วันนี้ (20 ธันวาคม) แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พร้อม สุทิน คลังแสง อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะ สส. มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย และคณะ ลงพื้นที่ประตูระบายน้ำห้วยน้ำเค็ม (D5) อำเภอโกสุมพิสัย จังหวัดมหาสารคาม เพื่อตรวจติดตามการแก้ไขปัญหาอุทกภัยลุ่มน้ำชีและการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่ ในโครงการปรับปรุงพนังป้องกันตลิ่งและขุดลอกคลองระบายน้ำ ประตูระบายน้ำห้วยน้ำเค็ม (D5) ซึ่งจะดำเนินการแล้วเสร็จในปี 2568
นายกรัฐมนตรีเยี่ยมชมเกษตรกรรมแปลงนาปรัง ซึ่งเป็นพื้นที่ใช้ประโยชน์จากการแก้ไขและพัฒนา และทดลองหว่านข้าวพันธุ์ กข.61 และ กข.89 ลงแปลงนา พร้อมกล่าวกับประชาชนที่มารอต้อนรับว่า ขอบคุณสำหรับการต้อนรับที่อบอุ่นที่เป็นกำลังใจให้ทั้งตัวดิฉันและ สส. ทุกท่าน ถ้ามีปัญหาเดือดร้อนอะไรให้บอก สส. พรรคเพื่อไทยได้หมดทุกคน เขาจะเป็นตัวแทนแก้ปัญหาให้กับพี่น้องประชาชน วันนี้ดีใจมากที่สุด ปีนี้ปัญหาน้ำท่วม-น้ำแล้งจะถูกแก้ไข
“สมัยคุณพ่อให้งบประมาณมาสร้างประตูน้ำแห่งนี้ ผ่านมา 20 ปี มาถึงลูกสาว ได้ทำงบซ่อมแซมพอดี ดีใจที่จะเสร็จปีนี้ เพราะปัญหาน้ำท่วม-น้ำแล้งจะได้ถูกแก้ปัญหา” นายกรัฐมนตรีกล่าว
นายกรัฐมนตรีกล่าวอีกว่า ใครได้ไร่ละพันแล้วบ้าง ใครได้เงินหมื่นแล้วบ้าง ใครเป็นหนุ่มเป็นสาวจะยังไม่ได้ เพราะกลุ่มต่อไปอายุ 60 ปี ถ้าลงทะเบียนไว้รอเลย มาก่อนตรุษจีนและไม่ได้มาในซองแดง แต่ผ่านบัญชีเป็นเงินสด ซึ่งเงินหมื่นมีทั้งหมด 3 รอบ ถ้าเด็กอายุยังไม่ถึงยังไม่ได้
ผุดไอเดียขยายโอกาสเด็กเรียนต่างประเทศ
ต่อมานายกรัฐมนตรีเดินทางมายังมหาวิทยาลัยมหาสารคามเพื่อติดตามประเด็นโครงการหนึ่งอำเภอหนึ่งทุนการศึกษา (ODOS) และโครงการพัฒนาศักยภาพของหมู่บ้านและชุมชน (SML) ซึ่งตรงกับวัน Open House ของมหาวิทยาลัยพอดี
นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า รู้สึกดีใจที่ได้มาเจอน้องๆ ตอนเดินเข้ามามีโอกาสเห็นผลงานของนิสิตทุกท่านที่สามารถต่อยอดได้ในอนาคต ซึ่งรัฐบาลแถลงผลงาน 90 วันว่า ปี 2568 จะเป็นปีแห่งโอกาส นโยบายทุนการศึกษาจะกลับมา ที่เรียกว่า 1 อำเภอ 1 ทุน หรือสั้นๆ ว่า ODOS เป็นการกระจายทุนการศึกษาให้ถึง 878 อำเภอทั่วประเทศ รวมทั้งอีก 50 เขตของกรุงเทพมหานครด้วย ซึ่งไม่ใช่แค่ทุนในประเทศแต่เป็นทุนที่สามารถเรียนต่างประเทศด้วย
“พี่ไม่ใช่เด็กที่เรียนเก่ง เรียนกลางๆ นั่งหลังห้อง ไม่ได้เรียบร้อยเท่าไร และคิดว่าอยากให้ทุนการศึกษาถึงน้องๆ ทุกคน แต่เด็กที่เรียนกลางๆ ไม่เรียน Top เราจะตัดโอกาสนี้เลยเหรอ พี่เลยคิดขึ้นมาจากแพสชันของตัวเองว่าอยากให้น้องๆ มีโอกาสไปเรียนต่างประเทศ เป็นโอกาสที่รัฐบาลให้น้องๆ ไปเมืองนอก ได้ไปเรียน ไปรู้วัฒนธรรมของเขา นี่คือสิ่งที่จะเกิดขึ้นในปีนี้ เด็กๆ ที่ได้รับทุนก็จะมีโอกาสเพิ่มขึ้น ครอบครัวก็มีโอกาสเพิ่มขึ้น นี่คือสิ่งที่รัฐบาลมองเห็น” นายกรัฐมนตรีกล่าว
ต่อมานายกรัฐมนตรีเดินทางไปยังสถาบันขงจื๊อ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม เยี่ยมชมสินค้า OTOP ขึ้นชื่อของจังหวัดมหาสารคาม ก่อนที่จะพบปะกับกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และตัวแทนชุมชนในพื้นที่จังหวัดมหาสารคาม
