รายได้ของ LVMH และ Kering ลดลงเกือบ 30 เปอร์เซ็นต์ในช่วงครึ่งปีแรกปี 2020

ผ่านมาเกินครึ่งทางสำหรับปี 2020 ซึ่งนับว่าเป็นปีที่หนักหนาสำหรับทุกอุตสาหกรรม โดยเฉพาะอุตสาหกรรมแฟชั่นที่โดนพิษโควิด-19 อย่างหนัก ทำให้รายได้ของกลุ่มบริษัทสินค้าลักชัวรียักษ์ใหญ่ทั้ง LVMH และ Kering ช่วงครึ่งปีแรกลดลงสูงถึง 30%

เริ่มกันที่ LVMH บริษัทสินค้าลักชัวรีอันดับหนึ่งของโลก ได้ออกมารายงานผลประกอบการในสองไตรมาสแรกประจำปี 2020 ปรากฏว่ารายได้รวมในครึ่งปีแรกลดลง 27% จากที่เคยทำไว้เมื่อครึ่งปีแรกของปี 2019 ที่ 25,082 พันล้านยูโร เหลือเพียง 18,393 พันล้านยูโรในปีนี้ ผลมาจากวิกฤตการณ์โควิด-19 ที่กระทบภาคการท่องเที่ยวและการใช้จ่ายของผู้บริโภค แต่ยังมีสัญญาณที่ดีจากแบรนด์หลักในเครืออย่าง Louis Vuitton และ Christian Dior จากทั้งแคมเปญโฆษณาสินค้ารุ่นใหม่ทางออนไลน์ การออกแบบ และฐานลูกค้าที่หนาแน่นทั้งฝั่งผู้หญิงและผู้ชาย และการกลับมาของลูกค้าในแถบเอเชีย

ด้านคู่แข่งอย่างเครือ Kering ที่มีทั้ง Gucci, Saint Laurent, Bottega Veneta, Balenciaga และ Alexander McQueen ค่อนข้างที่จะเจ็บหนักไม่แพ้กัน โดยรายได้จากที่เคยทำไว้เมื่อครึ่งปีแรกของปี 2019 ที่ 7,638 ล้านยูโร ลดลงเหลือ 5,378 ล้านยูโร หรือคิดเป็นตัวเลข 29.7% ซึ่งเมื่อดูรายงานเทียบเฉพาะแบรนด์แล้ว Gucci เป็นแบรนด์ที่มีการหดตัวมากสุดที่ 33.5% แต่หากมองตัวเลขยอดขายจากทางออนไลน์ของแบรนด์กลับสวนทาง เนื่องจากมีการเติบโตมากขึ้นถึง 51.8% ตามมาด้วย Saint Laurent ที่ลดลง 30% และแบรนด์อื่นๆ ลดลงรวม 25%

สำหรับครึ่งหลังของปี 2020 คงจะได้เห็นการเติบโตของแบรนด์กลับมาอยู่ในระดับที่ดีขึ้น โดยเฉพาะกลยุทธ์การสื่อสาร ประชาสัมพันธ์ และการตลาดที่มุ่งเน้นไปทางออนไลน์มากขึ้น ผลมาจากการปรับตัวของแบรนด์ในช่วงที่ไม่สามารถจัดงานแฟชั่นได้อย่างเต็มรูปแบบเหมือนเคย อย่างเช่นคอลเล็กชัน Gucci Epilogue ที่กลายเป็นงานแฟชั่นที่มีผู้ชมทางออนไลน์สูงสุดของแบรนด์จำนวนถึง 35 ล้านคนทั่วโลก ส่วน Dior Cruise 2021 ที่เพิ่งจัดไปที่เมือง Lecce ประเทศอิตาลี และ Louis Vuitton Men คอลเล็กชัน Spring/Summer 2021 ก็กำลังจะเดินทางมาจัดแสดงที่เซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน

ภาพ: Edward Berthelot / Getty Images

พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า

อ้างอิง: