แม้โควิดจะยังไม่มีท่าทีผ่อนแรงการระบาดลงเลย แต่ดูเหมือนว่าผู้บริโภคส่วนใหญ่ก็ไม่ได้มีแนวโน้มที่จะหยุดดูแลตัวเอง ใส่ใจ ‘ความสวย ความงาม’ ด้วยเช่นกัน เมื่อมีสัญญาณที่อาจบ่งชี้ได้ว่าภาพรวมตลาดความงามในสเกลระดับโลกกำลังอยู่ในภาวะ ‘เริ่มฟื้นตัว’ อย่างต่อเนื่อง
เมื่อวันพุธที่ผ่านมา (4 สิงหาคม 2564) ตามเวลาท้องถิ่นฝรั่งเศส L’Oréal Group ได้รายงานผลการดำเนินงานรอบครึ่งปีแรกของบริษัทตลอดปี 2564 ที่ผ่านมา โดยพบว่าครึ่งปีแรก พวกเขามียอดขายที่เติบโตในระดับ +20.7% (หมายเหตุ: เปรียบเทียบกับปี 2563 ตามโครงสร้างที่เปรียบเทียบได้และอัตราแลกเปลี่ยนที่เหมือนกัน)
ทั้งนี้ L’Oréal Group มียอดขายรวมในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2564 ที่ 15,197 ล้านยูโร หรือราว 598,000 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิที่ระดับ 2,368 ล้านยูโร หรือราว 93,200 ล้านบาท เติบโตจากปีก่อนหน้า 30%
เมื่อจำแนกสัดส่วนรายได้ของ L’Oréal Group ตาม Portfolio ผลิตภัณฑ์และธุรกิจ จะพบว่าแผนกผลิตภัณฑ์อุปโภคบริโภคมีส่วนแบ่งมากที่สุดที่ 39.2% (เติบโตขึ้น 6.3% จากปีที่แล้ว) ตามมาด้วยแผนกผลิตภัณฑ์ความงามชั้นสูงที่ 36% (เติบโตขึ้น 28.1% จากปีที่แล้ว) และแผนกผลิตภัณฑ์เวชสำอาง 13% (เติบโตขึ้น 37.5% จากปีที่แล้ว) และแผนกผลิตภัณฑ์ช่างผมมืออาชีพ 11.7% (เติบโตขึ้น 41% จากปีที่แล้ว) ตามลำดับ
ขณะที่ช่องทางอีคอมเมิร์ซของ L’Oréal Group ยังเติบโตในระดับปานกลางที่ 29.2% เนื่องจากช่องทางร้านค้าปลีกสามารถกลับมาเปิดให้บริการได้แล้ว ส่งผลให้ยอดขายอีคอมเมิร์ซคิดเป็นสัดส่วน 27.3% จากยอดขายทั้งหมด
นิโคลา ฮิโรนิมุส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ L’Oréal กล่าวว่า “L’Oréal Group เติบโตอย่างแข็งแกร่งได้อีกครั้งในช่วงครึ่งปีแรก และมีความพร้อมที่จะเติบโตต่อไปในอัตราการขยายตัวระดับเดียวกันกับช่วงก่อนที่จะเกิดวิกฤต ด้วยการใช้เทคโนโลยี Data และ AI เพื่อก้าวขึ้นเป็นบริษัท Beauty Tech ในช่วงครึ่งปีหลังนี้
“โดยเราจะใช้แผนกลยุทธ์การเปิดตัวผลิตภัณฑ์แบบเชิงรุกของเรา พร้อมกันนี้ก็จะลงทุนในปัจจัยที่ขับเคลื่อนการเติบโตที่เกี่ยวข้อง เพื่อกระตุ้นการขยายตัวในอนาคตและความต้องการในแบรนด์ต่างๆ ของเรา เรามีความมั่นใจมากกว่าที่เคยในความสามารถที่จะเติบโตของธุรกิจในอัตราสูงกว่าตลาด และทำให้ปีนี้เป็นปีที่ประสบความสำเร็จในการเติบโตของยอดขายและผลประกอบการ”
