Midlife Crisis BKK บาร์คูลๆ จากเชียงใหม่ที่ถ่ายทอด # และวลีเด็ดสู่ค็อกเทล

ช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมาถ้าใครมีโอกาสไปเชียงใหม่จะสังเกตได้ว่านอกจากคาเฟ่ที่ทยอยเปิดเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แล้ว ค็อกเทลบาร์ก็เช่นกัน สำหรับสายไนต์ไลฟ์หรือบาร์ฮอปปิ้ง เชียงใหม่เป็นอีกหนึ่งจุดหมายปลายทางที่น่าบินไปแวะสักคืน (สองคืน) เพื่อเปลี่ยนบรรยากาศ หาร้านมู้ดดีๆ สั่งค็อกเทลมาจิบ แล้ววันรุ่งขึ้นก็บินกลับ ยิ่งในช่วงโควิดที่ผ่านมาที่การเดินทางไปต่างประเทศยังเป็นเรื่องยาก การเปลี่ยนบรรยากาศของผู้คนยิ่งทำให้สีสันของเชียงใหม่เพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว

เช่นเดียวกับ Midlife Crisis ค็อกเทลบาร์ที่มีจุดเริ่มต้นจากเชียงใหม่ และกลายเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางยอดนิยมในยามค่ำคืน ผู้คนมากหน้าหลายตาแวะเวียนมาจิบอย่างไม่ขาดสาย ด้วยบรรยากาศและคอนเซปต์ดริงก์ที่ไม่เหมือนใคร ทำให้ Midlife Crisis ต้องปักหมุดตอกย้ำความ #ถ้าใจไม่แพ้ท่าแพก็แค่ปากซอย ขยับขยายบาร์จากเชียงใหม่มาสู่กรุงเทพฯ ในที่สุด

The Vibe

สำหรับบาร์สาขากรุงเทพฯ แห่งนี้ตั้งอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล ซอยสุขุมวิท 16 นี่เอง อยู่ชั้นบนของร้านอาหาร Peppe เมื่อขึ้นบันไดและผลักประตูเข้ามาจะพบกับห้องเล็กๆ คลุมด้วยม่านโทนสีน้ำเงิน และเคาน์เตอร์บาร์สีน้ำเงินอันโดดเด่น แม้จะมีโซฟาอยู่บริเวณมุมบาร์ทั้งสองฟาก แต่เราแนะนำให้นั่งหน้าเคาน์เตอร์จะดีที่สุด

The Taste

จุดเด่นของ Midlife Crisis นอกจากตัวค็อกเทลเองแล้ว ก็เห็นจะเป็นชื่อค็อกเทลแต่ละแก้วที่ตั้งชื่อตามวลีเด็ดหรือแฮชแท็กที่อยู่ในกระแสสังคม พร้อมดีเทลของดริงก์อีกเล็กน้อยให้พอเดาได้ว่าโทนของสิ่งที่กำลังจะสั่งนั้นจะออกมาแนวไหน

นอกจากซิกเนเจอร์ค็อกเทล ก็ยังสามารถสั่งคลาสสิกค็อกเทลได้ตามปกติ หากจิบครบทุกเมนูแล้ว หรืออยากได้ความตื่นเต้นเล็กๆ น้อยๆ อย่าลืมเรียกหา Cocktail Bet ตู้เสี่ยงดวงจิบที่มีกฎเพียงข้อเดียวว่า โยกเครื่อง 1 ที แล้วรอลุ้นแก้วถัดไปได้เลย ไม่ว่าผลจะออกมาแบบไหนก็จะต้องจิบตามนั้น โดยเครื่องจะมีช่องสามช่องเพื่อบอกรายละเอียดคร่าวๆ ของค็อกเทลที่บาร์เทนเดอร์จะรังสรรค์เพื่อคุณโดยเฉพาะ รับประกันความไม่ซ้ำใครแน่นอน

#ดื่มง่ายเหมือนใจเธอ #easylover (450 บาท) เมนูแรกและแก้วที่เหมาะสำหรับเริ่มต้นค่ำคืน โดดเด่นด้วยการใช้อูเมะชูเป็นเบสแล้วผสมทั้งน้ำมะเขือเทศและกะหล่ำม่วง จากนั้นเสริมกลิ่นและรสด้วยใบโหระพากับใบมะเดื่อ

#ลิ้นจี่ที่ไหนหนอ #whenyouseelycheeatall (450 บาท) อีกแก้วที่จิบง่ายขายคล่อง จินผสมไวต์เวอร์มุธกับลิ้นจี่และโซดา เสริมรสกลมด้วย Cacao Butter เห็นสีใสๆ แบบนี้ แก้วเดียวไม่เคยพอจริงๆ

เอาใจสาย Gin Fizz ด้วย #เห็นเธอมากดไลค์แล้วใจมันฟู #loveatfirstLIKE (450 บาท) เบอร์รีจินตามด้วยโฟมนุ่มๆ และองุ่นเคียวโฮให้พอเคี้ยวเล่นได้ ทั้งหอมและเข้าถึงไม่ยากแบบนี้ มีหรือจะไม่อยากลอง

#ตัดบัวอย่าเหลือใยตัดใจอย่าเหลือเธอ #lovelesslotus (450 บาท) มาแบบเรียบง่าย ไม่ซับซ้อน เพราะใช้แค่สกอตช์วิสกี้กับเวอร์มุธที่เบลนด์กับสตรอว์เบอร์รีและดอกบัว

#ถ้าใจไม่แพ้ท่าแพก็แค่ปากซอย #pearforunpairperson (450 บาท) ค็อกเทลตัวนี้เล่นกับคำพ้อง จับท่าแพมาชนกับเหล้าแพร์ซะเลย ผสมจินอีกเล็กน้อย พร้อมเหยาะไวน์อีกหน่อย

ส่งท้ายก่อนกลับแบบชาว Midlife Crisis ด้วย #ใน555มีน้ำตาซ่อนอยู่ #cryingcomedian (450 บาท) ค็อกเทลสไตล์มาร์ตินีแต่เบสด้วยไวต์รัมกับดรายไวน์ แล้วทำให้เดอร์ตี้ด้วยเคเปอร์และพริกดอง

Good for

อีกหนึ่งบาร์ดีๆ จากทีมงานคุณภาพที่ส่งตรงจากเชียงใหม่ ใครที่กำลังหาค็อกเทลบาร์บรรยากาศสบายๆ เป็นกันเองและอยู่ใจกลางเมือง ที่นี่คือคำตอบ และสำหรับเหล่าบาร์ฮอปเปอร์ทั้งหลาย จากที่นี่แล้วไปจิบต่อที่สุขุมวิท 22, 24, 26 ก็เป็นแพลนที่ไม่เลวเหมือนกัน