1. รู้ให้ชัดว่าใจเรากลัวอะไรกันแน่
เมื่อใจเราอยากรักแต่ก็กลัว อย่างแรกเลยคือต้องรู้ให้ชัดว่าเรากลัวอะไรกันแน่ ลองถามตัวเองง่ายๆ บางคนกลัวถูกปฏิเสธใช่ไหม? หรือกลัวเสียเวลากับคนที่ไม่ใช่? บางคนก็กลัวว่าจะโดนทำร้ายจิตใจเหมือนครั้งก่อนๆ? เวลาเรารู้ว่า “อ๋อ ใจเรากลัวแบบนี้นี่เอง” มันจะช่วยให้เราจัดการกับความกลัวได้ดีขึ้นเยอะเลย และอย่าลืมว่าความรู้สึกกลัวการเจ็บเป็นเรื่องปกติมาก ไม่ใช่แค่เรา แต่ทุกคนที่เคยรักก็กลัวเหมือนกัน
TIP: ลองจดบันทึกความกลัวของเราลงมาให้ชัดเจน บางทีพอเห็นเป็นตัวหนังสือแล้ว เราอาจจะรู้สึกว่ามันไม่น่ากลัวอย่างที่คิดก็ได้
2. มองความรักใหม่ให้เป็นประสบการณ์ชีวิต
แทนที่จะมองว่าความรักคือการได้หรือเสียใครสักคน ลองมองใหม่ว่ามันคือประสบการณ์ที่ทำให้เราเติบโต ความรักเป็นเหมือนบทเรียนที่ไม่ว่าจะจบแบบไหน เราก็ได้เรียนรู้อะไรใหม่ๆ เกี่ยวกับตัวเองเสมอ ลองโฟกัสที่ปัจจุบันแทนที่จะกังวลว่า “สุดท้ายจะเป็นอย่างไร” ให้มีความสุขกับช่วงเวลาดีๆ ที่มีตอนนี้ดีกว่า และฝึกปล่อยวางบ้าง เพราะชีวิตเต็มไปด้วยความไม่แน่นอนอยู่แล้ว ถ้าเรารอให้ทุกอย่างแน่นอน เราอาจจะไม่ได้เริ่มต้นอะไรเลย
3. สร้างความมั่นใจในตัวเอง
รู้ไหมว่าทำไมบางคนไม่ค่อยกลัวความรัก? เพราะเขามั่นใจในตัวเองนั่นเอง ลองเริ่มจากการรักตัวเองก่อน เมื่อเรารักตัวเอง เราจะไม่ค่อยกลัวว่าคนอื่นจะไม่รักเรา และอย่าลืมเชื่อในคุณค่าของตัวเองด้วย คุณมีค่าและคู่ควรกับความรักที่ดี ไม่จำเป็นต้องยอมรับความสัมพันธ์ที่ไม่ดีเพราะกลัวว่าจะไม่มีใครรัก นอกจากนี้ยังควรตั้งขอบเขตให้ชัดเจน รู้ว่าอะไรที่ยอมรับได้ อะไรที่ยอมรับไม่ได้ การมีขอบเขตที่ชัดเจนจะช่วยปกป้องหัวใจเราได้เป็นอย่างดี
TIP: ลองเขียนข้อดีของตัวเองสัก 10 ข้อ แล้วอ่านมันทุกเช้า เพื่อเตือนตัวเองว่าเราเป็นคนที่น่ารักและมีคุณค่า
4. ค่อยๆ เปิดใจทีละนิด
ไม่มีใครบอกว่าเราต้องเปิดใจรัก 100% ตั้งแต่วันแรก การเปิดใจค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไปก็ได้ เริ่มจากการให้โอกาสตัวเองได้รู้จักใครสักคน ไม่ต้องรีบตัดสินใจว่าชอบหรือไม่ชอบ พยายามพูดคุยความรู้สึกตรงๆ บอกอีกฝ่ายว่าเรากลัวอะไร กังวลอะไร คนที่ใช่จะเข้าใจและให้เวลาเรา แล้วค่อยๆ สร้างความไว้วางใจ ซึ่งความไว้วางใจต้องใช้เวลาสร้าง ลองสังเกตว่าอีกฝ่ายทำตามที่พูดไหม รักษาสัญญาไหม ให้เวลากับขั้นตอนนี้ ไม่ต้องรีบร้อน
5. ถ้ายากเกินไป อย่าลืมว่ามีคนช่วยได้
บางทีความกลัวอาจเกิดจากบาดแผลในอดีตที่ลึกกว่าที่คิด ถ้ารู้สึกว่าเกินกำลังจะจัดการ ลองปรึกษาคนรอบข้างดู ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนสนิทที่ไว้ใจได้ พี่น้องหรือผู้ปกครองที่เข้าใจ ครูแนะแนวหรือนักจิตวิทยาโรงเรียน หรือนักจิตวิทยาวัยรุ่น การขอความช่วยเหลือไม่ใช่เรื่องน่าอาย แต่เป็นการแสดงความกล้าหาญและความรับผิดชอบต่อตัวเองต่างหาก
สุดท้าย…อย่าลืมว่าการก้าวข้ามความกลัวต้องใช้เวลาและความกล้าหาญ ค่อยๆ ก้าวไปทีละก้าว ไม่ต้องรีบ และไม่ต้องกดดันตัวเอง จริงๆ แล้วโอกาสที่จะได้พบกับความรักที่ดีและสวยงามนั้น มันคุ้มค่ากับความกลัวที่เราต้องเผชิญ เพราะในที่สุดแล้ว สิ่งที่น่าเสียดายที่สุดคือการไม่กล้าลองเลย “ใจเราก็อยากรักนะ แต่กลัวเจ็บ แต่ความรักก็เหมือนการออกเดินทาง อาจไม่รู้ว่าจะจบลงที่ไหน แต่ถ้าไม่กล้าก้าวออกไป ก็อาจจะไม่มีวันได้พบกับความสวยงามที่รออยู่ข้างหน้าเลย คนที่ต้องเลือกคือตัวคุณเองนะ”