×

นักท่องเที่ยวจีนกลับแล้ว! ตัวเลขทะลุ 1 ล้านคน เพิ่มสัญญาณบวกหุ้นโรงแรม

โดย SCB WEALTH
27.09.2019
  • LOADING...

เกิดอะไรขึ้น:

กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติประจำเดือนสิงหาคม 2562 อยู่ที่ 3.47 ล้านคน เพิ่มขึ้น 7.35% YoY โดยกลุ่มประเทศนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามามากที่สุดคือนักท่องเที่ยวชาวจีน อยู่ที่ 1.031 ล้านคน เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดกว่า 19% YoY พร้อมสร้างรายได้ให้แก่ประเทศกว่า 5.49 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 20% YoY 

 

โดยสาเหตุที่นักท่องเที่ยวชาวจีนเพิ่มขึ้นอย่างโดดเด่นเป็นเพราะตัวเลขปีที่แล้วเป็นฐานต่ำจากเหตุการณ์เรือล่มที่จังหวัดภูเก็ต และปัจจุบันภาครัฐมีการออกมาตรการดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติโดยยกเว้นค่าธรรมเนียม Visa on Arrival (VOA) ส่วนสาเหตุทางอ้อมคือนักท่องเที่ยวจีนเลี่ยงการเดินทางไปฮ่องกงหลังมีเหตุประท้วง

 

สมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (ATTA) เปิดเผยว่าภาพรวมนักท่องเที่ยวจีนในไตรมาส 3/62 จะเติบโตก้าวกระโดด เนื่องจากไตรมาส 3/61 โดนผลกระทบจากอุบัติเหตุเรือล่ม ขณะที่ไตรมาส 4/62 มั่นใจว่าเติบโตดีตามเป้าไม่ต่ำกว่า 10% เนื่องจากเข้าสู่ช่วงวันหยุดยาวของวันชาติจีน (Golden Week) ตั้งแต่วันที่ 1-7 ตุลาคมนี้ ซึ่งคาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวชาวจีนกว่า 2.5-2.7 แสนคน สังเกตได้จากยอดจองตั๋วเครื่องบินอยู่ที่ประมาณ 90-95% ซึ่งส่วนใหญ่นิยมเดินทางมากรุงเทพฯ, พัทยา, ภูเก็ต, กระบี่ และเชียงใหม่ และน่าจะมีส่วนผลักดันให้แนวโน้มตลอดปี 2562 มีชาวจีนเที่ยวไทย 11 ล้านคน เพิ่มขึ้นจาก 10.5 ล้านคนของปี 2561

 

กระทบอย่างไร:

ตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มีสัญญาณการฟื้นตัวต่อเนื่องตั้งแต่เดือนมิถุนายนถึงสิงหาคม 2562 และการเข้าสู่ฤดูกาลท่องเที่ยวของชาวจีนในช่วง Golden Week รวมทั้งความคาดหวังเชิงบวกที่มีต่อมาตรการ ‘ชิมช้อปใช้’ ของภาครัฐที่เริ่มเปิดให้ลงทะเบียนตั้งแต่วันที่ 23 กันยายน 2562 ทำให้สัปดาห์นี้ราคาหุ้นกลุ่มโรงแรมตอบรับเชิงบวกและปรับขึ้นโดดเด่น นำโดย บมจ. โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา (CENTEL) ราคาหุ้นเพิ่มขึ้น 5.60% WoW และปิดช่วงเช้าที่ 33.00 บาท ตามด้วย บมจ. ดิ เอราวัณ กรุ๊ป (ERW) ราคาหุ้นเพิ่มขึ้น 5.41% WoW และปิดช่วงเช้าที่ 6.85 บาท บมจ. ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล (MINT) ราคาหุ้นเพิ่มขึ้น 1.35% WoW และปิดช่วงเช้าที่ 37.50 บาท

 

มุมมองระยะสั้น: 

SBCS มองว่าระยะสั้นอุตสาหกรรมท่องเที่ยวเริ่มเห็นสัญญาณผ่อนคลายมากขึ้น โดยช่วงที่เหลือของปีนี้คาดว่าจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ (โดยเฉพาะชาวจีน) ที่กำลังเดินทางเข้ามาในประเทศไทยจะเพิ่มขึ้นในอัตราเร่งจากการมีฐานนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ตกต่ำในครึ่งหลังของปี 2561 หลังเกิดเหตุเรือล่มภูเก็ต และยังได้อานิสงส์เพิ่มจากการที่รัฐบาลได้ขยายระยะเวลามาตรการยกเว้นค่าธรรมเนียม Visa on Arrival (VOA) ออกไปจนถึงเดือนเมษายน 2563 ส่วนมาตรการชิมช้อปใช้จะมีส่วนช่วยกระตุ้นบรรยากาศการใช้จ่ายและการท่องเที่ยวสำหรับกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวไทย และหากสัปดาห์หน้าคณะรัฐมนตรีมีการพิจารณาอนุมัติให้ออกมาตรการเสริมเพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวไทยอีก เช่น มาตรการ ‘ร้อยเดียวเที่ยวทั่วไทย’ และ ‘วันธรรมดาราคาช็อกโลก’ คาดจะเป็นปัจจัยบวกต่อเนื่องสำหรับการปรับตัวขึ้นของราคาหุ้นกลุ่มโรงแรม ส่งผลให้หุ้นกลุ่มนี้มีโอกาสที่จะชนะตลาดได้ในช่วงสั้น

 

มุมมองระยะยาว:

ระยะยาว SCBS คาดว่าอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยยังคงเผชิญความท้าทายมากขึ้นทั้งจากภาวะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวและจากการแข็งค่าของเงินบาท โดยปีนี้เงินบาทแข็งค่าขึ้น 6.31% YTD เมื่อเทียบกับสกุลเงินดอลลาร์ และแข็งค่ามากที่สุดในภูมิภาคเอเชีย จึงอาจส่งผลกระทบต่อค่าใช้จ่ายและการตัดสินใจมาเที่ยวไทยของนักท่องเที่ยวต่างชาติ ซึ่งเป็นประเด็นที่ต้องจับตาต่อไป

 

ข้อมูลพื้นฐาน:

บมจ. โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา (CENTEL) ดำเนินธุรกิจหลัก 2 ประเภทคือ 1. ธุรกิจโรงแรมทั้งในและต่างประเทศ ภายใต้แบรนด์ Centara Grand, Centara Hotels & Resorts 2. ธุรกิจอาหารภายใต้แบรนด์ KFC, Mister Donut, Auntie Anne’s 

 

บมจ. ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล (MINT) ดำเนินธุรกิจหลัก 3 ประเภทคือ 1. ธุรกิจโรงแรมทั้งในและต่างประเทศ ภายใต้แบรนด์ Anatara, Avani, JW Marriott Phuket 2. ธุรกิจอาหารภายใต้แบรนด์ The Pizza Company, Sizzler, Dairy Queen 3. ธุรกิจไลฟ์สไตล์ ภายใต้แบรนด์ Esprit, Bossini 

 

บมจ. ดิ เอราวัณ กรุ๊ป (ERW) ดำเนินธุรกิจโรงแรมเป็นหลัก ได้แก่ Grand Hyatt Erawan Bangkok, JW Marriott Bangkok, Holiday Inn Pattaya, ibis, Hop Inn 

 

 

พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising