×

ฝืดในสนามไม่เป็นไร ตราบใดที่ฟอร์มใน Wall Street ของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยังร้อนแรง!

16.09.2022
  • LOADING...

ถึงผลงานของ ‘ปีศาจแดง’ แมนเชสเตอร์ ​ยูไนเต็ด จะเริ่มดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดในช่วงเดือนที่ผ่านมา แต่ถ้าเทียบกับความยิ่งใหญ่ในอดีตแล้วต้องบอกว่าห่างไกลกันมาก เพียงแต่ดูเหมือนทีมดังของอังกฤษจะไม่ได้กังวลอะไรขนาดนั้น เมื่อผลงานในตลาดหุ้นของพวกเขายังสุดยอดเหมือนเดิม

 

เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ชวนให้น่าประหลาดใจอยู่ไม่น้อย เพราะอย่างที่สาวกเรดอาร์มี (แฟนๆ ของทีม) จะช้ำใจกันมานานกับผลงานของทีมซึ่งได้แชมป์รายการสุดท้ายต้องย้อนกลับไปไกลถึงเมื่อ 5 ปีที่แล้ว และเป็นถ้วยที่ไม่มีใครอยากแลอย่างยูฟ่ายูโรปาลีก ส่วนแชมป์พรีเมียร์ลีกต้องย้อนไปไกลกว่าถึงปี 2013 แต่ดูเหมือนในตลาดหุ้นนิวยอร์กพวกเขาโชว์ฟอร์มได้ดีกว่าทีมจริงๆ ในสนามมาก

 

โดยตามรายงานจาก CNN Business เปิดเผยว่า หุ้นของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (MANU) มีมูลค่าเพิ่มขึ้น 3 เปอร์เซ็นต์ในปีนี้ ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายเลยสำหรับตลาดหุ้นที่โหดแบบนี้ นอกจากนี้พวกเขายังโตขึ้นเกือบ 35 เปอร์เซ็นต์ ในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา

 


ข่าวที่เกี่ยวข้อง:


 

เรื่องนี้มันเกิดขึ้นได้อย่างไร? 

 

ความจริงแล้วมาจากเหตุผลหลายอย่างประกอบเข้าด้วยกัน แต่หนึ่งในเหตุผลสำคัญมาจากทวีตเดียวของ อีลอน มัสก์ ที่พูดล้อเล่น (หรือคิดจริงก็ไม่มีใครรู้) ซีอีโอแห่ง Tesla (TSLA) และ SpaceX ว่าเขาสนใจที่จะซื้อทีมที่ครองแชมป์ลีกสูงสุดของอังกฤษมากที่สุดถึง 20 สมัย

 

ถึงแม้ว่ามัสก์จะออกมาแก้ข่าวอย่างรวดเร็วว่าเขาไม่ได้คิดที่จะซื้อหุ้นของแมนฯ ยูไนเต็ดจริงๆ แต่ท่าทีของเขารวมกับฟอร์มของทีมที่เลวร้ายสุดๆ ในช่วงเปิดฤดูกาลใหม่ 2022/23 ด้วยการแพ้ติดต่อกันถึง 2 นัด ทำให้ เซอร์จิม แรตคลิฟฟ์ ซีอีโอยักษ์ใหญ่ของโลกอย่าง Ineos ซึ่งเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในอังกฤษ เปิดตัวอย่างชัดเจนว่าต้องการจะซื้อสโมสรฟุตบอลซึ่งเป็นทีมในดวงใจมาตั้งแต่เด็ก หากครอบครัวเกลเซอร์ ซึ่งเป็นเจ้าของทีมและเป็นเจ้าของทีมอเมริกันฟุตบอลแทมปา เบย์ บัคคาเนียร์ส (ที่มี ทอม เบรดี G.O.A.T. อยู่ในทีม!) ต้องการจะขาย

 

ท่าทีของมัสก์ต่อด้วยเซอร์จิม แรตคลิฟฟ์ ทำให้แมนฯ ยูไนเต็ดยังดูน่าสนใจเหมือนเดิม ไม่นับเรื่องที่สโมสรยังมีซูเปอร์สตาร์ที่โด่งดังที่สุดคนหนึ่งของโลกอย่าง คริสเตียโน โรนัลโด อยู่ด้วย ก็ยิ่งทำให้ภาพของพวกเขาดูดีในสายตานักลงทุน พร้อมปัจจัยหนุนอย่างผลงานที่เริ่มเข้าที่เข้าทางขึ้นหลังการมาของผู้จัดการทีมคนใหม่อย่าง เอริค เทน ฮาก

 

อีกเหตุผลสำหรับนักลงทุนที่ฟังดูดีและเข้าใจง่ายว่าทำไมการลงทุนกับทีมกีฬาจึงคุ้มค่าที่จะเสี่ยงเสมอ คือการที่ทีมกีฬาเหล่านี้ยังทำรายได้มหาศาลอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะกับสโมสรอย่างแมนฯ ยูไนเต็ด ที่ถือเป็นทีมระดับสุดยอดของโลก เป็นโกลบอลแบรนด์ที่มีช่องทางในการหารายได้มากมายมหาศาล โดยเฉพาะจากสปอนเซอร์และค่าลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสด

 

เรื่องนี้ คริสโตเฟอร์ ซูค ประธานบริษัทการลงทุน CAZ ที่ลงทุนด้านกีฬาโดยเฉพาะ ยังให้ความเห็นประกอบด้วยว่า ถึงแฟนๆ จะออกอาการไม่พอใจอยู่บ้าง แต่ผู้ชมในโอลด์แทรฟฟอร์ดก็แทบไม่ได้ลดลงเลย “แน่นอนว่าถ้าจบด้วยการเป็นที่สุดท้ายของการแข่งขัน มันก็กระทบต่อยอดจำหน่ายตั๋วบ้าง

 

“แต่เหตุผลที่ทำให้เราสนใจในกีฬาและให้ความสำคัญเป็นลำดับแรกเพราะว่ามันทำเงินมากมายมหาศาล” ซูค ซึ่งลงทุนกับ Fenway Sports Group บริษัทที่เป็นเจ้าของทีมเบสบอลบอสตัน เรด ซอกซ์ รวมถึงลิเวอร์พูล คู่ปรับตลอดกาลของแมนฯ ยูไนเต็ดเผย

 

ในวงการกีฬา แมนฯ ยูไนเต็ดเป็นไม่กี่ทีมที่อยู่ในตลาดหุ้น แต่ก็ยังพอมีทีมกีฬา (หรือสำหรับชาวอเมริกันที่เรียกว่าแฟรนไชส์) อื่นๆ เช่น นิวยอร์ก นิกส์ ทีมบาสเกตบอลเอ็นบีเอ (NYSE) ซึ่งเป็นของบริษัท เมดิสัน สแควร์ การ์เดน สปอร์ตส, แอตเแลนตา เบรฟส์ (BATRA) ทีมเบสบอลในเมเจอร์ลีกเบสบอล อยู่ในตลาดหุ้น Nasdaq ซึ่งเป็นของบริษัท ลิเบอร์ตี มีเดีย

 

ขณะที่ในวงการฟุตบอลยุโรปด้วยกันมีโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ทีมดังเยอรมนีที่อยู่ในตลาดหุ้นแฟรงก์เฟิร์ต และยูเวนตุส ทีมดังของอิตาลีที่อยู่ในตลาดหุ้นมิลาน

 

อ้างอิง

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising