เมื่อพูดถึงร้านอาหาร หรือ รูฟท็อปบาร์ ที่มีวิวเมืองมุมสูงเป็นจุดขาย คนส่วนใหญ่มักจะนึกถึงความหรูหราราคาแพง หรือรูปแบบการกินอาหารแบบ Fine Dining แต่ที่ Nowhere (โนแวร์) แห่งนี้ไม่ได้ต้องการให้คุณรู้สึกแบบนั้น เพราะที่นี่คือรูฟท็อปบาร์ที่เรารู้สึก ‘เป็นกันเอง’ กับสถานที่มากๆ ราวกับมานั่งกินอาหารอยู่บ้านเพื่อนสาวคนสนิทที่ทำอาหารอร่อย และชงเครื่องดื่มได้ถูกจริต

 

 

The Vibe

     ‘Nowhere to go, but I’m now here’ คือประโยคแฝงความหมายที่อธิบายถึงความสัมพันธ์อันสนิทสนมของลูกค้ากับทางร้าน เพราะคำว่า ‘Nowhere’ อ่านได้สองแบบ สองความหมาย ยิ่งถ้าคุณไม่รู้ว่าจะไปแฮงก์เอาต์ที่ไหน (Nowhere to go) คุณยิ่งต้องมาที่นี่ (I’m now here) ซึ่งก็เหมือนกับเวลาที่คุณไม่รู้ว่าจะไปที่ไหน ก็มักจะต้องไปหาเพื่อนคนสนิทนั่นเอง

     คอนเซ็ปต์ร้านจั่วหัวถึงเรื่อง ‘การเดินทาง’ เป็นหลัก ดังนั้นเมื่อคุณเข้ามาในร้านแล้ว คุณจะพบบันไดคอนกรีตที่จะนำสายตาไปยังทุกๆ ส่วนของร้านได้อย่างน่าทึ่ง เปรียบเสมือนให้การเดินทางเริ่มจากประตูหน้าร้านมาสู่เคาน์เตอร์บาร์ ไปสู่ด้านนอกริมระเบียงของร้าน และเข้ามายังเพดานด้านใน สื่อถึงการวนเวียนหาที่แฮงก์เอาต์ในทุกวันหยุดสุดสัปดาห์

     ส่วนของการตกแต่งประดับประดาต่างๆ ก็ล้วนเลือกสรรจัดวางเป็นสัดส่วนได้เป็นอย่างดี ทั้งเฟอร์นิเจอร์ไม้และงานปูนเปลือยที่สร้างบรรยากาศสบายๆ ทำให้เราเข้าถึงและเป็นส่วนหนึ่งกับร้านได้อย่างไม่เคอะเขิน บวกกับดอกไม้และสีเขียวของต้นไม้ก็แต่งเติมให้รู้สึกสดชื่น

 

 

The Dishes

     อาหารของที่นี่มาในสไตล์ ‘Eurasian Food’ ซึ่งเป็นการผสมผสานวัตถุดิบและรสชาติของ 2 ซีกโลก ทั้งยุโรปและเอเชียเข้าไว้ด้วยกัน จนก่อเกิดเป็นสิ่งใหม่ มีหลากหลายเมนูที่เราคิดว่าเข้าท่าน่าสนใจ

     เริ่มต้นจาก สลัดแตงโมกับปลาแห้งญี่ปุ่น (240 บาท) จานนี้ได้รับแรงบันดาลใจมาจากเมนู ‘แตงโมปลาแห้ง’ อันเลื่องชื่อของไทย แต่ดัดแปลงนิดหน่อยโดยใช้ปลาแห้งของญี่ปุ่นมาเป็นวัตถุดิบ ให้รสชาติแปลกใหม่แต่กลับคุ้นเคยอย่างน่าประหลาด

     เมนูที่เรารักมากๆ อีกจานหนึ่งเพราะรสชาติดี หอม และถูกปากคือ แบล็กทรัฟเฟิลสปาเกตตีและครีมซอสสูตรพิเศษ (580 บาท) หน้าตาคล้ายคาโบนาราทั่วๆ ไป แต่ความพิเศษคือสูตรลับเฉพาะของทางร้านที่นำมะเขือม่วงมาเป็นส่วนผสมของครีมแทนที่จะใช้ชีส ตกแต่งหน้าด้วยแบล็กทรัฟเฟิล ให้กลิ่น รสชาติ และความรู้สึกที่แตกต่าง เหมาะกับคนทานมังสวิรัติ

     พอร์กชอป (560 บาท) คือจานหลักที่หน้าตาน่าสนใจ พอร์กชอปย่างมาอย่างดี ประกบคู่กับซอสที่ทำจากแอปเปิ้ล และเพื่อเพิ่มอรรถรสเบิกประสาทลิ้น เขาจัดแอปเปิ้ลแช่อิ่มทั้งลูกและหอมแดงซอยผัดมาเคียง รับประทานรวมกันแล้วถึงรสถึงชาติ

 

 

The Drinks

     หากใครเป็นแฟนค็อกเทลสายหวาน เราขอแนะนำเครื่องดื่มซิกเนเจอร์ของร้านที่ทำเราแทบเข่าทรุดเพราะถูกจริตเสียเหลือเกิน Where Are You Tonight (350 บาท) เครื่องดื่มสีชมพูสดสวยซึ่งผสม Amaretto และไซรัปแตงโมเข้าด้วยกัน พร้อมโรยผงซูแมค ซึ่งเป็นผงเครื่องเทศเอาไว้ด้านบน หวานซ่อนเปรี้ยวให้รสชาติที่ร้ายกาจ

     และอีกแก้วที่เราปลาบปลื้มจนต้องเบิ้ลแก้วคือ ค็อกเทลเก๊กฮวย (350 บาท) ซึ่งเมื่อแรกจิบกลิ่นหอมของเก๊กฮวยเด่นชัดเหมือนกับเก๊กฮวยแก้วห้าบาทเย็นๆ ในร้านขายยาที่เราเคยดื่มสมัยเด็กๆ แต่ความขมของเหล้าก็ช่วยทำให้เราได้รสชาติที่รู้สึกโตขึ้น ดื่มง่ายและน่าประทับใจ

     ที่สำคัญเพื่อนคนสนิทอย่าง Nowhere สามารถแนะนำในการจับคู่เครื่องดื่มให้เข้ากับอาหารจานต่างๆ ได้อีกด้วย คุณแค่ลองสังเกตดูได้ที่เมนูของทางร้านหรือขอคำแนะนำจากพนักงานเสิร์ฟก็ได้

 

Nowhere

Open: วันจันทร์-วันเสาร์ เวลา 17.00-23.00 น.

Address: ชั้น 6 โรงแรม THA City Loft Hotel เอกมัย ซอย 6 ติดกับบิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ เอกมัย

Budget: 50-1800 บาท

Contact: 09 9394 4417

Website: www.nowherebkk.com

Page: www.facebook.com/nowherebkk

Map: