LIFE Wellness Day 2025 ปิดฉากลงอย่างงดงาม พร้อมส่งมอบ 12 แนวคิดปฏิวัติสุขภาพกายใจสู่ความยั่งยืน ที่จะเปลี่ยนมุมมองการใช้ชีวิตของคุณไปตลอดกาล เราถอดรหัสเคล็ดลับการมีชีวิตยืนยาวอย่างมีคุณภาพจากสองผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพอย่าง หมอเพื่อน-พญ.กอบกุลยา จึงประเสริฐศรี และ หมอโอ๊ค-นพ.สมิทธิ์ อารยะสกุล ผู้ที่มาเปิดเผยแก่นแท้ของ Longevity Lifestyle: The New Luxury of Ageless Living
นอกจากนี้ เรายังเจาะลึกการเยียวยาจิตใจในยุคที่ความเครียดเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต โดยได้รับแนวคิดอันล้ำค่าจาก ดุจดาว วัฒนปกรณ์ ผู้ก่อตั้งบริษัท Empathy Sauce และ SOULSMITH นักจิตบำบัดมืออาชีพ และ ยิปซี-คีรติ มหาพฤกษ์พงศ์ อินฟลูเอนเซอร์และยูทูเบอร์ที่เคยผ่านมาทั้งความเครียด ความ Toxic ในหน้าที่การงาน มาร่วมเปิดใจและวิธีออกจากการเป็นคนเมืองสายแบกอย่างหมดเปลือกในเซสชัน Urban Burnout: The Art of Reset & Stress Detox มาดูกันว่าแต่ละเวทีของ LIFE Conversation ภายในงาน สปีกเกอร์แต่ละท่านจะมีแนวคิดดีๆ อะไรมาฝากเรากันบ้าง
Longevity Lifestyle: The New Luxury of Ageless Living
“ทุกคนเกิดมามีสิ่งที่กําหนดเราเรียกว่า Genetic พ่อให้มาเท่าไร แม่ให้มาเท่าไร กลายมาเป็นตัวเรา สิ่งนี้เป็นเพียงแค่ 10% ที่จะเกิดขึ้นกับเราในอนาคต อีก 90% เขาเรียกว่ายีนปลายเปิด หรือ Epigenetic
“แปลว่าการใช้ชีวิตเรา แค่เราเปลี่ยน ยีนก็เปลี่ยนกลับไปทางที่ดีได้ เพราะฉะนั้น Environment การใช้ชีวิตของเรา อาหาร ออกกําลังกาย เขาล้วนแต่ไปเปิดยีนที่ดีให้มันทํางาน
คําว่า Longevity เราจะมีชีวิตยืนยาวได้มันคือการใช้ชีวิตของเราเองอีก 90% ด้วยไลฟ์สไตล์ด้วยพฤติกรรมที่ดี” หมอเพื่อน-พญ.กอบกุลยา จึงประเสริฐศรี
“คอนเซปต์ของ Biological Age เริ่มต้นจากแล็บพื้นฐานที่เรามีข้อมูลจํานวนมากว่า ค่าแบบมันเป็นค่าของคนอายุเท่าไร แล้วตอนนี้เราอายุเท่าไร แล้วมันฉลาดพอที่จะ Detect ได้ว่าค่านั้นๆ ที่เราตรวจมันให้น้ําหนักกับอายุมากหรือน้อยแค่ไหน เป็นสิ่งที่เราเรียกกันว่าอายุชีวภาพนั่นเอง อันนี้คือจุดเริ่มต้นของการตรวจอายุชีวภาพ
“ส่วนปัญหาเฉพาะต่างๆ เราก็จะแก้ไขต่างกันไป ซึ่งคนที่จะรู้ดีที่สุดไม่ใช่คุณหมอ ต้องเป็นตัวเราเอง ตัวเรานี่แหละจะเป็นเจ้าของไข้ที่ดีที่สุด จับอาการให้ได้ แล้วนํามาเล่าให้ฟัง เพราะว่าอาการทุกอาการ ไม่มีอาการอะไรที่ไร้สาระสําหรับคุณหมออย่างพวกเราครับ” หมอโอ๊ค-นพ.สมิทธิ์ อารยะสกุล
“ไม่มีใครที่ไม่เครียดได้ในชีวิต ความเครียดก็เป็นสิ่งที่ดีที่ทําให้เราแอ็กทีฟ ถ้าเราไม่เครียด ไฟไหม้เราก็นั่งอยู่เฉยๆ ให้ไฟเผาถูกไหมคะ คอร์ติซอลก็ไม่ออกมา ให้มันออกมาบ้างเถอะค่ะ แต่ให้เขาออกมาในสิ่งที่พอดี ให้มาในช่วงที่จําเป็น ถ้าออกมาเยอะเกินไป ตัวที่ผลิตไขมันจะเพิ่มมากขึ้น สิวก็เลยขึ้นตอนเราเครียด เวลาที่เราอ่านหนังสือเยอะๆ ความเหี่ยวของคอลลาเจนมันก็มา ฝ้า ริ้วรอย สิวก็มา ผมหงอกก็มา
“นี่คือ Lifestyle Medicine เราไม่พูดแค่ทั่วๆ ไปว่าไม่ให้คนไข้เครียด แต่บอกไปถึงกลไก อธิบายว่าถ้าคุณเครียด ความไม่สวยงามที่เกิดขึ้นคืออะไร” หมอเพื่อน-พญ.กอบกุลยา จึงประเสริฐศรี
“อยากฝากไว้นิดหนึ่ง อย่ากระโดดไป Fancy Lab ผมมีคนไข้จํานวนมากที่รู้หลายเรื่องอย่างเทโลเมียร์อะไรแบบนี้ แต่เป็นเบาหวานไม่รู้ หลุดเรื่องง่ายๆ วัดความดันก่อน ชั่งน้ําหนักก่อน บางทีคืออย่ากระโดดข้ามไปอันที่มันแอดวานซ์ จริงๆ เช็กอัพประจําปีเราต้องทําอยู่แล้ว เอ็กซเรย์ปอด วัดระดับไขมัน ระดับเบาหวาน น้ําตาลในเลือด น้ําหนักตัว ความดันโลหิต การทํางานของตับและไต พวกนี้เป็นมาร์กเกอร์ทั้งนั้น ที่มีอยู่ในมือแล้วราคาไม่แพง ต้องทําก่อน แล้วแล็บแฟนซีต่างๆ มาปรึกษาคุณหมอก่อนนะครับ ต้องทราบว่าตรวจเพื่ออะไร
“ผมว่าสิ่งสําคัญที่มากกว่านั้นคือ ตรวจไปแล้วถ้าเจอว่าผิดปกติจะแก้อย่างไร ติดตามได้ไหม หลักฐานอยู่ในระดับไหน ไม่อย่างนั้นเราจะหมดเงินไปจํานวนมหาศาลเลย” หมอโอ๊ค-นพ.สมิทธิ์ อารยะสกุล
“การที่เราใช้สมองทั้งวันในการคิด มันไม่มีทางเบรกได้เลยค่ะ ขอแค่ 10-15 นาที ช่วงเวลาไหนก็ได้ที่คุณทําได้ ให้คุณอยู่กับสิ่งที่คุณเป็น ใช้ความรู้สึกจับ ไม่ใช้สมองคิด ความรู้สึกจับคืออะไร เหยียบหญ้าแล้วรู้ว่ามันชื้น กลิ่นเป็นอย่างไร บางคนนวดเพื่อผ่อนคลาย แต่ตอบไลน์ทํางานอันนี้ก็ไม่ได้ อันนี้คลื่นสมองก็ไม่นิ่ง นวดก็คืออยู่ที่เขาจับ อันนี้เย็นอย่างไร ชื้นอย่างไร อุ่นอย่างไร กลิ่นอย่างไร
นี่คือสมาธิแบบฝรั่งที่คุณจะได้ฮอร์โมนความสุขในทุกๆ วัน มันคือ Just feeling, not thinking.” หมอเพื่อน-พญ.กอบกุลยา จึงประเสริฐศรี
“ลองเลือกอะไรที่คุณคิดว่าเปลี่ยนได้ก่อน เลือกอะไรที่รู้สึกว่าด้วยวิถีชีวิตของเราตอนนี้แทรกเข้าไปสักนิดหนึ่งมันจะโอเค เริ่มจากระดับที่เราทําได้ อยู่ดีๆ ผมไม่สามารถไปวิ่งมาราธอนได้ แต่มันอาจจะเริ่มต้นมาจากการเดิน 10 นาทีต่อวันก็ได้
“ถ้าใครอยากลองปรับเปลี่ยนตัวเอง ลองคิดดูก็ได้ว่าข้อไหนที่รู้สึกว่าเป็นจุดบกพร่องของเรา เราดื่มหนัก เรานอนไม่ดี เรากินแย่มาก แล้วลองทีละขั้น พอได้หนึ่งขั้นแล้วไปเรื่อยๆ
จนสุดท้ายเมื่อคุณเก่งขึ้นแล้ว มันจะมีสเตจหนึ่งที่เราเรียกกันว่า Maintenance Phase เมื่อไรที่เราอยู่ตัวแล้วบอกคนอื่นได้อย่างเต็มปากว่า ฉันได้ทําอย่างนี้แล้วเกิดผลดีกับฉันแบบนี้ เธอลองดูสิ อันนี้คุณจะกลายเป็นโค้ช และเป็นผู้ที่สร้างพฤติกรรมสุขภาพที่ดีกับสังคมได้ และให้ผลดีกับตัวเองด้วยครับ” หมอโอ๊ค-นพ.สมิทธิ์ อารยะสกุล
Urban Burnout: The Art of Reset & Stress Detox
“ตอนที่เป็นอินฟลูเอนเซอร์และทำยูทูบใหม่ๆ ก็เคยเบิร์นเอาต์จนเกือบจะปิดช่องเลยค่ะ มันมีช่วงที่รู้สึกว่าความสร้างสรรค์หรือแพสชันมันหมดไป จากที่เคยสนุก มีไอเดียเต็มไปหมด กลายเป็นหมดมุก แม้งานจะเป็นงานเดิมที่เคยมีความสุขมาก แต่กลับรู้สึกไม่ภูมิใจในสิ่งที่ทำ และไม่มีความสุขเหมือนเดิม มันเป็นเหมือนภัยเงียบที่เราไม่รู้ตัว ปัจจัยหนึ่งที่มาย้อนคิดดูคือ ‘แรงกดดัน’ ซึ่งบางทีเราสร้างขึ้นเองว่ามันต้องดีกว่านี้ ต้องใหม่กว่านี้ แต่จริงๆ เราไม่จำเป็นต้องยิ่งใหญ่หรือแปลกใหม่ทุกครั้ง แค่ตั้งใจทำสิ่งที่ดีก็พอแล้ว อีกปัจจัยสำคัญคือ ‘การไม่ภูมิใจในสิ่งที่ทำ’ อะไรที่ไม่จริงใจจะทำไม่ไหว แม้จะพยายามรักษาสมดุลระหว่างงานกับ Value ของตัวเอง แต่บางช่วงที่ทำได้ไม่ดี เพราะต้องคำนึงถึงทีมด้วย ก็เกิดความขัดแย้งในใจ” ยิปซี-คีรติ มหาพฤกษ์พงศ์
“การเป็นนักจิตบำบัดไม่ได้หมายความว่าจิตใจต้องแข็งแกร่งตลอดเวลา มันก็ได้รับผลกระทบได้เหมือนกัน เคยเบิร์นเอาต์ช่วงที่ทำงานในองค์กรใหญ่ค่ะ ปกติเป็นฟรีแลนซ์มาตลอด แต่อยากลองทำงานประจำดูบ้าง ตอนแรกมีความสุขมาก ได้ทำสิ่งที่อยากทำ มีอิสระจากผู้บริหาร แต่พอผ่านไปประมาณ 6-7 ปีก็เริ่มเครียด ไม่อยากไปทำงาน เริ่มสังเกตเห็นตัวเองเดินไปตามลานจอดรถเพื่อพักหายใจ มองไปทางไหนก็เจอแต่สิ่งที่ไม่ชอบ ทั้งที่ตอนเข้ามาใหม่ๆ ทุกอย่างน่าสนใจไปหมด
“จริงๆ ดาวอยู่กับอาการขมขื่นเป็นระดับปีๆ เลยนะคะ เพื่อจะมั่นใจว่ามันจะไม่มีการยูเทิร์นกลับไปสภาวะเดิมนั้นอีก เพราะอย่างที่บอกว่ามันเป็นงานที่เรารักมาก เราจะไม่ลาออกด้วยเหตุผลเดียว ไม่ลาออกเพราะเหตุผลใดเหตุผลหนึ่ง เพราะฉะนั้นดาวจะอยู่จนดาวมั่นใจ ดาวจะค่อยๆ ลิสต์มันออกมา ซึ่งกว่าจะลิสต์มันออกมาได้ มันผ่านการใคร่ครวญค่อนข้างเยอะ” ดุจดาว วัฒนปกรณ์
“การพาตัวเองออกจากภาวะเบิร์นเอาต์ ยิปเลือกบอกเพื่อนในทีมไปตรงๆ ว่าสภาพจิตใจไม่โอเค ไม่มีความสุขเหมือนเดิม ขอเวลาไปทำความเข้าใจตัวเองสักพัก สิ่งที่ทำคือ ‘การเขียน’ ค่ะ สมมติตอนนี้รู้สึกเบื่อ ก็เขียนว่าเบื่อ ไม่ชอบอันนี้เลย ก็เขียนลงไป แล้วเวลาเราเขียนไปเรื่อยๆ เรากลับมามองในกระดาษนั้นอีกที มันจะเจอธีม หรือเจอ Big Picture อะไรบางอย่างว่า อ๋อ อันนี้มันมาเชื่อมกับอันนี้ เรื่องนี้มันมาโยงกับเรื่องนี้ อ๋อ เห็นแล้วว่า ‘ฉันไม่แฮปปี้เพราะว่าฉันไม่ภูมิใจในสิ่งที่ฉันทำ’ จากนั้นก็จำแนกสิ่งที่ทำให้เราไม่แฮปปี้ออกเป็น 2 หมวด คือ ‘สิ่งที่ทำอะไรกับมันได้’ กับ ‘สิ่งที่ทำอะไรกับมันไม่ได้’ เราจะโฟกัสที่หมวดแรก ส่วนหมวดที่สองก็ต้องปล่อยวาง อีกวิธีคือ ‘ธรรมชาติบำบัด’ มนุษย์เรายังต้องการการเชื่อมต่อกับธรรมชาติ ลองหาเวลาเอาเท้าเปล่าเหยียบดิน เหยียบทรายดูบ้าง อาจจะช่วยเยียวยาใจได้ค่ะ” ยิปซี-คีรติ มหาพฤกษ์พงศ์
“ตอนนั้นจะมีความไม่ไหวอยู่เยอะ ก็เลยไปวิ่งตอนเย็นที่สวนข้างเอ็มโพเรียม เวลานั้นดาวจะวิ่งไปบ่นไป ออกท่าทางหมดเลย เราเป็น Dance Psychotherapist เลยรู้ว่าร่างกายไม่โกหก มันรู้ว่าเราแบกอะไรอยู่ ก็ให้มันได้ขยับ ได้ระบายออกมา เพื่อที่เราจะได้ฟังตัวเองจริงๆ ว่าข้างในใจมันเป็นอย่างไร
“พอได้พ่นออกมาแล้วมันโล่งขึ้น บางทีก็รู้ว่า ‘อ๋อ นี่แค่อารมณ์’ แต่สิ่งที่มันยังอยู่จริงๆ คือ ‘ของแทร่’ พอมันตกตะกอนเราก็จะรู้เลยว่าอะไรคือปัญหาจริงๆ ก็ลิสต์ไปเรื่อยๆ พอมีเยอะๆ ก็มานั่งถามตัวเองว่า สิ่งที่ฉันไม่ชอบนั้นฉันควบคุมมันได้ไหม? ถ้าควบคุมได้ก็จัดการเลย แต่ถ้าควบคุมไม่ได้ก็เดินไปหาคนที่มีอำนาจจัดการ แล้วก็ชัดเจนเลยว่า อ๋อ มันจะไม่เกิดขึ้น! ทำให้เราแน่ใจว่าจะอยู่ต่อหรือพอแค่นี้ จนสุดท้ายก็เห็นว่าอะไรที่หวงที่สุด งานที่ชอบ? หรือสภาวะใจตรงนี้? ก็เลือกหัวใจไว้ก่อน งานชอบแค่ไหนก็ไว้ว่ากัน แต่ตรงนี้ (หัวใจ) ไม่ยอมให้เสียไป เพราะตอนนั้นมันพร่องไปเยอะมากแล้วค่ะ สุดท้ายก็ตัดสินใจเลือกตัวเอง” ดุจดาว วัฒนปกรณ์
“วิธีรีเซ็ตตัวเองคือถ้าช่วงไหนรู้สึกว่าอาการเบิร์นเอาต์เริ่มมา ก็จะทำเหมือนเดิมคือคุยกับตัวเอง เขียนออกมา ในชีวิตประจำวันก็สื่อสารกับทีม และพยายามปรับมายด์เซ็ตว่าไม่มีใครชอบงานตัวเอง 100% ทุกวัน มันต้องมีวันไม่ดีบ้าง แต่ให้คอยชั่งน้ำหนักว่าเมื่อไรที่ด้านไม่แฮปปี้มันเริ่มทำลายตัวเรามากเกินไปก็ต้องเลือก และไม่ต้องกลัวว่าจะเลือกผิด เพราะเรา ‘เลือกใหม่ได้’ เสมอค่ะ ถ้าให้ส่งข้อความถึงตัวเองในวันที่ยังหาทางออกจากเบิร์นเอาต์ไม่ได้ก็อยากบอกตัวเองในตอนนั้นว่า ‘ไม่ต้องกลัว ไม่ต้องนอยด์ เพราะมันไม่อยู่ตลอดไปหรอก มันเป็นแค่สภาวะหนึ่ง เดี๋ยวก็หายไป’” ยิปซี-คีรติ มหาพฤกษ์พงศ์
“การ Reset มันคือการที่ดาวเอาอำนาจกลับมาที่ตัวเอง จากเมื่อก่อนที่เราอาจจะรอคอย ไม่มีโอกาสเลือกอะไรมาก ตอนนี้เราจะเลือกมากขึ้นว่าอยากทำอะไร มันเหมือนเป็นการป้องกันไม่ให้เราเดินไปในทางที่เราไม่ค่อยมีอำนาจ จะทำอะไรหรือไม่ทำอะไร ก็เลือกแบบที่เหมาะกับตัวเอง เลือกสิ่งที่มันสอดคล้องกับคุณค่าในชีวิต เราต้องซื่อสัตย์กับตัวเองว่าถ้าเราให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ คนอื่นไม่เห็นด้วยก็ไม่เป็นไร เพราะเราถือ Value คนละชุด ถ้าเราเลือกสิ่งที่มันบูสต์เราทุกวัน แนวโน้มเบิร์นเอาต์มันก็จะน้อยลง
“หรือถ้าคนอื่นจะเลือกให้เรา เราก็จะบอกให้เขาหยุดเลยว่า ‘เราไม่สะดวกให้เลือกให้’ สุดท้ายมันจะกลับมาเรื่อง Boundaries (ขอบเขต) ที่เราค่อนข้างจะหวงแหนตัวเอง เบิร์นเอาต์นี่มันขโมยเวลาชีวิตเราไปเยอะมาก ถ้าเจอแล้วเราจะไม่อยากให้มันกลับมาอีก แต่ถ้ากลับมาอีกเราก็ต้องจัดการให้ได้ค่ะ อยากบอกตัวเองว่าเก่งมากที่ยังอยู่ แล้วก็ใคร่ครวญ แล้วก็ไม่วิ่งหนี กล้าที่จะเผชิญหน้าและรับฟังทุกอย่างที่เกิดขึ้นอย่างละเอียดลออ เก่งมากที่อยู่ตรงนั้นนานจนมันหมดจดจริงๆ” ดุจดาว วัฒนปกรณ์
ภาพ: THE STANDARD TEAM