×

หุ้น GULF ผู้อยู่รอดในวันที่ตลาดหุ้นดิ่งแรง

โดย SCB WEALTH
25.02.2020
  • LOADING...
GULF

เกิดอะไรขึ้น:

คืนวันศุกร์ที่ผ่านมา (21 กุมภาพันธ์) บมจ.กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ (GULF) รายงานกำไรสุทธิปี 2562 ที่ 4,886 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 61% จาก 3,028 ล้านบาทในปี 2561 โดยกำไรสุทธิที่เพิ่มขึ้นก้าวกระโดด ส่วนหนึ่งมาจากการรับรู้ผลกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนจำนวน 1,377 ล้านบาท ซึ่งเกิดจากทิศทางเงินบาทที่แข็งค่า ส่งให้การแปลงมูลค่าหนี้สินระยะยาวในสกุลเงินดอลลาร์เป็นสกุลเงินบาทมีมูลค่าลดลง 

 

ขณะที่กำไรปกติ (หักกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน) ปี 2562 อยู่ที่ 3,509 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 24% จาก 2,826 ล้านบาทในปี 2561 ซึ่งมีปัจจัยสนับสนุนจากการเปิดโครงการโรงไฟฟ้า SPP ใหม่เพิ่ม 12 โครงการ จากที่มี 8 โครงการในปี 2561 ถึงแม้ต้นทุนราคาก๊าซธรรมชาติจะสูงขึ้น 5.7% YoY ก็ตาม

 

ทั้งนี้ GULF ได้ประกาศจ่ายเงินปันผล (รอบผลการดำเนินงานมกราคมถึงธันวาคม 2562) ที่อัตรา 1.30 บาทต่อหุ้น ขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 5 มีนาคม 2563 นอกจากนี้ GULF ยังสร้างเซอร์ไพรส์ต่อตลาดโดยการประกาศแตกพาร์จากราคาพาร์ 5 บาท เหลือ 1 บาท

 

กระทบอย่างไร:

เมื่อวานนี้ (24 กุมภาพันธ์) ราคาหุ้น GULF ปรับเพิ่มขึ้น 1.92% DoD สวนทาง SET Index ที่ปรับลงต่ำสุดในรอบ 39 เดือนมาอยู่ที่ระดับ 1,435.56 จุด ลดลง 59.53 จุด หรือลดลง 3.98% DoD เนื่องจากความกังวลสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 นอกประเทศจีนปะทุความรุนแรงขึ้น 

 

โดยเมื่อวานนี้มีจำนวนหุ้นใน SET100 Index เพียง 2 ตัวเท่านั้นที่ปรับขึ้นสวนทางตลาดหุ้น ได้แก่ GULF เพิ่มขึ้น 1.9% DoD และ บมจ.ราช กรุ๊ป (RATCH) เพิ่มขึ้น 0.8%DoD 

 

ขณะที่วันนี้ (25 กุมภาพันธ์ ) ราคาหุ้น GULF ไม่เคลื่อนไหวมากนัก

 

มุมมองระยะสั้น:

SCBS มองว่าสาเหตุที่ราคาหุ้น GULF สามารถปรับขึ้นสวนทางตลาดหุ้นไทยได้มีปัจจัยหลัก 3 ประการคือ 

1.กำไรสุทธิปี 2562 ที่ออกมาดีกว่าตลาดคาดไว้ แม้ว่าจะมาจากรายการพิเศษก็ตาม
2.
บริษัทประกาศแตกพาร์ ซึ่งแม้ไม่ได้กระทบปัจจัยพื้นฐาน แต่ตลาดมองเป็นเซนทิเมนต์บวกต่อการช่วยเพิ่มสภาพคล่องในการซื้อขายหุ้น GULF บนกระดาน
3.ในช่วงสภาวะ Risk-off นักลงทุนจะปิดรับความเสี่ยงโดยการลดน้ำหนักในสินทรัพย์เสี่ยงและเลือกลงทุนในสินทรัพย์ปลอดภัย และหนึ่งในนั้นคือหุ้น Defensive ที่มีรายได้มั่นคงและไม่อ่อนไหวมากต่อทิศทางเศรษฐกิจ

 

มุมมองระยะยาว:

ติดตามความคืบหน้าโครงการลงทุนของบริษัทฯ ทั้งโครงการลงทุนในโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติ ประกอบด้วย

  • โครงการ Gulf SRC สัดส่วนลงทุน 70% กำลังงานการผลิต 2650KW
  • โครงการ Gulf PD สัดส่วนการลงทุน 70% กำลังการผลิต 2650KW
  • โครงการ Duqm สัดส่วนการลงทุน 45% กำลังการผลิต 326MW 

 

โครงการลงทุนในโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทน ประกอบด้วย

  • โครงการ Gulf Chana Green สัดส่วนการลงทุน 69% กำลังการผลิต 25MW
  • โครงการ Mekong Wind Power สัดส่วนการลงทุน 95% กำลังการผลิต 310MW

 

ถึงแม้ว่าทิศทางผลประกอบการของ GULF จะดูเติบโตอย่างสดใส แต่อย่างไรก็ตาม มูลค่าพื้นฐาน (Valuation) ของหุ้น GULF อยู่ในระดับที่สูงพอสมควร เนื่องจากตลาดคาดหวังต่อแนวโน้มผลประกอบการในอนาคตมาก 

 

โดยปัจจุบันหุ้น GULF ซื้อขายที่ PE 80 เท่า (+1.5SD) ซึ่งหากมีปัจจัยลบมากระทบต่อทิศทางผลประกอบการและ/หรือทิศทางผลประกอบการไม่เป็นไปตามที่คาดหวังไว้ มีโอกาสที่ราคาหุ้นจะปรับตัวลง ทั้งนี้ต้องติดตามความคืบหน้าของโครงการลงทุนของบริษัทฯ ว่าจะเป็นไปตามที่บริษัทวางแผนไว้หรือไม่

 

ข้อมูลเพิ่มเติม:

หมายเหตุ % DoD คือเปอร์เซ็นต์การเปลี่ยนแปลงเมื่อเทียบกับวันทำการก่อนหน้า

 

พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์ 

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising