ก่อนที่จะเป็นแบรนด์ที่มีมูลค่าสูงถึง 16,500 ล้านดอลลาร์ และเป็นแบรนด์ที่มีมูลค่าเติบโตเร็วที่สุดถึง 21.4% ในปี 2020 แฟนๆ คงจะทราบกันดีว่า Louis Vuitton มีจุดเริ่มต้นมาจากการทำหีบเดินทาง แล้วจึงขยายการผลิตเป็นกระเป๋า เครื่องประดับ และเสื้อผ้า ทำให้หีบเดินทาง หรือที่เรียกกันติดปากของแฟนๆ Louis Vuitton ว่า ‘ทรังก์’ เป็นที่หมายปองของนักสะสม ซึ่งจะทวีคุณค่าไปตามกาลเวลา จากสถิติ Aluminium Explorer Trunk จากปี 1892 และเคยได้รับการประมูลไปด้วยราคาสูงถึง 6.9 ล้านบาทในปี 2018 นับเป็นของสะสมที่นอกจากจะให้คุณค่าทางใจแล้ว ยังอาจจะทำกำไรอย่างงามได้ในอนาคตอีกด้วย
ก่อนหน้าที่เมซง Louis Vuitton จะก่อตั้งขึ้น หลุยส์ วิตตอง ผู้ก่อตั้ง เคยทำงานผลิตหีบบรรจุสัมภาระมาร่วม 17 ปี กระทั่งในปี 1854 เขาเกิดไอเดียที่จะผลิตหีบเดินทางหรือทรังก์ด้วยแคนวาสที่มีน้ำหนักเบาแต่ทนทาน และยังดีไซน์หีบเดินทางให้มีทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าที่ด้านบนเรียบ เพื่อจะได้วางเรียงซ้อนกันได้อย่างง่ายดายและประหยัดเนื้อที่
โดยต่อมาก็มีคู่แข่งเริ่มทำตาม ลูกชายของเขา จอร์จ วิตตอง จึงเริ่มโฟกัสไปที่การนำผ้ามาหุ้มหีบเพื่อสร้างเอกลักษณ์ที่ชัดเจน ความจริงแล้วในปี 1888 หลุยส์ วิตตอง ได้คิดค้นลายตาราง Damier ขึ้นจากแคนวาสลายทางสีแดงที่ทำขึ้นช่วงต้นปี 1870
ส่วนลายโมโนแกรมได้รับการออกแบบและจดลิขสิทธิ์ในปี 1892 โดย จอร์จ วิตตอง จากการผสมผสานอักษรตัวแรกจากชื่อของผู้ก่อตั้งเข้ากับรูปทรงดอกไม้สไตล์แอ็บสแตรกต์ ทั้งสองลายกลายเป็นเอกลักษณ์สำคัญของ Louis Vuitton นับแต่นั้นเป็นต้นมา และตั้งแต่ปี 1906 Louis Vuitton ได้เริ่มผลิตหีบเดินทางที่รูปทรงและหน้าตาเหมือนกับหีบที่ทำขึ้นในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นรูปทรงเลขาคณิตที่เปิด-ปิดหีบด้านบนเรียบ ห่อหุ้มด้วยแคนวาสลายโมโนแกรม และระบบล็อกแบบตัวเลขอันเป็นเอกลักษณ์ของทรังก์จาก Louis Vuitton
ความโดดเด่นอีกอย่างของทรังก์จาก Louis Vuitton คือการสร้างสรรค์แบบเฉพาะเจาะจงให้กับผู้เป็นเจ้าของ ไม่ว่าจะเป็นการสร้าง ‘Trunk Bed’ ให้กับนักสำรวจ ปิแอร์ ซาวอร์ยอง เดอ บราซซา ใช้เดินทางในปี 1905 หีบเดินทางสำหรับใส่เดรส สูท และเครื่องแป้ง สำหรับคนดังในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 อย่าง แจน ลองแวง ผู้ก่อตั้งแบรนด์ Lanvin หรือแม้กระทั่งหีบใส่หนังสือและอุปกรณ์เครื่องเขียนของนักเขียนชื่อดังอย่าง เออร์เนสต์ มิลเลอร์ เฮมิงเวย์
นอกจากนี้ยังได้รับการพัฒนาให้น่าตื่นเต้นอยู่เสมอด้วยการ Collaboration กับอาร์ทิสต์และเหล่าบรรดาครีเอทีฟต่างๆ มากมาย อย่าง ‘Boxing Trunk’ ที่ทำขึ้นร่วมกับ คาร์ล ลาเกอร์เฟล เพื่อเฉลิมฉลองโปรเจกต์คอลแลบผ่านลวดลายโมโนแกรมในปี 2014 ปัจจุบันวินเทจทรังก์มีราคาเฉลี่ยในตลาดรีเซลสูงถึง 4 แสนบาทหรือมากกว่านั้น ขึ้นอยู่กับสภาพ ขนาด และรูปแบบ สำหรับมือใหม่หัดสะสมก็ต้องพิจารณาจากร่องรอยตำหนิต่างๆ สภาพการแตกลายของแคนวาส อะไหล่ โลหะต่างๆ ของตัวทรังก์
สำหรับใครที่อยากได้ของใหม่เพื่อจะได้ใช้งานและเก็บไว้ทำกำไรในอนาคต ทุกวันนี้ Louis Vuitton ยังคงรับผลิตแบบออร์เดอร์พิเศษ ตั้งแต่หีบเดินทางสำหรับใส่เสื้อผ้า ชุดเครื่องทำค็อกเทล นาฬิกา และน้ำหอม ไปจนถึงชิ้นกล่องใส่เกมและเคสสำหรับใส่เครื่องประดับ อีกทั้งยังพัฒนาดีไซน์ใหม่ๆ อย่าง Malle Fleurs ทรังก์ขนาดเล็กที่เพิ่มวัสดุกันน้ำด้านในสำหรับใส่ดอกไม้ ซึ่งเชื่อแน่ว่าตราบใดที่แบรนด์ Louis Vuitton ยังคงอยู่ ทรังก์ก็ยังคงพัฒนาต่อไปอีกเรื่อยๆ จะทวีความคลาสสิกและมูลค่าเมื่อเวลาผ่านไป
Louis Vuitton Trunk รุ่นต่างๆ ที่น่าสนใจ
ทรังก์ไม่มีราคาตายตัว เพราะผลิตเป็นพิเศษสำหรับผู้ที่อยากเป็นเจ้าของ แต่บอกได้คำเดียวว่าราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 7 หลัก ดังนั้นจึงเหมาะสำหรับคนที่ชอบจริงๆ ถึงจะคุ้มทั้งการใช้งานและการสะสมเป็นมรดกเพื่อทำกำไรในอนาคต
Malle Coiffeuse
ทรังก์สำหรับสายบิวตี้มีช่องเก็บของต่างๆ และกระจก เป็นเหมือนโต๊ะเครื่องแป้งส่วนตัวสำหรับแฟนๆ ของ Louis Vuitton ตัวจริง
Pique-Nique Trunk
Picnic Box ที่สร้างขึ้นในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 ตอนนี้พัฒนาจนกลายมาเป็นหีบสำหรับใส่สัมภาระที่คนยุคมิลเลเนียลต้องการ
Malle Fleurs
ทรังก์ใส่ดอกไม้ด้านในด้วยวัสดุกันน้ำผลงานการออกแบบของ เวอร์จิล แอบโลห์ อาร์ทิสติกไดเรกเตอร์เสื้อผ้าผู้ชายของ Louis Vuitton โดยโมโนแกรมถูกนำมาตีความใหม่ในในไซส์ใหญ่ขึ้น พร้อมมิติจากผิวสัมผัสแบบนูน
Monogram Eclipse Sneaker Box
ตู้โชว์รองเท้าคู่ไอคอนิกที่ปรับให้เข้ากับกลุ่มคนยุคมิลเลนเนียล
Malle Maison Vivienne
บ้านตุ๊กตาพกพาที่เป็นหีบบรรจุ Vivienne มาสคอตตัวใหม่ของ Louis Vuitton สำหรับแฟนของ Louis Vuitton ตัวจริง
Louis Vuitton World Cup 2018 Trophy Travel Case
ผสมผสานเทคนิคดั้งเดิมเข้ากับเทคโนโลยีสมัยใหม่อย่างการพิมพ์แบบ 3D สำหรับถ้วยรางวัล FIFA World Cup ปี 2018 ซึ่งฝรั่งเศสคว้าแชมป์ไปครอง
ภาพประกอบ: พิชามญชุ์ วรรณสาร
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์
