณ วันที่ 28 ตุลาคม 2564)
มุมมองระยะสั้น:
SCBS คาดว่า OSP จะรายงานกำไร 3Q64 จำนวน 3Q64 หดตัวลงแรง 38.9%YoY และ 31.2%QoQ โดยรายได้รวม 3Q64 จะลดลง 5.9% และ 1.2%QoQ สู่ระดับ 6.2 พันล้านบาท ซึ่งรายได้จากการขายผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มทั้งหมดจะลดลงทั้ง YoY และ QoQ เกิดจากเครื่องดื่มบำรุงกำลังภายในประเทศที่อ่อนแอในช่วงล็อกดาวน์ และรายได้จากการขายเครื่องดื่ม Functional Drinks จะเติบโตเพียงเล็กน้อย
ขณะที่ยอดขายจากต่างประเทศ 3Q64 จะเติบโตไม่เกิน 10% สำหรับอัตรากำไรขั้นต้น 3Q64 จะอยู่ที่ 34.5% ลดลงทั้ง YoY และ QoQ จากการประหยัดต่อขนาดของเครื่องดื่มบำรุงกำลังที่ลดลง นอกจากนี้ใน 3Q64 บริษัทจะมีการบันทึกขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยนจากเงินกู้ยืมในเมียนมา
มุมมองระยะยาว:
ปี 2565 SCBS เล็งเห็นปัจจัยบวกหลายอย่างด้วยกัน ซึ่งประกอบด้วย ความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ฟื้นตัว การเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ในกลุ่มกัญชงและกัญชาออกสู่ตลาด และการเริ่มเดินเครื่องสายการผลิตขวดแก้วแห่งใหม่ในเมียนมา
อย่างไรก็ตาม ความกังวลเกี่ยวกับการแข่งขันในตลาดที่สูงขึ้นและราคาวัตถุดิบหลายอย่างที่สูงขึ้น ทำให้ SCBS ยังคงประมาณการรายได้ไว้ที่ 2.74 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.3%YoY แต่ปรับประมาณการอัตราส่วนค่าใช้จ่าย SG&A ต่อยอดขายเพิ่มขึ้นจาก 21% สู่ 22% ดังนั้นประมาณการกำไรสุทธิปี 2565 จึงถูกปรับลดลงลดลง 7% สู่ 3.77 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 17.6%YoY
แม้ SCBS คิดว่าจะไม่มีการล็อกดาวน์เกิดขึ้นในประเทศในปี 2565 แต่หากเกิดขึ้นจะสร้าง Downside ต่อประมาณการผลประกอบการ รวมถึงต้องติดตามความเสี่ยงจากความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน
ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH
Twitter: twitter.com/standard_wealth
Instagram: instagram.com/thestandardwealth
Official Line: https://lin.ee/xfPbXUP