ที่นี่ไม่ใช่บ้านเก่าที่นำมารีโนเวตเป็นคาเฟ่ใหม่แต่อย่างใด เพราะเจ้าของ ‘Vanich house’ เปิดบ้านอายุร้อยปีหลังปัจจุบันที่อาศัยมานานตั้งแต่บรรพบุรุษ ให้ทุกคนเข้ามานั่งเล่น กินขนมจิบเครื่องดื่มกันสบายๆ เหมือนแวะมาแฮงเอาต์ใต้ถุนบ้านเพื่อนย่านตลาดน้อย
Vanich house จึงไม่ใช่แค่คาเฟ่เสิร์ฟชากับขนมโฮมเมด (ที่มีทีเด็ดคือกุนเชียงทำเอง) แต่ยังเป็นสเปซที่เต็มไปด้วยร่องรอยและเรื่องเล่าที่เราว่าน่าสนใจมากๆ หากใครได้ฟัง
The Vibe
“ตรงนี้เป็นบ้านของครอบครัว ผมไม่แน่ใจอายุที่แน่นอน แต่ตอนเข้ามาเก็บบ้านหลังจาก ‘อู่หลียุ่นเชียง (ชื่อโรงกลึง)’ ปิดตัว พวกเราเจอใบเสร็จที่เก่าที่สุดอยู่ในช่วงปี ค.ศ. 1927” กาจ ทายาทเจ้าของโรงงานเก่าหลังนี้เล่าให้ฟัง เพราะเดิมที Vanich house เคยเป็นทั้งบ้านและโรงกลึงผลิตเครื่องจักรไอน้ำ ก่อนปัจจุบันฝั่งโรงงานซึ่งเคยเต็มไปด้วยกลิ่นเหล็กและคนงานมากมายจะกลายเป็นสเปซเสิร์ฟชาและขนมแห่งนี้ไปแล้ว
ทว่าโต๊ะกลมที่คนงานเคยใช้กินข้าว เก้าอี้ไม้เก่า และโต๊ะตัวยาวที่เคยเป็นโต๊ะทำงานช่าง พวกเขายังเก็บไว้ทั้งหมดและนำมาวางให้เราใช้ในคาเฟ่แห่งนี้ด้วย
“ครอบครัวของผมอพยพมาจากเมืองจีน พื้นที่คาเฟ่ตรงนี้เคยเป็นพื้นที่ทำงานของช่าง ด้านหลังร้านเคยเป็นโรงกลึง โซนครัวหลังเคาน์เตอร์เคยเป็นห้องทำงานของอาเหย่ (ปู่ในภาษาจีน) ส่วนใต้ถุนบ้านที่อยู่ติดกับคาเฟ่เป็นบ้านซึ่งตอนนี้ผมยังอาศัยอยู่เหมือนเดิม”
เมื่อเดินผ่าน Vanich house จึงอาจดูไม่เหมือนบ้านไม้เก่าอายุร้อยปี แต่เป็นโรงงานหลังโตที่สร้างขึ้นจากไม้มากกว่า
กาจและภรรยา ปุ้ย ผู้อยู่เบื้องหลัง Vanich house เช่นกัน เล่าให้ฟังต่อว่าด้วยความที่ทั้งสองคนเป็นสถาปนิก (และมีออฟฟิศอยู่บนชั้น 2 ของคาเฟ่) จึงอยากรีโนเวตพื้นที่ใหม่ให้ทุกอย่างคงเดิมมากที่สุด เพื่อเก็บเสน่ห์ของพื้นที่เอาไว้ แต่ก็ยังได้โชว์ร่องรอยและบรรยากาศใหม่ๆ ไปด้วย
พวกเขาจึงทำการ ‘ดีดบ้าน’ ยกใต้ถุนให้สูงโปร่ง ทุกคนจึงจะเห็นเสาปูนเตี้ยๆ รองอยู่ด้านล่างโครงไม้ หลังคาโรงกลึงด้านหลังก็เปลี่ยนให้โปร่งแสงเพื่อเพิ่มความสว่าง เช่นเดียวกับการเลาะตะเข็บพื้นชั้นสองให้แสงลอดลงมาได้มากขึ้น จากโรงกลึงทึบๆ จึงกลายเป็นคาเฟ่บรรยากาศใหม่ที่เราว่าก็เข้าท่าไม่เบา
“ทุกอย่างแทบจะไม่เปลี่ยนไปเลย เพราะมันยังคงเป็นสเปซเดิม เราแค่ตกแต่งให้ดูดี Facade ด้านนอกก็ของเดิม แต่ในอีกมิติหนึ่ง พอเราเปลี่ยนวัสดุนิดหน่อย ปรับพื้นที่นิดหนึ่ง มันก็เปลี่ยนไปแบบสิ้นเชิงเหมือนกัน”
The Taste
ถ้าบอกว่า Vanich house เป็นคาเฟ่ก็ไม่ผิดนัก เพราะเจ้าของตั้งใจทำให้ที่นี่เป็น Cafe & Selected Shop ที่เสิร์ฟเมนูชาและขนมโฮมเมด แต่ก็มีเมนูกาแฟเบาๆ ให้จิบพอตื่น ซึ่งเราว่าทีเด็ดอยู่ตรงเบเกอรีที่ร้านทำเอง โดยเฉพาะเมนู Scone (เริ่มต้น 75 บาท) กับ Bagel (เริ่มต้น 85 บาท) ที่ใส่กุนเชียงสูตรกวางตุ้ง เป็นกุนเชียงทำกันเองในครอบครัว รสชาติเข้มข้น นำมาใส่ในขนมแล้วรสชาติดีมาก ทว่าอาจไม่ได้มีตลอดนะ เพราะฉะนั้นถ้าใครไปแล้วเจอพอดีต้องจิ้มเมนูนี้เลย
สำหรับเครื่องดื่มจะเป็นเมนูชาสกัดเย็นทำเอง เราแนะนำ Black Calamansi (85 บาท) ชาดำส้มจี๊ดสดชื่นๆ หอมกลิ่นเปลือกส้ม หรือใครอยากได้รสชาติกาแฟ ลองสั่ง Calamansi Americano (100 บาท) น้ำส้มจี๊ดท็อปช็อตเอสเพรสโซ เหมาะกับคนชอบคาเฟอีนเบาๆ
อีกเมนูประจำร้านคือน้ำแข็งไส เราได้ลอง Thai Milk Tea (99 บาท) วันไหนร้อนๆ แวะมานั่งกินเล่นให้เย็นๆ แล้วค่อยออกไปเดินเล่นกันต่อก็ได้
ส่วนของจุกจิกไปจนถึงของแต่งบ้านที่เห็นอยู่ในร้าน เป็นสินค้าของเพื่อนๆ ดีไซเนอร์ หรือเป็นของแฮนด์เมดจากพนักงานที่ออฟฟิศชั้นบน ถ้าใครถูกใจชิ้นไหนสามารถซื้อกลับไปได้เลย
ยกเว้นตู้เกม Pac Man ที่ตั้งไว้ให้หยอดเหรียญ เครื่องนั้นไม่ได้ขายนะ เพราะเป็นกิจการของลูกสาวเจ้าของร้านสำหรับหาค่าขนม
Good for
Vanich house เป็นเหมือนสเปซที่เปิดกว้างให้ทุกคนแวะมานั่งเล่น พูดคุยกัน หรือใครจะมานั่งพักใจชิลๆ พร้อมหนังสือสักเล่มก็ได้ เราชอบที่มองไปทางไหนก็ยังเห็นร่องรอยเดิม ทว่าทุกอย่างดูมีชีวิตชีวา เป็นพื้นที่ที่ชวนให้เดินสำรวจมุมนั้นทีมุมนี้ที
“พวกเราคิดว่าโปรดักต์ของพวกเราทั้งคู่คือสเปซ เป็นพื้นที่ของครอบครัวที่มีเรื่องราว ในวันหนึ่งที่รีโนเวตสเปซนี้เสร็จ โปรดักต์ของเราสองคนมันเสร็จแล้ว ตอนนี้เราแค่ปล่อยให้สเปซมันทำงานด้วยตัวมันเองด้วยการถูกใช้งาน” กาจกับปุ้ยบอก
ขอแอบกระซิบเพิ่มว่าบางสัปดาห์จะมีแม่หมอมารอเปิดไพ่ด้วย แต่เฉพาะวันหยุดเท่านั้น ถ้าใครมีดวงพอก็อาจโชคดีได้เจอ
Vanich house
Address: ซอยวานิช 2 (ติดกับฮงเซียงกง)
Open: วันพฤหัสบดี-อังคาร เวลา 10.30-17.30 น. (ปิดวันพุธ)
Contact: Vanich house
Budget: 100-300 บาท
Map: https://maps.app.goo.gl/kagS5EiUMXaCEZyB7