นี่คือการขึ้นชกบนสังเวียน MMA ครั้งที่ 10 และเป็นการขึ้นชกในกรงแปดเหลี่ยมของศึก UFC ครั้งที่ 6 ของ โลมา ลูกบุญมี ยอดนักชกหญิงไทยหนึ่งเดียวที่จบลงด้วยชัยชนะที่ยิ่งใหญ่ พร้อมกับการเปิดเผยความลับที่ไม่เคยบอกใครมาก่อนของนักสู้หญิงแกร่งคนนี้
โลมา ลูกบุญมี หรือ หล้า-สุภิสรา คนหลัก นักชกสาวไทยวัย 26 ปี อดีตแชมป์โลกมวยไทยหญิงระดับอัจฉริยะผู้ผ่านสังเวียนมาแล้วมากมาย ก่อนหันเหมาสู่วงการศิลปะการต่อสู้แบบผสมผสาน หรือ MMA และกลายเป็นนักชกไทยคนแรกที่ได้ขึ้นเวทีใหญ่ระดับโลกอย่าง UFC
ตั้งแต่ปี 2019 เป็นต้นมา หล้าขึ้นสังเวียน MMA ต่อเนื่องถึง 9 ไฟต์ด้วยกัน แต่หลังจบไฟต์กับ ลูปิตา โกเมซ นักสู้ชาวเม็กซิกัน เมื่อเดือนพฤศจิกายนปีกลาย โลมา ลูกบุญมี ก็หายหน้าไปจากวงการต่อสู้ยาวนานร่วม 10 เดือน
ในบทสัมภาษณ์กับ THE STANDARD (“หมดไฟ” คำสารภาพของ ‘โลมา ลูกบุญมี’ ที่ขอกลับมาสู้บนสังเวียน UFC อีกครั้ง) เธอบอกว่า 10 เดือนที่ผ่านมาคือช่วงเวลาของการพักทำใจและเตรียมตัวเพื่อเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง
และในการกลับมาครั้งนี้เธอมีความพร้อมเกินร้อย!
เช้าวันอาทิตย์ที่ผ่านมา โลมา ลูกบุญมี เจ้าของสถิติชนะ 6 แพ้ 3 ขึ้นเวทีในรายการ UFC Fight Night: Sandhagen vs. Song ที่สังเวียน UFC Apex ลาสเวกัส สหรัฐอเมริกา ปะทะ เดนิเซ โกเมส นักชกสาวชาวบราซิลวัย 22 ปี ผู้มีสถิติไม่ธรรมดา ชนะ 6 แพ้ 2 ซึ่งเป็นมวยแทนที่ได้โอกาสขึ้นเวที
ปรากฏว่าตลอดการชกทั้ง 3 ยก หล้าที่ดูมุ่งมั่นร้อนแรงประเคนเพลงแข้งเข้าใส่โกเมสอย่างจะแจ้งตลอดการชกทั้ง 3 ยก โดยที่ถึงจะโดนพยายามจับล็อกและจับเทกดาวน์ แต่ก็ไม่ยอมเพลี่ยงพล้ำ ซ้ำยังใช้ประสบการณ์ประคองตัวไม่ให้คู่แข่งเข้าถึงตัวได้ง่ายๆ
จบการชกทั้ง 3 ยก กรรมการชูมือให้ โลมา ลูกบุญมี เป็นผู้ชนะอย่างเป็นเอกฉันท์ 30-27, 30-27 และ 29-28 เป็นการกลับมาชนะในศึก UFC อีกครั้งด้วยสถิติชนะ 4 แพ้ 2 ในรายการนี้ (และชนะ 7 แพ้ 3 ในการต่อสู้ MMA)
แต่ในวันที่น่ายินดีกับชัยชนะที่ยิ่งใหญ่แบบนี้ โลมา ลูกบุญมี ได้สร้างความตกใจให้แก่ทุกคน เมื่อเปิดเผยถึงความลับดำมืดที่เกิดขึ้นกับตัวเธอในช่วง 10 เดือนที่ผ่านมาว่า ในช่วงเวลาที่หายไปนั้นเธอไม่ได้หายไปเพื่อพักใจเฉยๆ
นักชกวัย 26 ปี เปิดเผยว่า ป่วยเป็นโรคซึมเศร้าถึงขั้นคิดว่าไม่อยากจะมีชีวิตอยู่อีกต่อไป
“หลังจากที่แพ้ในไฟต์ที่แล้ว หนูกลับไปที่บ้าน แล้วมันก็ยากมากๆ หนูป่วยเป็นโรคซึมเศร้า หลังแพ้หนูก็คิดว่าหนูพอแล้ว” หล้าเล่าความลับด้วยน้ำตาคลอเบ้าและน้ำเสียงที่สั่นเครือระหว่างการแถลงข่าวหลังศึก UFC
เพียงแต่ด้วยความรักจากครอบครัวและทีมงาน ทำให้เธอตัดสินใจที่จะกลับมาอีกครั้ง
“ที่บ้านกับทีมเชื่อในตัวหนู พวกเขาเห็นคุณค่าของตัวเรา ทำให้หนูคิดว่าหนูจะกลับมาอีกครั้ง ตอนนี้หนูดีขึ้นมากๆ แล้วค่ะ”
ก่อนที่เธอจะฝากข้อความถึงทุกคนที่อยู่ในหลุมดำที่มืดมนเหมือนกัน
“ถึงคนที่เป็นโรคซึมเศร้านะคะ หนูก็เป็นคนหนึ่งที่เป็นเหมือนทุกคน หนูรู้สึกว่าไม่มีคุณค่าในตัวเอง หนูทำร้ายตัวเอง เคยคิดที่จะฆ่าตัวตาย แต่หนูกลับมาได้อีกครั้ง เพราะมีครอบครัวที่รักหนูและทีมที่เชื่อมั่นในตัวหนูว่าจะกลับมาได้อีกครั้ง
“หนูรู้ว่ามันแย่แค่ไหนในการเป็นโรคซึมเศร้า หนูเข้ารับการรักษา กินยา และพบจิตแพทย์ตลอด หนูอยากบอกพวกคุณว่าพวกคุณยังมีตัวเอง หนูรู้ว่ามันจะดีขึ้นแน่ๆ อาจไม่ใช่วันนี้ อาจไม่ใช่พรุ่งนี้ แต่มันจะดีขึ้นแน่ๆ ค่ะ”
ทุกคนสามารถกลับมาได้ และจะเป็นการกลับมาและชัยชนะที่ยิ่งใหญ่ที่สุด
อย่ายอมแพ้
อ้างอิง:
