เกิดอะไรขึ้น:
เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2566 กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานระบบขนส่งมวลชนทางราง บีทีเอสโกรท (BTSGIF) รายงานกำไรสุทธิ 3QFY66 (ตุลาคม-ธันวาคม 2565) จำนวน 1.2 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นมากถึง 208%QoQ และ 834%YoY
หากตัดรายการพิเศษทั้งหมด (รายการที่ไม่ใช่เงินสด) ออกไป พบว่า BTSGIF มีกำไรปกติ 935 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10%QoQ และ 147%YoY กำไรที่เพิ่มขึ้น QoQ และ YoY เกิดจากจำนวนผู้โดยสาร BTS ที่เพิ่มขึ้นจากกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ปรับตัวดีขึ้น
นอกจากนี้ BTSGIF ประกาศจ่ายคืนเงินทุนในอัตรา 0.162 บาทต่อหน่วย (ผลตอบแทน 4.2%) ขึ้นเครื่องหมาย XN วันที่ 24 กุมภาพันธ์ ทั้งนี้ กำไรปกติ 9MFY66 คิดเป็นสัดส่วน 80% ของประมาณการกำไรเต็มปี
สำหรับรายการสำคัญใน 3QFY66 ดังนี้
- รายได้ค่าโดยสารอยู่ที่ 1.5 พันล้านบาท เติบโต 14.1%QoQ และ 93.5% เพราะจำนวนผู้โดยสาร BTS เพิ่มขึ้น ทั้งนี้ ใน 3QFY66 จำนวนผู้โดยสารอยู่ที่ 45.9 ล้านคน เพิ่มขึ้น 14.3%QoQ และ 96.5%YoY อัตราค่าโดยสารเฉลี่ยอยู่ที่ 32.3 บาทต่อเที่ยว ลดลง 0.2%QoQ และ 1.5%YoY
- ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานและค่าซ่อมบำรุงอยู่ที่ 538.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 22%QoQ และ 43.4%YoY โดยส่วนใหญ่เกิดจากค่าสาธารณูปโภคและค่าซ่อมบำรุงที่สูงขึ้นเนื่องจากจำนวนผู้โดยสารเพิ่มขึ้น
กระทบอย่างไร:
เมื่อวานนี้ (15 กุมภาพันธ์ ณ เวลา 12.30 น.) ราคาหน่วย BTSGIF ไม่เปลี่ยนแปลง DoD อยู่ที่ระดับ 3.88 บาท ขณะที่ SET Index ปรับลดลง 0.05%DoD อยู่ที่ระดับ 1651.99 จุด
แนวโน้มผลประกอบการปี 2566:
InnovestX Research คาดว่า BTSGIF จะรายงานกำไรปกติ 4QFY66 เพิ่มขึ้นเล็กน้อย QoQ เนื่องจากจำนวนผู้โดยสารในเดือนมกราคมลดลงเล็กน้อย MoM แม้ว่าน่าจะปรับตัวดีขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์ อย่างไรก็ดี กำไรปกติน่าจะเติบโตอย่างแข็งแกร่ง YoY จากฐานต่ำของปีก่อน สำหรับกำไรปกติ FY2566 ยังคงประมาณการกำไรปกติไว้ที่ 2.9 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 233.7%YoY แม้ว่าเล็งเห็น Upside เล็กน้อยต่อประมาณการเต็มปี
สำหรับกลยุทธ์การลงทุนยังคงคำแนะนำเชิง Tactical สำหรับ BTSGIF ไว้ที่ NEUTRAL แต่ปรับราคาเป้าหมายอ้างอิงวิธี DDM ลดลงสู่ 5.5 บาทต่อหน่วย (จาก 6.0 บาท) หลังจากปรับปีฐานในการประเมินมูลค่าเป็นปี FY2567
ขณะที่คาดว่า BTSGIF จะได้รับประโยชน์จากจำนวนผู้โดยสารที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น เนื่องจากกิจกรรมทางเศรษฐกิจปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่องและนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาในประเทศไทยมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ผลตอบแทนที่ผู้ถือหน่วยลงทุนได้รับจะยังคงอยู่ในรูปของการลดทุนแทนที่จะเป็นเงินปันผล ซึ่งจะเป็นตัวจำกัด Upside ในระยะสั้นของ BTSGIF
ส่วนปัจจัยเสี่ยงและความกังวลที่ต้องติดตามคือ ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการต่อสัมปทานเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียว จะส่งผลทำให้แนวโน้มรายได้ในระยะยาวของ BTSGIF ขาดความชัดเจน เนื่องจากสัญญาฉบับปัจจุบันจะสิ้นสุดในเดือนธันวาคม 2572
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- หุ้นอิเล็กทรอนิกส์ นำตลาดผันผวน หลัง IMF มองว่าความเสี่ยง Recession น้อยลง
- ตลท. ขยายกรอบ ‘Ceiling & Floor’ ใหม่ให้สอดคล้องกับตลาดหุ้นนอก พร้อมประกาศเพิ่มเครื่องหมาย P เตือนหุ้นที่ซื้อขายผิดปกติ เริ่มมีผลใช้ใน 1Q66
- ย้อนรอย ‘ออลล์ อินสไปร์’ ก่อนเบี้ยวดอกเบี้ยหุ้นกู้ ฟากผู้บริหารชิงขายหุ้น ก่อนราคาดิ่ง 90% จากจุดสูงสุด