มาร์ก โมเบียส ผู้ก่อตั้ง Mobius Capital Partners และนักลงทุนรุ่นเก๋าที่สร้างชื่อเสียงให้กับตัวเองด้วย Franklin Templeton Investments กล่าวกับสำนักข่าว CNBC เมื่อเร็วๆ นี้ว่า ตลาดหุ้นอินเดียกำลังเป็นตลาดที่เติบโตอย่างน่าตื่นตาตื่นใจอย่างมาก ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากธุรกิจเทคโนโลยี และนโยบายส่งเสริมจากทางรัฐบาล
“ตอนนี้เรากำลังมุ่งเน้นการลงทุนไปที่อินเดียมากขึ้นเรื่อยๆ ในหลายมุม ผมเรียกที่นี่ว่าสหรัฐอเมริกาในอินเดีย เพราะแต่ละรัฐในประเทศอินเดียมีความแตกต่างกันมาก รัฐหนึ่งแตกต่างจากอีกรัฐหนึ่ง และนั่นเป็นการสร้างโอกาสในการเติบโตที่เหลือเชื่อ อินเดียเป็นตลาดเกิดใหม่ที่น่าตื่นเต้นมาก” โมเบียสกล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- ‘มาร์ก โมเบียส’ มองจีนโอกาสลงทุนชั้นดี ท่ามกลางวิกฤตตึงเครียดยูเครน
- ข่าวร้ายเต็มตลาด! มาร์ก โมเบียส เชื่อว่า Bitcoin ยังไม่ถึงจุดต่ำสุด ขณะที่จีนออกโรงเตือนว่าราคาจะลงไปเหลือศูนย์
- ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากเปิดเมือง มาร์ก โมเบียส คาดจีนอาจผ่อนปรนนโยบาย Zero-COVID ภายในสิ้นปี 2022 เพื่อพยุงเศรษฐกิจ
มาร์ก โมเบียส นักลงทุนรุ่นเก๋าผู้ชำนาญด้านการลงทุนตลาดเกิดใหม่ มองตลาดหุ้นอินเดียโดดเด่นสุดในกลุ่มตลาดเกิดใหม่ ชี้จุดเด่นแต่ละรัฐมีธุรกิจหลากหลายเทียบชั้นสหรัฐอเมริกา ทำให้มีโอกาสเติบโตแบบก้าวกระโดด ชูหุ้นเทคน่าสนใจสุด หลังบิ๊กเทคสหรัฐฯ ย้ายฐานการผลิตฮาร์ดแวร์ ส่วนตลาดหุ้นเกิดใหม่ที่น่าสนใจรองลงมาคือไต้หวัน
มาร์ก โมเบียส ผู้ก่อตั้ง Mobius Capital Partners และนักลงทุนรุ่นเก๋าที่สร้างชื่อเสียงให้กับตัวเองด้วย Franklin Templeton Investments กล่าวกับสำนักข่าว CNBC เมื่อเร็วๆ นี้ว่า ตลาดหุ้นอินเดียกำลังเป็นตลาดที่เติบโตอย่างน่าตื่นตาตื่นใจอย่างมาก ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากธุรกิจเทคโนโลยี และนโยบายส่งเสริมจากทางรัฐบาล
“ตอนนี้เรากำลังมุ่งเน้นการลงทุนไปที่อินเดียมากขึ้นเรื่อยๆ ในหลายมุม ผมเรียกที่นี่ว่าสหรัฐฯ ในอินเดีย เพราะแต่ละรัฐในประเทศอินเดียมีความแตกต่างกันมาก รัฐหนึ่งแตกต่างจากอีกรัฐหนึ่ง และนั่นเป็นการสร้างโอกาสในการเติบโตที่เหลือเชื่อ อินเดียเป็นตลาดเกิดใหม่ที่น่าตื่นเต้นมาก” โมเบียสกล่าว
โมเบียสกล่าวอีกว่า นักลงทุนที่มองหาโอกาสจากการลงทุนจะได้รับผลตอบแทนที่คุ้มค่าความเสี่ยงในตลาดหุ้นอินเดีย โดยเฉพาะหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี
“มีบริษัทระดับโลกหลายแห่งของอินเดียที่อยู่ในธุรกิจซอฟต์แวร์ ยกตัวอย่างบริษัทที่เป็นที่รู้จักกันดี ก็คือ Tata ซึ่งเป็นบริษัทอินเดียที่ทำธุรกิจระดับโลก บริษัทนี้มีธุรกิจมากมายและหลากหลาย ตั้งแต่บริการให้คำปรึกษาด้านเทคโนโลยีสารสนเทศไปจนถึงธุรกิจยานยนต์”
นอกจากนี้ยังมีบริษัทสัญชาติอินเดียที่ใหญ่มากในตลาดซอฟต์แวร์ระดับโลกกำลังเข้าสู่ธุรกิจฮาร์ดแวร์ระดับโลกเช่นกัน ซึ่งเป็นผลสืบเนื่องมาจากบริษัท Apple ซึ่งเป็นยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยี ตระหนักถึงความจำเป็นในการกระจายฐานการผลิตและย้ายฐานการผลิตมายังประเทศในเอเชียใต้
ทั้งนี้ ตลอด 2 ปีที่ผ่านมา ตลาดหุ้นอินเดียเติบโตขึ้นอย่างมาก โดยดัชนี Nifty 50 และ BSE Sensex เพิ่มขึ้นมากกว่า 20% ในปี 2021 อย่างไรก็ตาม ข้อมูลตั้งแต่ต้นปีจนปัจจุบัน ดัชนีสำคัญทั้ง 2 ดัชนีปรับตัวมาอยู่ในแดนลบเช่นเดียวกับตลาดหุ้นทั่วโลก เนื่องจากนักลงทุนลดสัดส่วนลงทุนในตลาดสินทรัพย์เสี่ยง และเข้าลงทุนในสินทรัพย์ปลอดภัย เพื่อลดทอนความเสียหายที่อาจะเกิดขึ้นในตลาดหุ้น หลังจากมีสัญญาณเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย เงินเฟ้อหลายประเทศสำคัญเร่งตัวสู่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ รวมถึงการกลับทิศทางของนโยบายการเงินจากผ่อนคลายเป็นเข้มงวด สะท้อนจากการทยอยประกาศปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางประเทศสำคัญหลายประเทศ
สำหรับตลาดเกิดใหม่อื่นๆ โมเบียสกล่าวว่า ตลาดหุ้นไต้หวันก็มีความน่าสนใจ จากความโดดเด่นของหุ้น TSMC ซึ่งเป็นแหล่งผลิตชิป รวมถึงข้อดีของการเป็นดินแดนที่มีทุกส่วนที่ดีที่สุดของวัฒนธรรมจีน สังคมเปิดกว้าง และเป็นดินแดนที่มีความคิดสร้างสรรค์ที่เหลือเชื่อ
“ซอฟต์แวร์จำนวนมากที่ใช้กับชิปถูกสร้างขึ้นในไต้หวัน และนั่นคือสิ่งที่เรากำลังมุ่งเน้น” โมเบียสกล่าว
อ้างอิง: