ก่อนจะเข้าสู่ช่วงกลางปี และมีบาร์เปิดใหม่อีกหลายแห่งรอให้ทุกคนแวะไปตามเก็บ เรามาเช็กกันหน่อยดีกว่าว่าตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมามีบาร์เปิดใหม่น่าสนใจที่ไหนบ้าง แล้วสายบาร์ฮอปปิ้งตามไปลองครบแล้วหรือยัง?
Gir
บาร์แห่งใหม่บนชั้น 40 ของตึก T-ONE ค็อกเทลที่นี่ได้แรงบันดาลใจมาจากคำ 3 คำ คือ ‘Wild / City / Coexistence’ แต่ละคำถูกตีความให้กลายเป็นซิกเนเจอร์ดริงก์ที่มีทั้งหมด 5 ตัว
เช่น Wild ตีความเป็นค็อกเทลใช้เทคนิคง่ายๆ ไม่ซับซ้อน มีการเพิ่มกลิ่นและรสให้มีความเป็นป่าเขาและธรรมชาติ หรือ City ค็อกเทลที่ใช้เทคนิคสมัยใหม่และกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ แก้วนี้มีความซับซ้อนขึ้น และเสิร์ฟในแก้วทรงสูง (Highball) เพื่อสื่อถึงความเป็นเมืองใหญ่
Open: เปิดทุกวัน เวลา 19.00-02.00 น.
Address: อาคาร T-ONE ชั้น 40 ซอยสุขุมวิท 40
Budget: 500-1,000 บาท
BAR US
บาร์มืดสลัวที่ดึงคอนเซปต์ห้องอาหารมาทวิสต์เป็นห้องดื่ม BAR US จะเสิร์ฟเครื่องดื่มด้วยกัน 4 หมวด ได้แก่ Starter, Main, After และ All Night ซึ่งแต่ละแก้วเน้นใช้ส่วนผสมสุดแปลก
เช่น Coriander + Cucumber + Roasted Rice (460 บาท) แก้วนี้ใช้ผักชีทั้งต้นปั่นรวมกัน ผ่านกระบวนการสกัดแล้วแพริ่งแตงกวา ข้าวคั่ว โดยมีเบสเป็นเตกีลา ให้ความเปรี้ยวหวานครีมมี่ไปกับโฟมด้านบน พร้อมบูสต์ความสดชื่นไปในตัว
Open: เปิดวันอังคาร-เสาร์ เวลา 18.00-00.00 น.
Address: ซอยสุขุมวิท 26 (จอดรถได้ที่ The Four Wings Hotel)
Budget: เริ่มต้น 500 บาท
Very Nice Bar
บาร์บรรยากาศสบายๆ ที่รู้สึกเหมือนนั่งดื่มในบ้านเพื่อน ร้านนี้เกิดจากกลุ่มเพื่อนที่อยากมีร้านนั่งชิลแบบไม่ต้องโหวกเหวกโวยวาย ไม่ต้องตะโกนคุยกัน จึงกลายเป็นบาร์แห่งนี้ที่ดูเรียบง่าย มินิมัลสไตล์ญี่ปุ่น
อาหารและเครื่องดื่มเป็นสไตล์โมเดิร์นอิซากายะ เมนูแนะนำอาทิ Ume Jello (ราคา 250 บาท) เหล้าบ๊วยหวานๆ ดื่มง่ายมากๆ เสิร์ฟพร้อมเยลลี่ให้เคี้ยวไปด้วยเพลินๆ
Open: เปิดตั้งแต่เวลา 18.00-23.00 น. ปิดวันจันทร์
Address: ตลาดน้อย
Budget: 110-500 บาท
Wongar
บาร์กลิ่นญี่ปุ่นที่เสิร์ฟไวบ์ดีๆ คู่ค็อกเทลเบสสาเก ซึ่งเราว่าเป็นเพียงไม่กี่บาร์ในย่านสะพานควายที่มีครบทั้งบรรยากาศ รสชาติ และเครื่องดื่มชวนนั่งพูดคุย แถมร้านยังให้ฟีลบาร์ลับหน่อยๆ เพราะทุกคนต้องขึ้นลิฟต์ไปชั้นบนสุดของอาคารจอดรถ ก่อนจะพบกับห้องออฟฟิศ สตูดิโอออกแบบ และบาร์แห่งนี้ที่เปิดอยู่บนชั้นเดียวกัน
เมนูแนะนำคือ ‘Shiso Desu Ka (320 บาท)’ ค็อกเทลอินฟิวส์ใบชิโสะแนวดื่มแล้วสดชื่น และ ‘Signature Mochi Sanbei (170 บาท)’ ลูกผสมระหว่างโมจิและขนมเซมเบ้ กลายเป็นโมจิกรอบๆ กินพร้อมสาหร่ายแผ่น
Address: ชั้น 8 โครงการ The Hub พหล-อารีย์
Open: เปิดวันอังคาร-อาทิตย์ เวลา 17.00-00.00 น. (วันอังคาร-พฤหัสบดี ปิดเวลา 23.00 น.)
Budget: 500-1,000 บาท
Bar Glide
บาร์ลับในร้านอาหารญี่ปุ่นบนชั้น 12 ของโรงแรม The St. Regis Bangkok ที่นี่จึงมีความเป็นญี่ปุ่นตั้งแต่การตกแต่ง อาหาร และค็อกเทล โดยเบสเครื่องดื่มส่วนใหญ่ใช้แอลกอฮอล์ของญี่ปุ่น และได้แรงบันดาลใจมาจากหนังสือชื่อ Tokyo Book Cocktail
เมนูอาทิ Sencha Sonic (500 บาท) เบสเป็นจินหมักกับใบเซนฉะ หรือ L.I.T (500 บาท) ค็อกเทลเบสสาเก ดื่มแล้วได้รสหวานๆ เหมือนนำ้ผลไม้ ยิ่งเสิร์ฟคู่กับพีชแล้วยิ่งรู้สึกหวานฉ่ำ
Open: เปิดวันอังคาร-อาทิตย์ เวลา 18.00-01.00 น.
Address: ชั้น 12 โรงแรม The St. Regis Bangkok
Budget: 450-2,500 บาท
Lost in Thaislation
บาร์ที่ใช้ค็อกเทลเสมือนไกด์บุ๊กแนะนำไอเดียร้านอาหารแก่นักท่องเที่ยวในย่านทองหล่อ นำโดยบาร์เทนเดอร์หญิงที่ทุกคนคุ้นหน้ากันดีอย่าง ฝาเบียร์ สุชาดา ที่คราวนี้เธอขอโชว์ฝีมือและความเป็นตัวเองให้ชัดเจนที่สุด
จึงเกิดเป็นค็อกเทลซีรีส์แรก Bangkok Street Food ที่ตั้งใจให้ทุกคนจิบแล้วอยากไปลองกินเมนูนั้นจริงๆ เพื่อเป็นการซัพพอร์ตธุรกิจ SMEs ในละแวกเพื่อนบ้าน เช่น ‘หมูสับเกี่ยมบ๊วย (455 บาท)’ ที่ลองแล้วต้องพุ่งตัวไปร้านข้าวต้ม เบสแก้วนี้เป็นวิสกี้ Fat Wash กับเบคอน แกล้มกับบ๊วยเค็มคำเล็กๆ ช่วยเพิ่มมิติให้รสชาติ
Open: เปิดวันพุธ-จันทร์ เวลา 19.00 น. เป็นต้นไป
Address: BTS ทองหล่อ ทางออก 3
Budget: เริ่มต้น 455 บาท
Hinoiri
บาร์แห่งใหม่ในซอยสุขุมวิท 26 ที่หยิบความเป็นญี่ปุ่นมาดัดแปลงให้กลายเป็นคอนเซปต์ล้ำๆ บรรยากาศของพระอาทิตย์ตก และเครื่องดื่ม อาทิ After Sunset (ราคา 400 บาท) ที่ตั้งใจให้ทุกคนดื่มหลังอาหารเย็น มีส่วนผสมคือรัมอินฟิวส์วานิลลา มีความหอมจากไซรัปและกลิ่นรมควัน
Open: เปิดวันอังคาร-อาทิตย์ เวลา 17.00-00.00 น.
Address: ชั้น 2 ของร้าน Mokuzou Juutaku กลางซอยสุขุมวิท 26
Budget: 400-1,000 บาท
Midlife Crisis
นอกจากตัวค็อกเทล อีกจุดเด่นของบาร์ Midlife Crisis ที่อิมพอร์ตมาจากเชียงใหม่ก็เห็นจะเป็นชื่อค็อกเทลที่ตั้งตามวลีเด็ดหรือแฮชแท็กที่เป็นกระแสสังคม พร้อมดีเทลของดริงก์อีกเล็กน้อย ให้พอเดาได้ว่าโทนของสิ่งที่กำลังจะสั่งนั้นจะออกมาเป็นแนวไหน อาทิ #ดื่มง่ายเหมือนใจเธอ (450 บาท) แก้วที่เหมาะสำหรับเริ่มต้นค่ำคืน ใช้ Umeshu เป็นเบส ผสมน้ำมะเขือเทศและกะหล่ำม่วง
แต่ความสนุกของที่นี่จริงๆ เราว่าเป็น Cocktail Bet ตู้เสี่ยงดวงจิบที่ให้โยกเครื่อง 1 ที แล้วรอลุ้นว่าจะได้เมนูอะไร
Open: เปิดวันอังคาร-อาทิตย์ เวลา 18.00-00.00 น.
Address: ซอยสุขุมวิท 16 (ตรงข้ามสำนักงานกฎหมายธรรมสาส์น)
Budget: 500-1,000 บาท
Chenin
เนเชอรัลไวน์บาร์แห่งใหม่โดยทีม ASOK Pi SHOP ที่มาในชื่อว่า Chenin แต่ที่นี่ไม่ได้มีแค่ไวน์เท่านั้น เพราะเขายังจริงจังเรื่องกับแกล้มด้วย โดยมีทั้งของกินเล่นไปจนถึงเมนคอร์สจริงจัง และเมนูจะเปลี่ยนทุกสัปดาห์ ขึ้นอยู่กับวัตถุดิบและความคิดสร้างสรรค์ของทีมเชฟ
Open: วันอังคาร-เสาร์ เวลา 18.00-00.00 น.
Address: 29/4 ซอยสุขุมวิท 31
Budget: 1,000-2,000 บาท
Rimshot
บาร์แห่งใหม่โดยทีม Sugarray Apartment ที่เน้นเสียงดนตรีกระแทกใจ ให้ทุกคนมาดื่มและสนุกกันแบบสุดๆ เช่นเดียวกับเมนูค็อกเทลของร้านที่มาในคอนเซปต์เกี่ยวกับเสียงเพลงและศิลปินเช่นกัน
บอกเลยว่านี่คือบาร์ที่คนรักเสียงเพลงไม่ควรพลาดจริงๆ
Open: เปิดทุกวัน เวลา 19.00 น. เป็นต้นไป
Address: ซอยสุขุมวิท 22
Budget: 500-1,000 บาท
Charlie Bar
บาร์ค็อกเทลในซอยสาทร 10 ที่เปิดอยู่ติดกับร้านอาหาร Oysterman ร้านนี้จึงมาพร้อมเมนูกินเล่นสไตล์ฝรั่งเศส ค็อกเทลที่ใช้เบสหลากหลาย และเสียงเปียโนบรรเลงสดช่วงค่ำคืน
Open: เปิดทุกวัน เวลา 17.00-00.00 น.
Address: ซอยสาทร 10
Budget: 1,000-2,000 บาท
Bees Things & Flowers
บาร์ในตึกเก่าตรงหัวมุมถนนไมตรีจิตต์ โดยร้านจะเปิดอยู่บนตึกเดียวกับคาเฟ่ Pompano ด้านในมาพร้อมบรรยากาศสไตล์วินเทจ และวิวย่านหัวลำโพงยามค่ำคืนจากชั้น 3 ส่วนเมนูมีทั้งอาหารและเครื่องดื่มครบ เหมาะชวนเพื่อนมานั่งชิลด้วยกันมากๆ
Open: เปิดวันพุธ-อาทิตย์ เวลา 15.00-23.00 น.
Address: ถนนไมตรีจิตต์
Budget: 800-1,500 บาท