ชื่อเสียงเรียงนามของ Osha Thai Restaurant (โอชา) นั้นขจรขจายไปทั่วในแง่ของร้านอาหารจานหรูที่นำเสนอเมนูอาหารไทยแท้ผ่านศาสตร์การปรุงแบบ Molecular แน่นอนว่ารสชาติที่เสิร์ฟยังคงความจัดจ้านถึงเครื่องฉบับไทยครบรส และกว่า 80% ของเมนูอาหารเป็นจานภาคกลางที่คุ้นลิ้นคนกรุงเทพฯ
แต่สำหรับ โอชา สาขาภูเก็ต ที่ยึดพื้นที่ชั้น 1 ของโรงแรมออนออน บริเวณตัวเมืองเก่าเป็นทำเลที่ตั้ง จุดแข็งดังกล่าวกลับเป็นจุดอ่อนที่สร้างบาดแผลให้แบรนด์ เพราะเหล่านักชิมส่วนใหญ่ต่างเชื่อไปกว่าครึ่งแล้วว่าอาหารที่เสิร์ฟในขอบรั้วโอชา ภูเก็ต จะต้องเป็นเมนูเฉกเช่นร้านที่กรุงเทพฯ ไม่ใช่อาหารพื้นถิ่นภูเก็ตอย่างที่ใจถามหา
THE STANDARD ขอบอกเลยว่าคุณคิดผิดแล้วล่ะ เพราะหลังจากที่เราได้เคาะประตูเยี่ยมเยือนถึงถิ่น เราพบว่าหากคุณกำลังมองหาร้านอาหารพื้นเมืองที่นำเสนอความแปลกใหม่ ‘โอชา ไทยเรสเตอรองต์ แอนด์ บาร์ เดอะเมมโมรี แอท ออนออน ภูเก็ต โอลด์ ทาวน์’ (Osha Thai Restaurant & Bar, The Memory at ONON Phuket Old Town) คือตัวเลือกอันดับต้นอย่างไม่ต้องสงสัย
The Vibe
ลืมภาพแชนเดอเลียร์รูปชฎาขนาดใหญ่ วอลเปเปอร์จิตรกรรมร่วมสมัยที่เหลืองอร่ามด้วยทองคำ หรือการตกแต่งหรูหราวิจิตรราวกับนั่งรับประทานอยู่ในพระราชวังของสาขาบนถนนวิทยุไปได้เลย
ด้วยคอนเซปต์แบบ Casual Dining ทั้งหมดจึงถูกแทนที่ด้วยโต๊ะหินอ่อนสว่างตา เก้าอี้โซฟาหรูหราแปรเปลี่ยนเป็นไม้โปร่งสีเข้ม แทรกแซมด้วยเครื่องเรือนสีสดมาประดับ ผนังร้าน 2 ใน 3 กรุกระจกใสตั้งแต่พื้นจรดเพดาน เปิดรับแสงอาทิตย์เสริมสร้างบรรยากาศให้น่าเอกเขนก บางส่วนเปิดเปลือยวัสดุอวดอิฐเสริมความเท่ ตามชั้นและจุดต่างๆ ของร้านมีของเก่าโบราณประดับวาง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นของดั้งเดิมของภูเก็ต เพิ่มกลิ่นอายท้องถิ่นให้กรุ่นอบอวล
The Dish
ยังคงรักษาคอนเซปต์ ‘The Best Authentic Thai with Molecular Twist’ หยิบศาสตร์การปรุงแบบวิทยาศาสตร์มาเข้าคู่กับวิธีดั้งเดิมเช่นเคย แต่เปลี่ยนจากอาหารไทยภาคกลางมาเป็นอาหารใต้สำรับภูเก็ต ซึ่งรวมถึงอาหารจานเพอรานากัน (Peranakan) ด้วย เพอรานากันเป็นรูปแบบวัฒนธรรมที่เกิดจากการผสมผสานระหว่างชาวจีนกับชาวพื้นถิ่นเชื้อสายมลายู ซึ่งบางเมนูได้รับอิทธิพลมาจากชาวเพอรานากันในปีนัง สิงคโปร์ มาเลย์ เป็นอาทิ เรากล้าบอกเลยว่าหลายเมนูมีเสิร์ฟเฉพาะที่นี่ แต่ที่อื่นไม่มี
จานเด่นควรลอง ได้แก่ หมี่หุ้นแกงปู (380 บาท) แกงกะทิปูหอมมันใส่เนื้อปูชิ้นอวบเบ้ง โรยหน้าด้วยน้ำกะทิซึ่งมาในรูปแบบของคาเวียร์ หม่ำคู่เส้นหมี่หุ้นลวกแกล้มผักสดดีนักแล ต่อด้วยจาน หมูฮ้อง (350 บาท) หมูสามชั้นนำไปซูวีด์ (sous vide) จนได้ที่แล้วนำมาเคี่ยวต่อกับซีอิ๊ว แนะนำให้สั่งพร้อมกับ น้ำพริกภูเก็ต (190 บาท) น้ำพริกสูตรเฉพาะที่นำเครื่องมาหยำกับกะปิโดยไม่ต้องผ่านการตำ และ กุ้งซัมบัล (650 บาท) จานเพอรานากันจากมลายูที่นำกุ้งไปผัดกับซอสซัมบัล ทำมาจากพริกและกะปิเป็นเครื่องปรุงหลัก แต่งหน้าด้วยฟองกะทิสีขาวสะอาดชวนแปลกตา รสชาติกลมกล่อมเค็มๆ หอมกะปิ มีรสเผ็ดคละคลุ้ง ยิ่งกินคู่กับ ข้าวอบมะพร้าวอ่อน (120 บาท) ข้าวกล้องหอมหุงด้วยน้ำมะพร้าวสด ยิ่งอร่อยปาก กินเพลิน
The Drink
เครื่องดื่มอันเป็นลายเซ็นของแบรนด์โอชายังคงมีให้สั่งเช่นเคย เช่น โอชาชฎา (555 บาท) เป็นอาทิ แต่เราอยากให้คุณลอง โอชายานัด (355 บาท) เครื่องดื่มสูตรเฉพาะประจำร้านสาขาภูเก็ต ใช้เหล้าแม่โขงเป็นส่วนผสมหลักเช่นเคย แต่เพิ่มลิเคียวกลิ่นส้ม น้ำผึ้ง และน้ำสับปะรดลงไปด้วย เสิร์ฟมาในผลสับปะรดทั้งลูก รสชาติเปรี้ยวอมหวาน ดื่มง่าย มีกลิ่นหอมของน้ำผึ้งและผลไม้อบอวลเล็กๆ เหมาะกับอากาศเมืองภูเก็ต
Open: ทุกวัน เวลา 7.00-23.00 น.
Address: เลขที่ 19 ถนนพังงา ตลาดใหญ่ อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต
Budget: 250-700 บาท
Contact: 0 7663 4420
Page: www.facebook.com/oshathaiatonon
Map:
- เพื่อความเข้าถึงสูตรดั้งเดิม บางเมนูหัวหน้าเชฟของร้านต้องไปเรียนรู้สูตรไกลถึงปีนัง มาเลเซีย และสิงคโปร์ เป็นเวลาหลายเดือน