ถึงคิวของนักเดินทางชาวไทยที่จะได้สัมผัสประสบการณ์การพักผ่อนรูปแบบใหม่กับ ‘ไลฟ์ สุขุมวิท 8 บางกอก’ (lyf Sukhumvit 8 Bangkok) แบรนด์ไลฟ์แห่งแรกของเมืองไทยในเครือ The Ascott Limited ที่ปักหมุดเปลี่ยนโฉมการเดินทางของชาวมิลเลนเนียลส์ และนักเดินทางมาแล้วใน 9 ประเทศทั่วโลก ภายใต้คอนเซปต์ ‘Co-Living’ สถานที่ที่สามารถสร้างประสบการณ์เพื่อการใช้ชีวิต การทำงาน และการพักผ่อนพร้อมกัน
lyf (ไลฟ์) มาจากคำว่า ‘Live Your Freedom’ แนวคิดที่ถอดแบบจากไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของชาวมิลเลนเนียลส์ กลุ่มคนที่เป็นแรงขับเคลื่อนหลักในสังคม รักอิสระ ชอบการใช้ชีวิตที่เต็มไปด้วยสีสัน และพบปะเพื่อนใหม่อยู่เสมอ
‘ไลฟ์ สุขุมวิท 8 บางกอก’ จึงเป็นมากกว่าโรงแรมสำหรับการพักผ่อน แต่ยังสามารถปรับเปลี่ยนให้เป็นสถานที่ทำงานแบบ Work from Home ไปจนถึงแหล่งรวมพลของคนชอบทำกิจกรรมทั้งในและนอกสถานที่ ตามคอนเซปต์ของแบรนด์ที่มุ่งเน้นให้ผู้พักอาศัยได้มีส่วนร่วม โดยทางโรงแรมจะจับมือกับธุรกิจต่างๆ เช่น ศิลปะ เทคโนโลยี ดีไซน์ และสุขภาพ ร่วมกันจัดกิจกรรมต่างๆ เพื่อมอบประสบการณ์แปลกใหม่ให้กับผู้เข้าพัก
‘ไลฟ์ สุขุมวิท 8 บางกอก’ โรงแรม 8 ชั้น ออกแบบพื้นที่โซนหลักๆ ให้สอดคล้องไปกับไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของชาวมิลเลนเนียลส์ ได้แก่
- ชั้น 1 ‘Connect’ พื้นที่ทำงานและเลานจ์
โซนล็อบบี้ที่ดีไซน์พื้นที่เปิดโล่ง มีโต๊ะไม้ตัวยาวพร้อมปลั๊กไฟสำหรับเสียบชาร์จอุปกรณ์ต่างๆ ออกแบบมาให้เป็นพื้นที่สำหรับทำงาน แชร์ไอเดีย นั่งพูดคุย แลกเปลี่ยนประสบการณ์กับเพื่อนใหม่ - ชั้น 1 ‘Bond’ ครัวแบบ Social Kitchen
ห้องครัวขนาดใหญ่ที่จัดเตรียมอุปกรณ์ทำครัวครบครัน ไม่ว่าจะเป็น ตู้เย็น เตาอบ ไมโครเวฟ เครื่องล้างจาน เปิดพื้นที่ให้ชาวมิลเลนเนียลส์โชว์ฝีมือการทำอาหาร หรือจะแลกเปลี่ยนไอเดียและสูตรลับก็ยังได้ - ชั้น 2 ‘Wash & Hang’ โซนซักผ้าพร้อมพื้นที่พักผ่อนหย่อนใจ
พื้นที่ที่จะทำให้การซักผ้าของคุณสนุกยิ่งขึ้น เพราะระหว่างรอคุณสามารถชวนเพื่อนท้าแข่งที่โต๊ะฟุตบอลมือหมุน หรือจะพากันไปนั่งชิลๆ ตรงกำแพงเพนต์ลายกราฟฟิตี้ด้านนอก พูดคุยแลกเปลี่ยนประสบการณ์แปลกใหม่ก็ดี
- ชั้น 2 – ชั้น 8 ห้องพักแบบ ‘One of a Kind’ ขนาด 16 ตารางเมตร จำนวน 196 ห้อง
การตกแต่งแต่ละชั้นจะนำเอกลักษณ์ของย่านพระนครมาเป็นต้นแบบ เริ่มกันที่ ชั้น 2 จำลองบรรยากาศชุมชนย่านปากคลองตลาด ชั้น 3 ได้แรงบันดาลใจมาจากชุมชนท่าเตียนและวัดโพธิ์ ชั้น 4 ถอดแบบความงดงามของวัดพระแก้ว ในขณะที่ชั้น 5 ดึงเอกลักษณ์ของสนามหลวงหยอดไว้ตามมุมต่างๆ ชั้น 6 น่าจะถูกใจนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติโดยเฉพาะ เพราะตกแต่งด้วยธีมถนนข้าวสาร ส่วนชั้น 7 อบอวลไปด้วยบรรยากาศของป้อมพระสุเมรุ และชั้น 8 ถ่ายทอดเสน่ห์ของแม่น้ำเจ้าพระยา
- ที่นี่ยังมีห้อง Working Space ไว้บริการเผื่อนักเดินทางกลุ่มไหนต้องการพื้นที่ส่วนตัวสำหรับระเบิดไอเดีย ประชุมโปรเจกต์ สามารถจองผ่านแอป Discover ASR ได้ทันที คิดค่าบริการเป็นรายชั่วโมง
- ชั้นดาดฟ้า ‘Burn’ พื้นที่ออกกำลังกาย
สายเฮลตี้ต้องเลิฟโซนนี้ สนามหญ้ากลางแจ้งตอนเช้าถูกจัดให้เป็นพื้นที่สำหรับคลาสโยคะ ตกดึกชวนคุณเปลี่ยนบรรยากาศมาอาบแสงจันทร์ และออกกำลังกายไปพร้อมๆ กัน หรือใครอยากขึ้นมาชมวิวกรุงเทพฯ ยามค่ำคืนก็ไม่ผิดกติกา
และเพื่อให้สมกับเป็นที่พักของคนยุคใหม่ ทุกขั้นตอนตั้งแต่การจองที่พัก เช็กอิน เช็กเอาต์ เปิดประตูห้องพัก ไปจนถึงพูดคุยกับพนักงานเพื่อสอบถามข้อมูลหรือขอความช่วยเหลือ สามารถทำได้ผ่านแอป Discover ASR โดยมี ‘lyf guards’ (ไลฟ์การ์ด) ที่ไม่ได้ทำหน้าที่เพียงช่วยเหลือเรื่องการเช็กอิน เช็กเอาต์เท่านั้น แต่จะคอยให้คำปรึกษา แนะนำร้านอาหารเด็ดๆ แหล่งท่องเที่ยวห้ามพลาด รวมถึงกิจกรรมสนุกๆ ที่คุณสามารถมีส่วนร่วมได้ตลอดการเข้าพัก
ยังมีกิมมิกเล็กๆ ที่น่าจะถูกใจนักเดินทางสายอีโค เช่น อุปกรณ์ต่างๆ ภายในห้อง แปรงสีฟัน หวี มีดโกนหนวด เลือกใช้วัสดุที่ย่อยสลายง่าย รวมทั้งไม่มีบริการน้ำดื่มขวดพลาสติกในห้องพัก แต่จะให้เหยือกน้ำไปกดน้ำดื่มได้ฟรีตลอด 24 ชั่วโมงที่หน้าลิฟต์ของทุกชั้น
ก็เหมือนที่ ไบรอัน ตัน ผู้จัดการทั่วไป ประจำประเทศไทยและ สปป.ลาว บอกในงาน Reopening ว่า “การกลับมาเปิดตัวอย่างเป็นทางการอีกครั้งในประเทศไทย เราเตรียมมอบประสบการณ์สุดพิเศษด้วยมาตรฐานการเข้าพักเหนือระดับเพื่อต้อนรับนักเดินทางกลุ่มมิลเลนเนียลส์”
ลงทะเบียนเป็นสมาชิก ‘Ascott Star Rewards’ ฟรี! เพื่อรับสิทธิประโยชน์ ส่วนลดห้องพัก และประสบการณ์สุดพิเศษ เช่น คลาสโยคะยามเช้า เวิร์กช็อปวิธีการทำคอมบูชา และอาหารเช้าเพื่อสุขภาพ
ระยะเวลาการจอง: 17 พฤศจิกายน – 30 ธันวาคม 2565
ระยะเวลาเข้าพัก: 1 ธันวาคม 2565 – 31 มกราคม 2566
สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 0 2254 1900 อีเมล [email protected] หรือที่เว็บไซต์ด้านล่าง
https://www.discoverasr.com/en/lyf/thailand/lyf-sukhumvit-8-bangkok