เมื่อปัจจุบันโลกของการทำงานที่หลายคนเคยรู้จักได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างมากมาย ยิ่งภายหลังจากที่ทั่วโลกต้องเผชิญกับการระบาดใหญ่ของโควิด-19 ผลกระทบที่เกิดขึ้นตามมาจึงส่งผลให้พนักงานผู้มีศักยภาพสูงนั้นเป็นทรัพยากรที่สำคัญยิ่งสำหรับทุกองค์กร ดังนั้นการดึงให้พนักงานที่เป็น Tatent ให้ผูกพันกับองค์กรนั้นก็ย่อมมีส่วนสำคัญอย่างยิ่งที่จะช่วยเตรียมองค์กรให้พร้อมรับมือกับอนาคต เนื่องจากปัจจุบันนี้นอกจากความมั่นคงแล้ว คนรุ่นใหม่ผู้มีศักยภาพต่างก็มองหาองค์กรที่ให้คุณค่าเช่นเดียวกันกับพวกเขา ซึ่งมีวัฒนธรรมองค์กรและพันธกิจต่างไปจากในยุคก่อน และเมื่อเร็วๆ นี้เรามีตัวอย่างกรณีศึกษาที่น่าสนใจจากการมอบรางวัลนายจ้างยอดเยี่ยมประจำปี Kincentric Best Employers Thailand Awards 2022 ซึ่งจัดอันดับจากหลายๆ ปัจจัย ตลอดจนสอบถามความเห็นของพนักงานที่อยู่ภายในองค์กรนั้นๆ หนึ่งในนั้นมีบริษัท Maersk Thailand ที่ได้รับรางวัลองค์กรสุดยอดนายจ้างดีเด่น เพราะเหตุใดทำไมบริษัทสาขาในประเทศไทยของบริษัทโลจิสติกส์ระดับโลกแห่งนี้จึงคว้ารางวัลนี้มาครองได้สำเร็จ THE STANDARD จะขอพาทุกคนไปร่วมค้นหาคำตอบกัน
รางวัลสุดยอดนายจ้างยอดเยี่ยมคืออะไร องค์กรแบบไหนที่จะได้รับรางวัล
บริษัท Maersk Thailand & Siam Shoreside Services
คว้ารางวัลนายจ้างยอดเยี่ยม
‘Kincentric Best Employers Thailand Awards 2022’
จากการที่ Kincentric ผู้เชี่ยวชาญด้านวัฒนธรรมองค์กรและบริการให้คำปรึกษาเกี่ยวกับทรัพยากรบุคคล ได้ร่วมกับสถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจศศินทร์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จัดงานประกาศรางวัล ‘Kincentric Best Employers Thailand Awards Ceremony and Learning Conference 2022’ โดยการสำรวจความคิดเห็นของพนักงาน และยึดหลักเกณฑ์สำคัญที่เป็นปัจจัยของบุคลากร 4 ด้าน ได้แก่
- Employee Engagement การมีส่วนร่วมของพนักงาน
- Agilityพนักงานเห็นว่าองค์กรมีการปรับตัวสูง มีนวัตกรรมครอบคลุม ตอบสนองต่อความต้องการที่เปลี่ยนแปลงของลูกค้า
- Engaging Leadership ผู้นำมีความเชื่อมโยงอย่างลึกซึ้งกับพนักงาน เพื่อกระตุ้นการมีส่วนร่วม สื่อสารวิสัยทัศน์ที่ชัดเจนและมีคุณค่า
- Talent Focus องค์กรมุ่งดึงดูดและรักษาผู้มีความสามารถยอดเยี่ยม สร้างสภาพแวดล้อมที่ดี สร้างแรงบันดาลใจให้ผู้คนสามารถเติบโตได้
จากกว่า 90 องค์กรที่เข้าร่วมการประเมิน
Maersk เป็น 1 ใน 11 องค์กรที่โดดเด่นจนได้รับรางวัลนายจ้างยอดเยี่ยมประจำปี 2022 ได้สำเร็จ ทั้งๆ ที่เพิ่งเข้าร่วมการประเมินในปีแรกเท่านั้น
ทั้งนี้ในปีนี้มีองค์กรกว่า 90 แห่งที่เข้าร่วมการประเมิน จนผลออกมาว่าปีที่เพิ่งผ่านมามีอยู่ด้วยกันเพียง 11 องค์กรที่ได้รับรางวัล ‘สุดยอดนายจ้างดีเด่น แห่งประเทศไทย ประจำปี 2022’ โดยจากเกณฑ์การประเมินดังกล่าว จึงทำให้เชื่อมั่นได้ว่าองค์กรสุดยอดนายจ้างที่ไม่ธรรมดาเหล่านี้ให้ความสำคัญกับประสบการณ์ของลูกจ้าง ทั้งยังมีความโดดเด่นเหนือกว่าองค์กรอื่นๆ มีทั้งความพร้อม และสามารถสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันได้อย่างยั่งยืน หนึ่งในองค์กรที่ได้รับรางวัลดังกล่าว ทั้งๆ ที่เพิ่งเข้าร่วมรับการประเมินแข่งขันรับรางวัลนี้เป็นปีแรกเท่านั้นคือ บริษัท Maersk Thailand & Siam Shoreside Services ที่อยู่ภายในเครือของบริษัทโลจิสติกส์ระดับโลก อย่าง A.P. Moller – Maersk หลายคนอาจจะนึกสงสัยว่าเพราะอะไรที่ทำให้เมอส์ก ประเทศไทย ได้รับรางวัลดังกล่าวนี้มา ซึ่งนั่นก็เป็นผลสืบเนื่องมาจากวิสัยทัศน์ วิถีการดำเนินธุรกิจ และวัฒนธรรมองค์กรของเมอส์กบริษัทแม่นั่นเอง
THE STANDARD คิดว่านี่เป็นกรณีศึกษาที่ดีมากๆ ของบริษัทระดับโลก ที่แม้จะมีอายุเกินศตวรรษ แต่ก็มีวิสัยทัศน์ปรับเปลี่ยนให้เข้ากับโลกสมัยใหม่ได้อย่างลงตัว จนประสบความสำเร็จได้ตลอดมา จนบริษัทในเครือที่ดำเนินงานในประเทศไทย อย่าง Maersk Thailand & Siam Shoreside Services ก็ยังเป็นเจ้าของรางวัล ‘สุดยอดนายจ้างดีเด่น’ ซึ่งรับรองว่าคนรุ่นใหม่ๆ หลายๆ คน อย่างผู้อ่านของเรา เมื่อได้ทราบเรื่องราวของเมอส์ก น่าจะอยากทำงานด้วยไม่น้อยเลย
รู้จักกับ ‘Maersk’ บริษัทที่มีอายุมากกว่าศตวรรษ ทว่ายังคงเป็นบริษัทโลจิสติกส์ระดับโลกที่ประสบความสำเร็จ ทันต่อความเปลี่ยนแปลงของยุคสมัย
A.P. Moller – Maersk หรือที่หลายคนอาจจะรู้จักกันดีในนาม ‘เมอส์ก’ เป็นบริษัทเดินเรือสัญชาติเดนมาร์ก ที่ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 1904 หรือราว 118 ปีที่แล้ว ดำเนินงานด้านการขนส่งสินค้าทางทะเล ทางบก และทางอากาศ รวมถึงบริการที่เกี่ยวข้องอย่าง ‘ครบวงจร’ โดยถือได้ว่า Maersk เป็นหนึ่งในผู้ให้บริการขนส่งตู้คอนเทนเนอร์และสายการเดินเรือที่ใหญ่ที่สุดในโลก บริษัทแม่ของเมอส์กตั้งอยู่ในโคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ก ปัจจุบันมีบริษัทสาขาและสำนักงานในกว่า 130 ประเทศ และพนักงานถึงกว่า 95,000 คนทั่วโลก มีลูกค้าทั้งรายใหญ่และเล็กนับ 100,000 รายทั่วโลก ครอบครองคอนเทนเนอร์ขนส่งกว่า 4.5 ล้านตู้ทั่วโลก (ทั้งรถบรรทุก รถไฟ และเรือ)
เรียกได้ว่าเป็นบริษัทโลจิสติกส์ระดับโลกที่มีความสำคัญอันดับต้นๆ ของโลกเลยทีเดียว ซึ่งแน่นอนว่าสินค้าหลายๆ อย่างที่เราทุกคนต่างก็ใช้งานและบริโภคกัน ย่อมจะต้องมีที่ได้รับการขนส่งผ่านเมอส์กมาด้วยแน่ๆ โดยหากจะกล่าวถึงธุรกิจในเครือของเมอส์กนั้น แยกออกเป็นกลุ่มธุรกิจคร่าวๆ ดังนี้
- ธุรกิจขนส่งสินค้าทางทะเล (Ocean) มีให้บริการทั้งรูปแบบตู้ขนส่งสินค้า Container และแบบ Bulk Cargo โดยปัจจุบันบริษัทมีเรือให้บริการทั้งสิ้นมากกว่า 730 ลำ แต่ละปีมีการขนส่งคอนเทนเนอร์มากกว่า 120 ล้านตู้
- ธุรกิจบริการขนส่งและให้บริการครบวงจร (Logistics & Services Segment) ไม่ว่าจะเป็นการบริหารสินค้าคงคลัง บริการโกดังสินค้าแก่โรงงาน ตลอดจนบริการด้านกระบวนการศุลกากร
- ธุรกิจให้บริการท่าเรือและบริการที่เกี่ยวข้องกับท่าเรือ (Terminals & Towage Segment) เมอส์กไม่ได้เป็นเจ้าของท่าเรือ แต่เป็นผู้ประกอบการที่เชี่ยวชาญในการดูแลท่าเรือ (Operator) โดยปัจจุบันมีท่าเรือที่เมอส์กเป็นผู้ให้บริการทั้งสิ้น 68 แห่งในทุกทวีปทั่วโลก
- กลุ่มธุรกิจผลิตตู้คอนเทนเนอร์ (Manufacturing & Others) เพื่อใช้ในกลุ่มธุรกิจ และผลิตให้ภายนอก ปัจจุบันมีฐานการผลิตอยู่ที่ประเทศจีน กลุ่มธุรกิจนี้สามารถผลิตตู้คอนเทนเนอร์เพื่อส่งมอบแก่บริษัทในเครือและภายนอกได้เป็นจำนวนมากในแต่ละปี
ปัจจัยอะไรบ้างที่ทำให้ Maersk ได้รับรางวัลสุดยอดนายจ้างดีเด่นประจำปี 2022
จากจุดมุ่งหมายหลักขององค์กร
เมอส์กมุ่งมั่นที่จะพัฒนาคุณภาพชีวิตให้กับทุกคนบนโลก
โดยมีความเชื่อว่าโลกทั้งใบสามารถเชื่อมต่อกันได้
ดังที่ได้เล่าให้อ่านไปแล้วในตอนต้นว่าความคิดเห็นของพนักงานถือเป็นส่วนสำคัญหนึ่งที่มีผลต่อการที่องค์กรจะได้รับรางวัลหรือไม่ ซึ่งแน่นอนว่าบริษัทที่ได้รับรางวัลนี้ พนักงานย่อมต้องมีทัศนคติเชิงบวกต่อองค์กรไม่น้อย ซึ่งเราอาจจะสามารถจำแนกออกมาได้หลายประเด็นดังนี้
- ภาพรวมของธุรกิจมีการเติบโตที่ดี: เพราะการเติบโตของธุรกิจขนส่งสินค้าระหว่างประเทศยังคงเติบโตต่อเนื่องตามโลกาภิวัตน์ (Globalization) ถึงแม้โลกจะได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 แต่หากมองดูด้วยสถานการณ์ที่กระเตื้องขึ้นแล้ว การขนส่งทางเรือก็ยังน่าจะยังเป็นทางเลือกอันดับ 1 ในระยะยาว ด้วยต้นทุนการส่งสินค้าที่ต่ำกว่าการขนส่งทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นถนนหรือราง และยังมีการขนส่งแลกเปลี่ยนสินค้าอยู่ทั่วทุกมุมโลก จึงทำให้เมอส์กเป็นธุรกิจที่มั่นคงในระยะยาว ซึ่งประเด็นนี้เป็นหนึ่งในประเด็นหลักที่ทำให้พนักงานของเมอส์กรู้สึกพึงพอใจและรู้สึกในแง่บวกต่อบริษัท
- โอกาสในการโยกย้ายของบุคลากรผู้มีความสามารถ (Talent Mobility): เนื่องจากเป็นบริษัทระดับโลกที่มีสาขาอยู่ทั่วโลก พนักงานของเมอส์กจึงมีโอกาสย้ายไปอยู่ที่ใดในโลกที่ตัวเองต้องการก็ได้ มีพนักงานชาวไทยทำงานอยู่ทั้งในประเทศเดนมาร์ก เนเธอร์แลนด์ สิงคโปร์ จีน ฮ่องกง สหรัฐอเมริกา และอื่นๆ อีกมากมาย ซึ่งสอดคล้องกับกระแสการโยกย้ายของบุคลากรรุ่นใหม่ที่มีความสามารถและแสวงหาคุณภาพชีวิตที่ดี และไม่เพียงแต่ประเทศกระแสหลักเท่านั้น เพราะเมอส์กมีสาขาอยู่ในกว่า 130 ประเทศทั่วโลก ทั้งนี้เมอส์กยังสนับสนุนเตรียมความพร้อมทั้งด้านภาษีการเรียนภาษาใหม่ยังประเทศที่จะไป ตลอดจนการปรับตัวให้กับทั้งพนักงานรวมถึงครอบครัวที่ติดตามไปด้วย แม้กระทั่งของใช้ส่วนตัวก็ยังช่วยขนส่งไปให้
- เป็นองค์กรที่ขับเคลื่อนด้วยจุดมุ่งหมายอันดี: จากจุดมุ่งหมายหลักขององค์กร เมอส์กมุ่งมั่นที่จะพัฒนาคุณภาพชีวิตให้กับทุกคน โดยมีความเชื่อที่ว่าโลกทั้งใบสามารถเชื่อมต่อถึงกันได้ การขนส่งแลกเปลี่ยนสินค้ายังสามารถช่วยสร้างการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรม นวัตกรรม และความไว้ใจซึ่งกันและกันได้ พนักงานชาวเมอส์กเชื่อว่างานที่พวกเขาทำนั้นเป็นมากกว่าแค่การขนย้ายอาหาร เสื้อผ้า ยา และสินค้าที่ทุกคนพึ่งพา ทว่าคือการรวมโลกเข้าไว้เป็นหนึ่งเดียวกัน ไม่ใช่แค่เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตและยกระดับความเจริญของโลกเท่านั้น แต่ยังสร้างให้เกิดความยั่งยืนสำหรับคนรุ่นถัดไปอีกด้วย ซึ่งแน่นอนว่าการที่องค์กรมีจุดมุ่งหมายหลักอันดีแบบนี้ ย่อมส่งผลต่อรายละเอียดอื่นๆ ในวิถีปฏิบัติการดำเนินงาน ทำให้พนักงานมีทัศนคติในแง่บวกต่อบริษัท
- ไม่เพียงแต่จุดมุ่งหมายหลัก (Core Purpose) จะมีคุณค่า ทว่าค่านิยม (Values) ก็ยังมีความหมาย: เมอส์กมีค่านิยมองค์กรที่แยกย่อยได้อีก 5 ข้อ ได้แก่ 1. Constant Care เอาใจใส่อย่างสม่ำเสมอทั้งต่อความท้าทายในวันนี้และปรับตัวสำหรับอนาคต ใส่ใจธุรกิจของคู่ค้า และทุกคนที่ร่วมงาน 2. Humbleness ถ่อมตน เปิดกว้าง เชื่อว่าการประสบความสำเร็จที่แท้จริงคือประสบความสำเร็จไปด้วยกัน 3. Uprightness ซื่อตรง โดยมองว่าบริษัทได้รับความไว้วางใจจากคู่ค้า ดังนั้นจึงรักษาสัญญา และซื่อตรงเสมอ 4. Our Employees พนักงานของเรา องค์กรมุ่งสร้างโอกาสในการเติบโต ชาวเมอส์กคว้าชัยชนะร่วมกันในฐานะสถานที่ทำงานระดับโลกที่มุ่งมั่นสร้างความเป็นส่วนรวม (Inclusive) 5. Our Name ชื่อของเรา พนักงานชาวเมอส์กภูมิใจในชื่อขององค์กร มุ่งมั่นสร้างสรรค์โลกที่ยั่งยืนผ่านงานที่พวกเขาทำ
- วัฒนธรรมองค์กรที่ยอมรับความหลากหลาย (Diversity): ด้วยความที่พนักงานของเมอส์กมีอยู่ทั่วโลก จึงเต็มไปด้วยผู้คนที่แตกต่างหลากหลาย ทั้งเชื้อชาติ ศาสนา ความเชื่อ อายุ ฯลฯ จึงเป็นเรื่องสำคัญที่บริษัทระดับโลกเช่นนี้จะต้องมีวัฒนธรรมองค์กรที่โอบรับความแตกต่าง (Inclusive) โดยเปิดรับทุกความเห็น ทุกคนในองค์กรมีความสำคัญเท่ากันหมด
- ปรับตัวพร้อมรับความเปลี่ยนแปลง: องค์กรให้ความสำคัญกับทั้งเทคโนโลยี และ Agility เพื่อให้ทันต่อความเปลี่ยนแปลง พร้อมรับกับอนาคต จึงได้มุ่งให้ทุกคนเติบโต และมุ่งรักษาคนที่เป็น Talent เอาไว้ รวมถึงสนับสนุนให้ทุกคนประสบความสำเร็จไปพร้อมๆ กัน ดังที่ ปกป้อง ปัทมะสุนทร Country HR Lead & People Partner, Thailand, Malaysia, Singapore) กล่าวว่า “ความสำเร็จเกิดขึ้นได้จากความร่วมแรงร่วมใจจากทุกๆ ส่วนภายในองค์กร สิ่งที่เราพยายามทำคือการเชื่อมต่อส่วนเล็กๆ เหล่านั้น และส่งเสริมให้พวกเขาเติบโตและมีศักยภาพได้ดีที่สุด ทั้งนี้ก็เพื่อสร้างเส้นทางสู่ความสำเร็จไปด้วยกัน”
- ให้ความสำคัญกับผู้นำที่มีความเชื่อมโยงอย่างลึกซึ้งกับพนักงาน: เพื่อกระตุ้นการมีส่วนร่วม สื่อสารวิสัยทัศน์ที่ชัดเจน ดังที่ นภัสร์วรรณ์ ชินรุ่งโรจน์ (Managing Director of Siam Shoreside Services: Maersk Associated Company) กล่าวไว้ว่า “ในช่วงเวลาที่ไม่แน่นอน องค์กรยิ่งต้องการผู้นำที่แข็งแกร่ง ผู้จะนำพาองค์กรฝ่าความกดดัน ความท้าทาย และความหวาดกลัวต่อสถานการณ์ไม่แน่นอน กุญแจสำคัญคือการจัดลำดับความสำคัญและการบริหารเวลาในขณะที่สามารถทำได้ ปรับตัวระหว่างที่ยังคงมีไดนามิกของการเปลี่ยนแปลง กับสื่อสารได้ว่าเราอยู่ที่ไหน ตลอดจนกำหนดทิศทางที่เราต้องการจะมุ่งไป ดูแลตัวเองให้ดี เพื่อที่จะยืนหยัดเคียงข้างผู้อื่นได้อย่างแท้จริง”
- โอกาสความก้าวหน้าของเส้นทางอาชีพ (Career Path): พนักงานสามารถสร้างเองได้ ไม่ได้ถูกบีบด้วยอายุงาน แต่เน้นกันที่ผลงาน ไม่ได้จำกัดว่าทำอะไรแล้วจะต้องทำสิ่งนั้นไปตลอด ตำแหน่งงานสามารถหมุนได้ตลอดเวลา และเมอส์กเองก็มีการสนับสนุนให้คนหมุนและพัฒนาศักยภาพของตัวเอง สนับสนุนให้พนักงานเติบโตอยู่ตลอด
ไม่น่าแปลกใจเลยว่าเมื่อมีการประกวดสุดยอดนายจ้างดีเด่นแล้ว
เมอส์กจะได้รับรางวัลนี้มาอย่างไร้ข้อกังขา
จากทั้งหมดดังกล่าว ไม่ว่าจะเป็นภาพรวมของธุรกิจที่มีความมั่นคง รวมถึงวัตถุประสงค์หลัก และค่านิยมขององค์กรของเมอส์กนั้น สะท้อนให้เห็นภาพขององค์กรสมัยใหม่ ซึ่งถือเป็นเรื่องน่าทึ่งที่บริษัทอายุกว่าศตวรรษแล้วยังมีจุดมุ่งหมายที่ดี ใส่ใจต่อทั้งธุรกิจ คู่ค้า สังคม คุณภาพชีวิตของทุกคน รวมไปถึงอนาคตของโลกและคนรุ่นถัดไป ฯลฯ ซึ่งสอดคล้องกับค่านิยมของคนรุ่นใหม่ที่มีความเป็น Global Citizen ทั้งหมดนี้เมื่อลงลึกไปในรายละเอียดแล้ว ยังสะท้อนให้เห็นถึงวิถีการดำเนินงานและวัฒนธรรมองค์กร การปฏิบัติระหว่างคู่ค้าและพนักงานภายในของเมอส์กเอง ทั้งนี้สิ่งต่างๆ ดังกล่าวยังสอดรับตอบโจทย์เป็นอย่างดีกับหลักเกณฑ์ของการมอบรางวัลนายจ้างยอดเยี่ยมประจำปี Kincentric Best Employers Thailand Awards 2022 จึงไม่น่าแปลกใจเลยว่าเมื่อมีการประกวดสุดยอดนายจ้างดีเด่นแล้ว เมอส์กจะได้รับรางวัลนี้มาอย่างไร้ข้อกังขา ซึ่งไม่เพียงแต่จะทำให้ให้บริษัทนี้สร้างความได้เปรียบทางการแข่งขันได้อย่างยั่งยืน ทว่ายังเป็นที่น่าชื่นชมและหมายปองของคนทำงานรุ่นใหม่ผู้มีศักยภาพ และมองเห็นในค่านิยมดีๆ คล้ายๆ กัน จนฝันว่าอยากจะร่วมเป็นส่วนหนึ่งขององค์กร