หลายประเทศเริ่มทยอยแบนผู้ที่เดินทางมาจากสหราชอาณาจักร หลังโควิดกลายพันธ์ุ สายพันธุ์เดลตาระบาดหนัก

วันนี้ (1 กรกฎาคม) หลายประเทศเริ่มทยอยออกมาตรการแบนผู้ที่เดินทางมาจากสหราชอาณาจักรแล้ว หลังจากสหราชอาณาจักรกลายเป็นพื้นที่เสี่ยงติดเชื้อโควิดกลายพันธ์ุ โดยเฉพาะสายพันธุ์เดลตา (B.1.617.2) ที่กำลังแพร่ระบาดอย่างหนักอยู่ในขณะนี้ ซึ่งผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่ราว 90% อยู่ในสหราชอาณาจักร

โปรตุเกสและมอลตาได้เริ่มดำเนินมาตรการดังกล่าวแล้ว โดยผู้ที่เดินทางมาจากสหราชอาณาจักรจะต้องกักตัวเป็นเวลา 14 วัน หากไม่สามารถยืนยันได้ว่า ตนเข้ารับการฉีดวัคซีนโควิดครบทั้งสองโดสก่อนที่จะเดินทางเข้าประเทศได้ ซึ่งทางการมอลตาอนุญาตให้เฉพาะผู้ที่ฉีดวัคซีนครบโดสแล้วเดินทางเข้าประเทศได้ตั้งแต่เมื่อวาน

ขณะที่ทางการสเปนก็ดำเนินมาตรการคล้ายคลึงกัน สำหรับผู้ที่เดินทางมาจากสหราชอาณาจักรหากต้องการเดินทางเข้าสเปนจะต้องฉีดวัคซีนครบโดสแล้ว หรือมีใบรับรองผลการตรวจเชื้อยืนยันว่ามีผลตรวจเป็นลบ ไม่พบการติดเชื้อ ก่อนเดินทางเข้าประเทศ

ส่วนฮ่องกงก็เป็นอีกหนึ่งชาติที่จัดให้สหราชอาณาจักรอยู่ในกลุ่มประเทศที่มีความเสี่ยงสูงมาก ร่วมกับ บราซิล, อินเดีย, อินโดนีเซีย, เนปาล, ปากีสถาน, ฟิลิปปินส์ และแอฟริกาใต้ โดยทางการฮ่องกงประกาศเริ่มแบนไฟลต์การเดินทางจากสหราชอาณาจักรทั้งหมด ห้ามลงจอดในฮ่องกง ตั้งแต่ 00.00 น. ของวันนี้

ทางด้านประเทศสมาชิกสหภาพยุโรปก็กำลังพิจารณาในแนวทางเดียวกันนี้ โดยมีนายกรัฐมนตรี อังเกลา แมร์เคิล ของเยอรมนี เป็นผู้สนับสนุนหลักในการจำกัดการเดินทางเข้าประเทศสมาชิกสหภาพยุโรปของบรรดาผู้ที่เดินทางมาจากสหราชอาณาจักรในระยะนี้ เนื่องจากมีความเสี่ยงที่อาจจะทำให้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิดภายในภูมิภาคนี้รุนแรงขึ้นมาอีกระลอกได้ โดยทั้งสหราชอาณาจักรและสหภาพยุโรปกำลังอยู่ในระหว่างการเจรจาประเด็นการใช้วัคซีนพาสปอร์ตร่วมกัน

เนื่องจากความสามารถของเชื้อกลายพันธ์ุที่ดูเหมือนจะแพร่กระจายเชื้อและมีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น ทำให้วัคซีนโควิดหลายตัวอาจรับมือเชื้อกลายพันธ์ุนี้ได้ค่อนข้างลำบาก ทางการในหลายประเทศจึงเริ่มทยอยพิจารณาถึงมาตรการแบนผู้ที่เดินทางมาจากพื้นที่ที่มีความเสี่ยงสูง เพื่อลดความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นตามมาภายในประเทศนั้นๆ

บทความที่เกี่ยวข้อง:

ภาพ: Jens Kalaene / picture alliance via Getty Images

พิสูจน์อักษร: ชนเนตร ลอยครุฑ

อ้างอิง: