“ความรักอาจไม่ได้ทำให้ชนะทุกอย่าง เผลอๆ เราอาจจะแพ้พ่ายทั้งที่เรารักในสิ่งนั้นสุดหัวใจก็ได้ แต่ตราบใดที่เรายังรักและเชื่อในความเป็นไปได้ เราก็จะมองความพ่ายแพ้เป็นแค่เรื่องชั่วคราว แล้วลุกมาก้าวเดินต่อไป”
ไม่กี่วันก่อน ผู้เขียนทวีตข้อความหนึ่งไปในทวิตเตอร์ส่วนตัว (@khaopan) ว่า “ถ้าจะเหนื่อยกับการทำอะไรสักอย่าง ให้เหนื่อยกับสิ่งที่เรารักและเชื่อ เพราะระหว่างทางมันจะไม่ท้อจนล้มเลิก และเมื่อล้มเราก็จะไม่เลิกอยู่ดี” ผลคือข้อความนี้ได้รับการรีทวีตไปทั้งหมดเกือบ 20,000 ครั้ง เมื่อกดเข้าไปดูคนที่โควตทวีตนี้ก็พอจับความรู้สึกที่คล้ายๆ กันได้อย่างหนึ่งคือ พวกเราหลายคนต่างก็มีเรื่องที่ทำให้ต้องเหน็ดเหนื่อยด้วยกันทั้งนั้นเราต่างมีวันที่สับสนและทะเลาะกับตัวเอง หรือคนรอบข้างเกี่ยวกับสิ่งที่ตัวเองรักและเชื่อ ซึ่งคนอื่นๆ อาจไม่ได้คิดเหมือนกัน หัวใจคนก็เป็นแบบนี้ เราไม่อาจบังคับให้คนอื่นรักในสิ่งเดียวกับเรา พอๆ กับที่เราก็ไม่อาจบังคับหัวใจตัวเองให้รักในสิ่งที่คนอื่นรักได้เช่นกัน เราต่างดิ้นรน กระเสือกกระสน อยู่ในความรัก ไม่รัก เชื่อ ไม่เชื่อกันอยู่อย่างนี้มาไม่รู้เท่าไรต่อเท่าไร
ทวีตที่ว่านั้นเกี่ยวข้องกับเรื่องจากปก Israel the Startup Nation ในฉบับนี้ เพราะระหว่างที่ย้อนกลับไปคิดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อ 6 เดือนที่แล้ว ตอนที่ทีมงาน THE STANDARD บินไปถ่ายทำสารคดี AIS Startup The Series อยู่ที่กรุงเทลอาวีฟ ประเทศอิสราเอล สิ่งที่สัมผัสได้ชัดเจนที่สุดระหว่างที่อยู่นั่นก็คือ ‘ความรักและความเชื่อ’ ความรักในสิ่งที่ทำ และความเชื่อว่าทุกอย่างที่ทำจะเป็นไปได้ ไม่ว่าจะต้องล้มเหลวสักกี่ครั้ง ก็พร้อมจะเรียนรู้จากความผิดพลาด พร้อมจะเริ่มต้นใหม่ด้วยวิธีที่ดีกว่า ด้วยหัวใจที่แข็งแกร่งกว่าเดิม ที่พูดทั้งหมดนี้ คือลักษณะนิสัยที่เราพบได้ทั่วไปในกลุ่มคนทำสตาร์ทอัพ หรือคนที่ริเริ่มทำธุรกิจของตัวเองดูไปแล้วก็ไม่ต่างจากเวลาที่เราตกหลุมรักใครสักคนนั่นแหละ ลงว่ารักไปแล้ว การถอนหัวใจออกมาจากจุดนั้นนับว่าไม่ง่าย และแม้ว่ากับบางคน เราอาจคาดเดาได้ด้วยซ้ำไปว่าหัวใจเราจะเสี่ยงกับการแตกสลาย เราก็ยินยอมที่จะผ่านพบกับภาวะนั้นอยู่ดี ไม่ใช่เราไม่รักตัวเอง แต่เราแค่ไม่อยากเกลียดตัวเองที่จะไม่ยอมให้ถึงที่สุดหรือไม่ต่อสู้เพื่อสิ่งที่รักให้มากพอเสียก่อน
ทุกครั้งที่เราถามคนทำสตาร์ทอัพที่ประสบความสำเร็จแล้วว่า พวกเขามีอะไรจะแนะนำคนที่อยากเริ่มต้นทำธุรกิจหรือเปล่า ทุกคนจะตอบคล้ายๆ กันว่า ถ้าอยากทำจริงๆ ก็ลงมือทำ เพราะไม่มีทางอื่นให้เรียนรู้ได้มากไปกว่านี้ และจงรับมือกับความล้มเหลวที่อาจจะเกิดขึ้นให้ได้ ด้วยการมองความล้มเหลวให้เป็นบทเรียน จำได้ว่าแทบไม่มีใครพูดให้ได้ยินว่า ความรักจะชนะทุกอย่าง ลงมือทำเถอะ วันหนึ่งคุณจะรวยเหมือนผม ผมทำได้ คุณก็ทำได้ ไม่เลย ไม่มีความโรแมนติกเช่นนั้นในชีวิตจริง
อาจเป็นเพราะพวกเขาผ่านจุดที่เข้าใจแล้วว่า ถึงที่สุดแล้ว ความรักอาจไม่ได้ทำให้ชนะทุกอย่าง เผลอๆ เราอาจจะแพ้พ่ายทั้งที่เรารักในสิ่งนั้นสุดหัวใจก็ได้ แต่ตราบใดที่เรายังรักและเชื่อในความเป็นไปได้ เราก็จะมองความพ่ายแพ้เป็นแค่เรื่องชั่วคราว แล้วลุกมาก้าวเดินต่อไป ความสำเร็จในการทำในสิ่งที่เรารักและเชื่อมั่น อาจไม่ได้มาในรูปแบบของการได้ในสิ่งที่เราฝันไว้ทุกประการ บ่อยครั้งเหลือเกินที่มันจบลงด้วยการสูญเสียในสิ่งที่ฝัน แต่ได้มาในสิ่งที่ไม่เคยฝัน เพื่อที่เราจะยังขอบคุณชีวิตทุกครั้งที่ให้ในสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับเรา ดีที่สุดตามเหตุปัจจัยที่ควรจะเป็น
ภาพพระอาทิตย์ขึ้นยามเช้าและตกในยามเย็นริมทะเลที่เมืองเทลอาวีฟ เป็นภาพที่สวยจับใจและลืมไม่ลงจนถึงทุกวันนี้ ไม่อาจพูดได้ว่าตัวเองฝากหัวใจไว้ที่นั่น แต่พูดได้เต็มปากว่า ที่นั่นเปลี่ยนหัวใจให้เป็นอีกแบบ… แบบที่ทำให้รู้ว่า เมื่อรักที่จะอยู่ตรงไหน เราก็พร้อมจะลุยและล้มตรงนั้นอย่างไม่เลิกราและไม่เลิกรัก เพราะจะมืดหรือสว่าง ร้อนหรือเหน็บหนาว เราก็จะไม่มีวันเกลียดตรงนั้น และไม่มีวันเกลียดตัวเอง
