สำนักข่าวต่างประเทศรายงานโดยอ้างอิงแหล่งข่าววงในเปิดเผยว่า Luckin Coffee เชนกาแฟยักษ์ใหญ่ที่สุดของจีน กำลังพิจารณายื่นข้อเสนอซื้อกิจการ Blue Bottle Coffee จาก Nestle เพื่อยกระดับภาพลักษณ์ของแบรนด์และขยายตลาดเข้าสู่เซกเมนต์กาแฟระดับพรีเมียม ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญในการขยายอาณาจักรออกไปนอกเหนือจากฐานที่มั่นในแดนมังกร
นอกจากนี้ Luckin Coffee และผู้สนับสนุนหลักอย่าง Centurium Capital ยังได้ประเมินเป้าหมายการเข้าซื้อกิจการอื่นๆ ด้วย รวมถึงผู้บริหารร้าน % Arabica ในจีน ซึ่งมีบริษัทไพรเวทอิควิตี้อย่าง PAG เป็นนักลงทุน อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าวระบุว่าแม้จะมีการพิจารณา Costa Coffee ของ Coca-Cola ด้วยเช่นกัน แต่คาดว่าจะไม่มีการดำเนินการต่อในดีลนี้ โดยการหารือทั้งหมดยังอยู่ในระยะเริ่มต้นและอาจไม่นำไปสู่การยื่นข้อเสนอจริง
ความเคลื่อนไหวนี้ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ จากเดิมที่ Luckin Coffee เป็นที่รู้จักในฐานะแบรนด์ที่นำเสนอเมนูสร้างสรรค์ในราคาที่เข้าถึงง่าย เช่น ลาเต้มะพร้าว หรือลาเต้ชีส ในขณะที่ Blue Bottle สร้างชื่อเสียงจากการขายกาแฟคลาสสิกคุณภาพสูงแบบ Straightforward’ และกาแฟดริปแบบ Single-origin
Blue Bottle ก่อตั้งขึ้นในแคลิฟอร์เนียเมื่อปี 2002 ก่อนที่ Nestle จะเข้าลงทุนซื้อหุ้น 68% ด้วยมูลค่าประมาณ 425 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.33 หมื่นล้านบาท) ในปี 2017 โดยสำนักข่าว Reuters รายงานว่าปัจจุบัน Nestle กำลังทำงานร่วมกับ Morgan Stanley เพื่อทบทวนทางเลือกสำหรับธุรกิจนี้ ซึ่งนอกจากสหรัฐฯ แล้ว แบรนด์ยังมีสาขาในจีน ฮ่องกง, ญี่ปุ่น, สิงคโปร์ และเกาหลีใต้
สถานการณ์ของ Luckin Coffee ดีขึ้นอย่างมากหลังจากถูกเพิกถอนออกจากตลาด Nasdaq ในปี 2020 เนื่องจากเรื่องอื้อฉาวทางบัญชี โดยในไตรมาสสิ้นสุดเดือนกันยายน บริษัทมีรายได้สุทธิ 2.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 6.59 หมื่นล้านบาท) เพิ่มขึ้น 50% จากปีก่อนหน้า และมีกำไรสุทธิประมาณ 180 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 5.65 พันล้านบาท)
การเติบโตอย่างรวดเร็วทำให้ Luckin Coffee สามารถแซงหน้า Starbucks ในจีนได้ทั้งจำนวนสาขาและยอดขายรายปี โดยใช้วิธีเจาะตลาดด้วยราคาที่ต่ำกว่า รสชาติท้องถิ่น และระบบการสั่งซื้อผ่านมือถือที่มีประสิทธิภาพ ในไตรมาสล่าสุดมีการเปิดสาขาใหม่สุทธิถึง 3,008 แห่ง รวมถึงการขยายตัวในต่างประเทศอย่างสิงคโปร์ มาเลเซีย และสหรัฐฯ ส่งผลให้ยอดรวมสาขาทั่วโลกพุ่งแตะ 29,214 แห่ง
การเข้าซื้อกิจการเชนที่มีฐานในระดับโลกจะช่วยให้ Luckin Coffee ขยายธุรกิจออกไปนอกจีนแผ่นดินใหญ่ได้ง่ายขึ้น เนื่องจากทั้ง Blue Bottle และ % Arabica ต่างมีสาขากระจายอยู่ในตลาดสำคัญๆ ทั่วโลก ทั้งในเอเชีย ยุโรป และอเมริกาเหนือ
ในขณะที่คู่แข่งอย่าง Starbucks ตัดสินใจขายหุ้นส่วนใหญ่ในธุรกิจท้องถิ่นให้กับ Boyu Capital และกำลังอยู่ในช่วงปรับปรุงแผนงานเพื่อฟื้นฟูธุรกิจในอเมริกาเหนือ โดยพยายามเน้นบรรยากาศหน้าร้านมากกว่าประสิทธิภาพทางดิจิทัล ซึ่งจุดนี้อาจกลายเป็นช่องว่างที่เปิดโอกาสให้ Luckin รุกตลาดได้มากขึ้น
หมายเหตุ : ใช้อัตราแลกเปลี่ยน 1 ดอลลาร์สหรัฐ เท่ากับ 32.42 บาท ณ วันที่ 20 ธันวาคม 2568
ภาพ: rayints / Shutterstock
อ้างอิง:
