นอกเหนือจากการเปิดเผยผลการดำเนินงานในช่วงไตรมาส 4 ประจำปี 2020 ที่ผ่านมาของทั้งสองบริษัท Facebook และ Apple อีกหนึ่งประเด็นที่น่าสนใจคือการที่ มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ซีอีโอ Facebook ได้กล่าวในระหว่างการให้ข้อมูลกับเหล่านักลงทุนว่า ‘Apple’ ถือเป็นคู่แข่งคนสำคัญของพวกเขา ทั้งในเชิงการทำธุรกิจ และนโยบายการเปลี่ยนแปลงด้านความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้งานบนระบบปฏิบัติการ iOS ที่จะส่งผลกระทบโดยตรงกับการให้บริการผู้ใช้งานของแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียรายนี้
“iMessage กลายเป็นหัวใจหลักบนระบบนิเวศของพวกเขา (Apple) ทั้งยังเป็นบริการยอดนิยมในสหรัฐอเมริกา ซึ่งผมคิดว่าปัจจัยหลักนั้นมาจากการที่พวกเขาได้ติดตั้งมันมาพร้อมกับตัวอุปกรณ์ดีไวซ์ ทั้งยังให้ประโยชน์ความได้เปรียบอีกมากมายที่แอปฯ อื่นๆ ไม่มี
“Apple ยังมีแรงจูงใจที่ใช้จุดยืนความแข็งแกร่งของแพลตฟอร์มพวกเขาในการสกัดกั้นแอปฯ ของเรา ซึ่งผลกระทบนี้จะเกิดขึ้นกับธุรกิจที่กำลังเติบโตหลายล้านรายทั่วโลก และจะเริ่มเห็นความเปลี่ยแปลงชัดเจนในการอัปเดตระบบปฏิบัติการ iOS14 นี้
“Apple อาจจะบอกว่าพวกเขาทำสิ่งเหล่านี้ (ดำเนินการเปลี่ยนแปลงมาตรการด้านความปลอดภัยใน iOS14) ก็เพื่อช่วยเหลือผู้คน แต่ในขณะเดียวกันมันก็เป็นที่ชัดเจนว่า สิ่งเหล่านี้กลายเป็นการติดตามข้อมูลของคู่แข่งทางธุรกิจของพวกเขาด้วย ซึ่งผมเชื่อว่าแพลตฟอร์มของเราและแพลตฟอร์มอื่นๆ จะต่อต้านสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคตข้างหน้านี้แน่ๆ” ซักเคอร์เบิร์กร่ายยาว
สาเหตุที่ทำให้มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก เพ่งเล็งโจมตี Apple โดยตรง และเรียกบริษัทผู้ผลิตอุปกรณ์เทคโนโลยียอดนิยมจากซิลิคอนวัลเลย์รายนี้ว่าเป็น ‘คู่แข่ง’ ของพวกเขาอย่างเต็มปากเต็มคำ เป็นผลมาจากการที่ Apple ได้ดำเนินการเปลี่ยนแปลงมาตรการด้านความปลอดภัย และความเป็นส่วนตัวของข้อมูลผู้ใช้ผลิตภัณฑ์ของพวกเขา ซึ่งจะเริ่มอัปเดตใน iOS14 นี้
และจะทำให้ผู้ใช้งานอุปกรณ์ของ Apple เลือกได้ว่า จะให้ ‘Facebook’ ติดตามข้อมูล (Tracking) ความเคลื่อนไหวของเราทั้งบนแอปฯ Facebook, แอปพลิเคชันของแพลตฟอร์มอื่นๆ รวมถึงเว็บไซต์อื่นๆ หรือไม่ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ล้วนแล้วแต่มีผลโดยตรงกับ Facebook ที่จะทำให้การทำ Targeting Ad มีประสิทธิภาพน้อยลง เนื่องจากพวกเขาจะล่วงรู้ข้อมูลความสนใจอื่นๆ ของผู้ใช้งานลดลงตามไปด้วย และผลที่ตามมาก็จะทำให้แบรนด์และเอเจนซีต่างๆ อาจจะต้องพิจารณาการซื้อโฆษณาบนแพลตฟอร์มของพวกเขามากขึ้นในอนาคต
โดยเหตุการณ์เดียวกันนี้ เมื่อช่วงเดือนธันวาคมปีที่แล้ว Facebook ยังได้ทุ่มเงินซื้อสื่อโฆษณาบนหน้าหนังสือพิมพ์เพื่อร่ายยาวเชิงตำหนิ Apple ว่า ความเปลี่ยนแปลงดังกล่าวจะทำให้โลกอินเทอร์เน็ตเสรี (Free Internet) ถึงคราวต้องอวสาน
พร้อมยกเหตุผลที่ว่า หากผู้ลงโฆษณาไม่สามารถทำโฆษณาแบบ Personlized AD ได้ ผู้ให้บริการหลายเจ้าก็อาจจะจำเป็นต้องคิดค่าใช้บริการแพลตฟอร์มของพวกเขาแบบ Subscription รวมถึงอาจจะต้องคิดค่าใช้จ่ายในแอปฯ (In-App Purchase) ซึ่งจะทำให้การใช้งานอินเทอร์เน็ตเพื่อเสพคอนเทนต์ต่างมีต้นทุนราคาที่ตัวผู้ใช้งานต้องจ่ายเอง
รวมถึงยังอ้างอีกด้วยว่า ความเปลี่ยนแปลงนี้จะทำให้ผู้ประกอบการธุรกิจขนาดเล็กหลายล้านคนต้องประสบปัญหาในการสื่อสารกับลูกค้าโดยตรง เนื่องจากทำให้การโฆษณาสินค้าและผลิตภัณฑ์ต่างๆ มีประสิทธิภาพลดลงตามไปด้วย
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์
อ้างอิง:
- https://www.cnbc.com/2021/01/27/facebook-ceo-zuckerberg-says-it.html?utm_term=Autofeed&utm_medium=Social&utm_content=Tech&utm_source=Twitter#Echobox=1611788284
- https://www.bloomberg.com/news/articles/2021-01-28/facebook-ceo-calls-apple-significant-future-competitor?sref=CVqPBMVg
- https://www.theverge.com/2020/12/17/22180102/facebook-new-newspaper-ad-apple-ios-14-privacy-prompt