Road Of Cinnamon ร้านของคราฟต์ที่เปรียบเสมือนพิพิธภัณฑ์ประจำย่านทรงวาด

กลับไปเดินเล่นย่านทรงวาดรอบนี้มีร้านใหม่ให้แวะเข้าไปสำรวจกันอีกแล้ว แต่คราวนี้ร้านที่ว่าไม่ใช่คาเฟ่หรือร้านอาหาร แต่เป็นร้านขายของคราฟต์ที่ยูนีกและมีความเป็นทรงวาดแบบตะโกน เราเชื่อว่าแค่ทุกคนเปิดประตูเดินเข้าไปก้าวแรกก็จะรู้สึกแบบเดียวกัน

ร้านที่ว่านั่นก็คือ Road Of Cinnamon น้องใหม่ล่าสุดบนถนนทรงวาด ที่เกิดจากการรวมตัวกันของ 3 เพื่อนใหม่ ได้แก่ แจะ-ศิริวรรณ ธรณนิธิกุล เจ้าของร้านอี-กา และ A pink rabbit + Bob, โต๊ะ-สุวรรณี เจริญเลิศทวี เจ้าของธุรกิจเก่าแก่ในย่านทรงวาด และ กอล์ฟ-พลัฏฐ์ นิธิพิพิธชัย เจ้าของร้านโรงกลั่นเนื้อและ SONG WAT COFFEE ROASTER

กอล์ฟ โต๊ะ และแจะ ทีมงานเบื้องหลัง Road Of Cinnamon

“ร้านนี้เกิดจากการอยากเติมเต็มย่านทรงวาด เราจะทำอย่างไรให้ย่านนี้น่ารัก ก็เลยเกิดเป็นร้านรวมของคราฟต์ที่พวกเราช่วยกันเลือกสินค้ามาเอง และพวกเราจะไม่ดีไซน์อะไรเพิ่มกับของชิ้นนั้น เราจะทำหน้าที่แค่ Curate และ Select มาให้” พี่แจะเล่าให้ฟังท่ามกลางบรรยากาศร้านที่หอมกลิ่นดอกจำปาผสมอบเชยนิดๆ

Why Here?

อย่างที่บอกว่า Road Of Cinnamon เป็นร้านรวมของคราฟต์ที่ยูนีก ทุกอย่างที่ทุกคนจะได้เจอจากที่นี่ล้วนมีสตอรีและบางชิ้นหาไม่ได้จากที่อื่น พี่แจะเล่าให้ฟังว่า พวกเขาเดินทางไปถึงต้นตอแหล่งผลิต พูดคุยเลือกสินค้าต่างๆ มาเองกับมือ และสินค้าทุกชิ้นต้องมีเอกลักษณ์เท่านั้น เพื่อที่ว่าหากเราหยิบขึ้นมาเมื่อไรจะได้นึกถึงย่านทรงวาด

“ของ 80 เปอร์เซ็นต์ในร้านนี้เป็นฝีมือคนไทยหมดเลย นำมาจัดวางรวมกับของต่างประเทศ เช่น ชฎากับแชนเดอเลียร์ เพราะอีกหนึ่งความตั้งใจของพวกเราคือ อยากทำให้เห็นว่าเวลาฝีมือคนไทยไปวางอยู่กับคนต่างชาติ เราไม่แพ้ใครนะ” พี่แจะบอก

ฉะนั้นนอกจากความคราฟต์ที่ Curate สุดๆ แล้ว อีกสิ่งที่ Road Of Cinnamon ให้ความสำคัญไม่เป็นรองก็คือ การจัด Display และ Lighting ที่ต้องส่งเสริมให้ของทุกชิ้นในร้านดูน่าหยิบ น่าจับ ใครเดินเข้ามาจะได้อะไรติดไม้ติดมือกลับไป ไม่ว่าจะเป็นเด็กวัยรุ่นหรือผู้ใหญ่

“สำหรับพวกพี่ Road Of Cinnamon เป็นเหมือนพิพิธภัณฑ์ขนาดย่อมๆ ที่จับต้องได้จริง ซื้อได้จริง บางอย่างเอามาวางแล้วก็หมดไปรอบหนึ่งแล้ว พี่ก็ถือว่าเขาบริโภคงานคราฟต์ผ่านการนำเสนอของเรา”

Worth it

เราชอบที่ร้านนี้มีของแรร์เยอะ ของบางชิ้นหากหมดแล้วก็หมดเลย หรือบางอย่างเป็นของแปลกใหม่ที่หาซื้อไม่ได้จากที่อื่น อย่างเช่น กระเบื้องลายคลาสสิกที่หลายคนอาจคุ้นตา เพราะเป็นลายกระเบื้องในตึกเก่าย่านทรงวาด พี่แจะเล่าให้ฟังว่าเจอกระเบื้องลายนี้ตอนเปิดพื้นตึกเก่า ก่อนขึ้นไปเจอช่างฝีมือทำกระเบื้องลายเดียวกันที่จังหวัดเชียงใหม่พอดี เลยเอามาวางขายในร้านนี้ด้วย เผื่อว่าใครอยากได้งานเพนต์มือแบบแผ่นต่อแผ่น

หรืออย่างชามตราไก่ลายพิเศษที่ไม่เหมือนร้านทั่วไป ชามศิลาดล ผ้ามัดหมี่ฝีมือคนรุ่นใหม่ ไปจนถึงเครื่องเงินลายเรียบๆ ก็มีขายที่นี่เหมือนกัน

“เราอยากให้ทุกคนรู้สึกเหมือนมาเดินเล่นพิพิธภัณฑ์ ที่นี่เป็นเหมือนมิวเซียมแบบจับต้องได้จริงๆ ซื้อกลับไปได้จริงๆ พี่อยากให้เด็กรุ่นใหม่มาเดินดูของแบบนี้แล้วรู้สึกอะเมซิง เพราะของหลายอย่างบางคนอาจไม่รู้จักแต่มันสวยมาก เช่น พระจิ๋ว หรือเครื่องคราฟต์แกะสลักต่างๆ”

ส่วนราคาสินค้าใน Road Of Cinnamon จะเริ่มตั้งแต่ 5 บาท เป็นตัวอักษร Scrabble ที่ลูกค้าส่วนใหญ่ซื้อกลับไปตามชื่อตัวเอง สูงขึ้นไปจนถึงของชิ้นใหญ่ราคา 6 หลัก เป็นตู้ไม้สุดคราฟต์จากประเทศอินเดีย

Good for

Road Of Cinnamon ทำให้ย่านทรงวาดน่ารักขึ้นมาจริงๆ เพราะหากเป็นเมื่อก่อนหลายคนอาจแค่มาเดินเล่น กินข้าว แวะคาเฟ่ ถ่ายรูปเก๋ๆ ไปลงโซเชียล แต่อย่างตอนนี้เราเชื่อว่าหลายคนต้องอยากกลับมาเดินเล่นย่านนี้อีกบ่อยๆ เพราะอยากแวะมาดูว่า Road Of Cinnamon จะมีของอะไรใหม่ๆ ให้ซื้อติดไม้ติดมือกลับไปวางที่ห้องอีกบ้าง

“พี่อยากให้คนไทยรักคราฟต์ไทยโดยไม่รู้สึกโดนบังคับและไม่รู้สึกแก่ แต่รู้สึกเปรี้ยวเพราะฉันใช้ของคราฟต์”

เพราะฉะนั้นถ้าใครชอบสะสมของที่ไม่เหมือนใคร หรืออยากได้อะไรที่แปลกใหม่กลับไปวางที่บ้าน อย่าลืมแวะมาเชียว